xs
xsm
sm
md
lg

“แบม” หมั้นแล้ว อีก 3 เดือนแต่ง ว่าที่เจ้าบ่าวเผย ปิ๊งแรกพบ เปรย อยากให้วางมือการเมือง เป็นแม่บ้านอย่างเดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แบม” หมั้นแล้วกับแฟนนักธุรกิจวัย 40 ส่วนฤกษ์แต่งต้องรออีก 2-3 เดือน ว่าที่เจ้าสาว เผย ประทับใจที่ฝ่ายชายเป็นคนจริงใจ มีความอบอุ่น ทำให้มั่นใจจะเป็นผู้นำครอบครัวได้ดี ด้านเจ้าบ่าวฟุ้ง ปิ๊งตั้งแต่แรกพบ อีกทั้งชอบในความเป็นคนจิตใจงามของฝ่ายหญิง บอกอยากมีลูกเลย พร้อมเปรยหลังแต่งงานอยากให้วางมือการเมือง มาเป็นแม่บ้านอย่างเดียว

เข้าพิธีหมั้นไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (26 เม.ย.) ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล สำหรับอดีตพิธีกรและนักการเมืองสาว “แบม จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์” กับแฟนหนุ่มนักธุรกิจวัย 40 “โบ๊ท บุตรรัตน์ จรูญสมิทธ์” หลังทั้งคู่คบหาดูใจกันมาปีกว่า ซึ่งพิธีหมั้นจัดแบบประเพณีไทย หนุ่มโบ๊ทแต่งกายด้วยเสื้อผ้าไหม แบบชุดพระราชทานสีครีมทอง ส่วนสาวแบมแต่งกายด้วยชุดไทยจักรี พิธีเริ่มขึ้นประมาณ 09.29 น.ฝ่ายชายตั้งขบวนขันหมาก และกลองยาวพร้อมชุดนางรำแห่มาสู่ขอฝ่ายหญิง ที่มีการกั้นประตูกว่า 20 ประตู จากนั้น “โบว์ ชญาดา” ซึ่งเป็นน้องสาวได้เป็นผู้ทำหน้าที่นำตัวแบมเข้าสู่ห้องพิธี โดยโบ๊ทรอรับด้วยดอกไม้ 1 ช่อ จากนั้นโบ๊ททำการสวมต่างหู และสร้อยข้อมือทองฝังเพชรให้กับแบม และสวมแหวนหมั้นให้ ส่วนแบมสวมแหวนหมั้นให้โบ๊ท เป็นเสร็จขั้นตอน

บรรยากาศในงานมีเฉพาะญาติใกล้ชิดและเพื่อนสนิทของทั้ง 2 ฝ่าย จำนวนประมาณ 180 คน แนวงานกำหนดให้เป็นสีโทนฟ้าและชมพู ซึ่งเป็นสีประจำวันเกิดของทั้งคู่ ของชำร่วยเป็นครีมทามือขนาดพกพา เพื่อสื่อความหมายของความรักที่ชุ่มชื่นและหอมหวาน ซึ่งทั้งคู่เป็นคนเลือกกันเอง

