“ป๋า”มอบทุนนร.อีสานที่โคราชไม่หวั่นแดงป่วน – ชี้ผู้ใหญ่ช่วยเหลือดูแลเด็กเป็นคุณมหาศาล

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ป๋าเปรม” ไม่หวั่นม็อบแดงป่วน เป็นประธานมอบทุนการศึกษาเด็กนักเรียน 19 จังหวัดภาคอีสานที่โคราชยิ้มแย้มสบายใจ ชี้ผู้ใหญ่ช่วยเหลือดูแลเด็กเยาวชนให้มีอนาคต มีความรู้ความสามารถถือเป็นการทำประโยชน์ยิ่งใหญ่มหาศาล พร้อมมอบ พร้อมมอบพระบรมรูป “ร.5” ให้แม่ทัพภาค 2 เป็นที่ระลึกเกษียณอายุราชการ เผยเข้าพักบ้านโคราชต่อยังไม่มีกำหนดเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้านจนท.คงมาตรการอารักขาเข้ม





วันนี้ (19 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุมชั้น 2 หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ หลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษามูลนิธิเปรมติณสูลานนท์จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2552 และมอบรางวัลการประกวดโครงงานนักเรียนระดับภาคครั้งที่ 7 ประจำปี 2552 แก่นักเรียน นักศึกษา ฐานะยากจนและบุตรข้าราชการทหาร ตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในภาคอีสาน

โดยมี ข้าราชการระดับสูง นำโดย พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ในฐานะประธานมูลนิธิฯ , พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพน้อยที่ 2 , พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) , พล.ต.ท.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) และ นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมผู้ว่าราชการจังหวัด 18 จังหวัดภาคอีสาน ผู้นำองค์กรภาครัฐเอกชน พ่อค้า นักธุรกิจและนักเรียนนักศึกษา จาก 19 จังหวัดภาคอีสานเหนือเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษา ที่เรียนดี มีความประพฤติเรียบร้อย แต่ขาดทุนทรัพย์ในภาคอีสาน รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนการกีฬา ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของภาคอีสาน และส่งเสริมการศาสนา การกุศล สาธารณะ หรือร่วมมือกับองค์กรกุศลอื่นๆ โดยในปีนี้ทางมูลนิธิฯ ได้จัดมอบทุนการศึกษาให้กับเยาวชนที่ยากจน และ บุตรข้าราชการทหารตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่จำนวนกว่า 1,800 ทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านบาท

ทั้งนี้ พล.อ.เปรม ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ วันนี้ (19 ก.ย.) แต่งชุดพระราชทานผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม ใบหน้าสดชื่น ยิ้มแยมทักทายกับเด็ก ๆ ที่เข้ารับทุนการศึกษาอย่างสบายใจ โดยไม่แสดงความกังวลใจ กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปขับไล่ที่หน้าบ้านพัก “บ้านแม่ทัพ” ถ.สืบศิริ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อเช้านี้แต่อย่างใด

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้กล่าวให้โอวาทกับผู้มาร่วมงานหลังมอบรางวัลและทุนการศึกษา ว่า ต้องขอขอบคุณผู้มีน้ำใจมาร่วมบริจาคเงินให้กับมูลนิธิฯ ในวันนี้ เด็กที่มารับทุนการศึกษาคงทราบแล้วว่าเงินมาจากบรรดาผู้ใหญ่ของชาติบ้านเมืองเราที่ปรารถนาดี ห่วงใยเด็ก ๆ ที่ไม่มีเงินจะเรียนหนังสือจึงนำเงินมามอบให้ และขอให้เข้าใจว่าเงินเหล่านี้มาจากผู้ใหญ่ใจดีมีความรักเด็กและเยาวชน อยากเห็นเด็กในภาคอีสานได้เรียนหนังสือ เพื่อจะได้เป็นเด็กดี เป็นอนาคตของชาติ

สำหรับมูลนิธิพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดนครราชมีมา ตั้งมาตั้งแต่ปี 2528 มีการสับเปลี่ยนแม่ทัพภาคที่ 2 มาเป็นประธานฯ ตามวาระ และมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นรองประธานฯ มูลนิธิฯ อยู่ได้มาจนถึงวันนี้เพราะได้รับความเอื้อเฟื้อและความดูแลจากท่านผู้ใจบุญ และการที่พวกเราทำประโยชน์ให้กับเด็ก ๆ ทั้งหลายนี้ ถือว่ายิ่งใหญ่มหาศาล เพราะเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าและน่าภาคภูมิใจ ว่าเราได้ดูแลเด็ก ๆ ในภาคอีสานให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มพูนขึ้น

ขอขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีรวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคอีสานที่ช่วยกันดูเด็กๆ ซึ่งอยากจะให้ขยายโครงการนี้เผยแพร่ออกไปทั่วประเทศ เพื่อเด็ก ๆ อีกหลายคนจะได้รับโอกาส

นอกจากนี้ พล.อ.เปรม ยังได้กล่าวถึง พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ว่า แม่ทัพภาคที่ 2 คนนี้รับราชการที่อีสานตั้งแต่เป็นยศร้อยตรีจนกระทั่งเป็นพลโท และก็จะเกษียณอายุไป ท่านได้ดูแลพัฒนาภาคอีสานให้เจริญก้าวหน้า แต่การรับราชการก็ต้องมีเกษียณอายุเป็นธรรมดา สิ่งที่จะฝากกันไว้คงเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของท่านที่ทำให้แก่ประเทศชาติ และควรจะจดจำไว้ว่าสิ่งที่ท่านได้ทำไว้ให้นั้นเกิดประโยชน์แก่ประชาชนภาคอีสานอย่างไรบ้าง

จากนั้น พล.อ.เปรม ได้มอบพระบรมรูป รัชการที่ 5 ให้กับ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ไว้เป็นที่ระลึกเพื่อบูชาและความเป็นสิริมงคล ก่อนกล่าวอวยพรให้ผู้ร่วมงานประสบแต่ความสุข สำเร็จ และขออำนวยพรให้พระสยามเทวาธิราชจงคุ้มครอง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจมอบทุนแล้ว พล.อ.เปรม เดินทางไปยังบ้านพัก “บ้านแม่ทัพ” เลขที่ 1885 ถ.สืบศิริ หน้ากองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยยังไม่มีกำหนดเดินทางกลับบ้านสี่เสาเทเวศร์ กรุงเทพฯ แต่อย่างใด ขณะที่ตำรวจและทหารยังคงใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญอย่างเข้มงวด