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการ ในเวลาประมาณ 13.30 น.สาวแบมก็ได้ควงแขนคู่หมั้นออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม พร้อมแย้มถึงรายละเอียดงานให้ฟังว่า.......
แบม : “เมื่อเช้านี้พิธีก็เริ่มประมาณ 9 โมงครึ่งนะคะ ก็เป็นขันหมากของฝ่ายชาย ซึ่งนำโดยท่าน ดร.สุบิน ปิ่นขยัน แล้วก็ภรรยา เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายชาย ซึ่งเป็นผู้ที่ทางครอบครัวของพี่โบ๊ทให้ความเคารพนับถือ เพราะว่าเป็นผู้ที่มีพระคุณกับคุณพ่อ คุณแม่พี่โบ๊ท แล้วก็ลูกชายของท่านสุบิน ปิ่นขยัน ท่านก็เป็นเพื่อนสนิทของพี่โบ๊ทซึ่งเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ในช่วงเช้าแบมไม่ได้อยู่ในขบวนนะคะ ก็รู้สึกว่าฝ่าด่านมาเยอะมั้ยคะ”
โบ๊ท : “เยอะมากเลยครับ (หัวเราะ) ทางฝ่ายนี้ญาติเยอะมาก 20 ประตูได้”
แบม : “ก็ฝ่ามายังไง แบมไม่รู้ได้นะคะ แต่รู้สึกประตูสุดท้ายจะเป็นน้องโบว์ (หัวเราะ) ปล่อยง่ายมั้ย”
โบ๊ท “น้องโบว์ไม่ค่อยยากนะ (หัวเราะ)”
แบม : “สงสัยรู้ว่าพี่ต้องพึ่งพาแล้วเลยปล่อย (หัวเราะ) แล้วก็เข้าสู่พิธีหมั้น จริงๆ ก็เรียบง่ายตามประเพณีค่ะ ก็สวมเครื่องประดับให้กับฝ่ายหญิง แล้วก็สวมแหวนหมั้นให้กันและกัน ก็เป็นอันจบพิธี แล้วก็รับประทานอาหารกลางวันกันแบบง่ายๆ วันนี้เราก็แต่งกันสีฟ้า ชมพู สีฟ้าเป็นสีวันศุกร์เป็นวันเกิดของแบมเอง วันอังคารก็เป็นสีประจำวันอังคาร ซึ่งเป็นสีวันเกิดของพี่โบ๊ท เราก็เลยเหมือนแลกกันใส่ คือ ฝ่ายหญิง คือ เจ้าบ้านก็เลยให้เกียรติฝ่ายชายคือใส่สีชมพูทั้งหมด แล้วฝ่ายชายเองมาเยือน ก็เลยใส่สีฟ้า ซึ่งเป็นสีวันเกิดของฝ่ายหญิง ก็มีแค่นี้ค่ะขั้นตอนก็ไม่มีอะไร ก็ตามประเพณี ตอนนี้ก็เข้าหลัก 4 กันทั้งคู่ (หัวเราะ) พี่โบ๊ทเองเดือนหน้าก็ 40 แล้ว ดีใจมั้ยคะหรือว่าเสียใจ(หัวเราะ)”
โบ๊ท : “ดีใจครับ (หัวเราะ) ดีใจอย่างแน่นอนอยู่แล้วครับ”
แบม : “พูดไม่ค่อยเก่งนะคะว่าที่เจ้าบ่าว (หัวเราะ) ก็น่าจะดีใจนะคะ เพราะว่าก็อย่างที่ได้เคยให้สัมภาษณ์ท่านสื่อมวลชนไปว่า เราทั้งคู่มาเจอกันตอนที่เหมือนกับเป็นช่วงโค้งสุดท้ายดีกว่า แต่ส่วนใหญ่คนจะมีครอบครัวก็ 30 กว่าๆ ก็เริ่มมีแล้ว แต่เราใกล้เลขหลัก 4 แล้ว”

ว่าที่เจ้าสาวเผย ฤกษ์แต่งงานต้องรอไปอีก 2-3 เดือน เพราะติดปัญหาการเมืองด้วนส่วนหนึ่ง พร้อมแง้มได้เข้าไปเรียนเชิญ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่เจ้าตัวเคยสังกัดอยู่ในสมัยเล่นการเมือง มาเป็นประธานในงานแต่งงาน ซึ่งก็ได้รับคำอวยพรในการใช้การใช้ชีวิตคู่มา ทำสาวแบมเป็นปลื้มเลยทีเดียว
แบม “ก็จริงๆ แล้ววางไว้ในเดือนหน้า แต่ว่าทีนี้ก็คงจะต้องรอไปอีกสัก 2-3 เดือนนะคะ เพราะว่ามีทางผู้ใหญ่บอกว่าให้รอดูอะไรอีกสักหน่อยนึงน่ะค่ะ ก็อยากจะไปอีกสักประมาณ 2-3 เดือนนี้ คงจะต้องรอกำหนดของทางผู้ใหญ่ที่จะได้หารือซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่ายด้วย”

“ที่ต้องเลื่อนก็คงไม่ใช่แค่ปัญหาการเมือง แต่ก็คงด้วยทั้งหมดค่ะ ก็เรียนเชิญท่านหัวหน้าพรรคเป็นประธานในพิธีด้วย ก็คงจะมีทั้งฝ่ายบันเทิง เพราะตัวแบมเองก็เคยอยู่ทั้งบันเทิง ทั้งถ่ายแบบนิตยสาร แล้วก็วงการการเมืองก็อยู่มา 7 ปีนะคะ แล้วก็ทำธุรกิจด้วย พี่โบ๊ทเองก็เหมือนกัน พี่โบ๊ทเองก็ทำงานมาหลายบริษัท แล้วตอนนี้ก็มีบริษัทเป็นของตัวเอง ตอนนี้ก็คงจะเน้นญาติแล้วก็แขกที่รู้จักกันทั้งหมดค่ะให้ทั่วถึง”

“เราได้ไปกราบเรียนเชิญท่านหัวหน้าพรรคด้วยกันนะคะ ท่านหัวหน้าพรรคท่านก็ดีใจด้วย ที่ลงเอยแล้วก็จะได้เห็นวันที่เรามีความสุขนะคะ ก็ให้โอวาทมานิดๆ หน่อยๆ แต่ว่าคงยังไม่ถึงวันแต่ง ท่านก็บอกว่าดีแล้วเป็นการแต่งงาน ก็เลือกคู่ที่ดีก็เป็นเรื่องสำคัญในชีวิต แล้วก็ไม่ต้องรอ ถ้าเกิดเราถูกใจแล้วก็แต่งซะเลย (หัวเราะ) ท่านบรรหารก็บอกไม่ต้องรอแล้วเอาเลยๆ ท่านถามว่าดูฤกษ์รึยัง แบมก็ตอบว่าไม่ได้ดูมาก เอาฤกษ์สะดวก ท่านก็บอกดีแล้วฤกษ์สะดวกดีที่สุด ผมก็สะดวกทุกเมื่อ ก็ตามสะดวกเลย ท่านก็น่ารักมาก”

“คอนเซ็ปต์งานจริงๆ ก็คือเราทั้งคู่แค่ญาติก็เยอะแล้วนะคะ ก็คงพยายามอยากจะเชิญผู้ที่จะมาเป็นสักขีพยานในการแต่งงานให้ครบ คือการแต่งงานก็ถือเป็นครั้งสำคัญและก็เป็นการแต่งครั้งเดียวในชีวิต ก็คงจะเน้นที่การเชิญแขก เราก็ไม่ได้เน้นในรายละเอียดเรื่องคอนเซ็ปท์ว่าการจัดงานต้องหรูเลิศอลังการอะไร เพราะคิดว่าเน้นที่การเชิญแขกแล้วก็ดูแลแขกให้ทั่วถึงค่ะ”

“แหวนหมั้น จริงๆ แล้วก็เรียนทุกท่านว่า เราก็ไม่ได้เน้นในเรื่องรายละเอียดของสินสอดทองหมั้นหรือว่าขนาดของแหวนหมั้นอะไร เพราะว่าเราทั้งคู่เป็นอะไรที่เหมือนกัน เพราะว่าเราไม่ได้เน้นในเรื่องของวัตถุนะคะ เราก็เน้นในเรื่องของการทำอะไรที่ถูกต้องตามธรรมเนียมและก็ประเพณี ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องของทางฝ่ายชายที่เขาจะดูว่าอะไรที่เหมาะสมแก่ทั้งสองฝ่าย และก็เป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ก็คงไม่ได้ไปเน้นว่าจะต้องเป็นอะไรยังไง”

ว่าที่เจ้าบ่าวเปิดใจ ประทับใจฝ่ายหญิงตรงที่เป็นคนมีจิตใจงาม เจอครั้งแรกถึงกับตกหลุมรักเลย ส่วนว่าที่เจ้าสาวแพ้ความจริงใจและความเป็นผู้ใหญ่ของฝ่ายชาย
โบ๊ท : “สำหรับของผมก็คงจะเป็นเรื่องของจิตใจนะครับ ก็อย่างที่ให้สัมภาษณ์ไปบ้างแล้ว ก็ประทับใจในความที่เขามีจิตใจงามมากนะครับ ก็ไม่ใช่เท่าที่เราเห็นกันข้างนอก แต่ว่าสำหรับคนรู้จักแล้วนั่นแหละครับ ตรงจิตใจเขา ถ้าได้สนิทได้ใกล้ชิดก็จะรู้ ในความมีน้ำใจของเขา แล้วก็ความเสียสละ ก็ตรงนี้ที่ผมประทับใจเขา (เจอครั้งแรกปิ๊งเลยมั้ย?) ก็แน่นอนอยู่แล้วครับ(หัวเราะ)”
แบม : “ตอนนั้นไม่เห็นบอกอย่างนั้น(หัวเราะ)”
โบ๊ท : “เจอครั้งแรกก็แน่นอนครับ เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์นะครับ เห็นปุ๊บก็แน่นอนว่าสะดุดตาอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดว่าเราผ่านชีวิตมาช่วงนึง เราก็คงไม่ใช่แค่นั้น ก็ต้องค้นพบจิตใจซึ่งกันและกันนะครับ ซึ่งในส่วนตัวผมเองเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด มันต้องมีครบทุกอย่างที่สมดุลกัน ก็พอเขาเป็นคนที่มีส่วนนั้นเยอะมากเลย ผมก็โชคดีที่ได้มาเจอ เจอกันครั้งแรก จริงๆ แล้วพอดีวันนั้นต่างคนต่างออกไปเที่ยว ก็ไปเจอกันข้างนอก พอดีไปนั่งทานข้าวและที่นั่นก็มีเพื่อนทั้งสองกลุ่มไปทานข้าวที่เดียวกัน”
แบม : “เป็นร้านอาหารแถวหลังสวน ชื่ออะไรไม่รู้ เป็นหลังสวนบาร์โคนี่”
โบ๊ท : “ครับ ก็จริงๆ แล้วเราเรียนมาด้วยกัน แต่ว่าไม่ทันกัน ก็พอดีเพื่อนของแบมก็รู้จักผมอยู่แล้วด้วยเหมือนกัน เขาก็ดึงไปแนะนำ ก็โอเคเราก็รู้จักเขาอยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร แต่ว่าไม่เคยได้คุย พอคุยหลังจากนั้นก็โอเคสานสัมพันธ์กันต่อเนื่อง ว่าคิดยังไง คือผมก็คุยเลย ผมก็อายุเยอะแล้วนะ(หัวเราะ) ก็บอกเขาตรงๆ เลยนะครับ ก็แบบว่าคุยกันก็คงแบบมาในแนวเนี่ย ก็คุยก็ทำความรู้จัก ก็ไปพบกันที่บ้านเขา เราต่างคนต่างก็อายุเยอะ”
แบม : “เน้นๆ (หัวเราะ)”
โบ๊ท : “ก็ไม่ได้มีขั้นตอนอะไรแปลกๆ น่ะครับ”
แบม “พี่โบ๊ทเป็นคนมีความจริงใจมากนะคะ แล้วก็เป็นคนที่ตรง ตรงมากซะจนไม่น่าเชื่อว่าจะตรงได้ขนาดนี้ แล้วก็เป็นคนที่มีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่กว่าที่เราเห็น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจริงๆ เขาก็หน้าเด็กด้วย แล้วความคิดเขาก็เดินหน้าไปอีก เพราะฉะนั้นพอเราคุยแล้วเรารู้สึกว่า สำหรับผู้หญิงความอบอุ่น ความมั่นใจเป็นเรื่องที่สำคัญ ถึงแม้ว่าเราจะไปทำงานในหน้าที่ที่เป็นผู้นำองค์กร หรือว่าเป็นนักการเมืองอะไรก็ตาม แต่ว่าสุดท้ายบางครั้งเราก็อยากจะมีใครสักคนนึงที่พอจะเป็นหลักทางความคิดให้กับเราได้เหมือนกัน ซึ่งพี่โบ๊ทเขาก็เป็นตรงนั้นได้น่ะค่ะ ก็ชอบ”

“อีกส่วนนึงที่แบมเห็นในตัวเขาก็คือว่า เขาเป็นคนที่มีความกตัญญู และก็รักครอบครัว คือ เราจะเห็นสิ่งที่เขาปรนนิบัติต่อคุณพ่อ คุณแม่เขาหรือการเอาใจใส่ หรือแม้กระทั่งพี่น้องเขา แบมว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะว่าสุดท้ายพอเราแต่งงานไป เราก็จะเป็นอีกหน่วยนึง ซึ่งถ้าเกิดว่าใครมีพื้นฐานของการรักครอบครัวมาเป็นทุนเนี่ย แบมว่าสุดท้ายเขาก็จะรักครอบครัวของเขาเอง และเราได้เข้าไปเป็นสมาชิกในหน่วยนึงของเขา เราก็จะคิดว่าจะทำให้แบมมีความมั่นใจมากขึ้น”

“แล้วเขาเป็นคนที่เป็นคนทำงานเก่ง และเป็นคนที่ดีเข้ามาในชีวิต ซึ่งสำคัญมากๆ เลย เพราะว่าบางครั้งเราเองก็อาจจะตามใจตัวเองบ้างอะไรบ้าง แต่ว่าพอมาถึงพี่โบ๊ทเหมือนกับอยู่กับคนที่บอกเราได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรควรไม่ควร เลยทำให้เรารู้สึกว่าต้องมีผู้นำแบบนี้ ที่มีวินัยในชีวิตถึงจะนำพาตัวเราแล้วก็อนาคตก็คือลูกของเราไปข้างหน้าได้ คือบังเอิญไม่ได้มองหาแค่คู่ชีวิตที่จะมาอยู่ด้วย แต่แบมตามหาคนที่จะมาเป็นหัวหน้าครอบครัว มาเป็นพ่อของลูก ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ส่วนนึงก็มีในตัวเขา ซึ่งก็เป็นความลงตัวที่เราทั้งคู่ได้เห็นซึ่งกันและกันค่ะ”

พร้อมเล่าถึงนาทีที่ขอแต่งงาน เป็นวันที่พาสาวแบมไปดูเรือนหอที่ซื้อเตรียมเอาไว้ วันที่ขอแต่งงานบรรยากาศเป็นไงบ้าง
แบม : “วันที่ขอแต่งงานก็เรียบมากเลย(หัวเราะ) คือจริงๆ เราก็คบกันมาแล้วก็คุยกันมาเรื่องครอบครัวอะไรอย่างนี้มาเรื่อยอยู่แล้ว จริงๆ แล้วมันเหมือนกับในใจเรารู้ซึ่งกันและกันว่าเราคงอยู่ด้วยกันแหละ แต่มันไม่ได้เอ่ยขึ้นมาเท่านั้นเอง ว่าเราจะแต่งงานอะไรเมื่อไหร่ แล้วก็จะมีวันนึงที่ไปดูคอนโดที่เขาแต่งไว้ แล้วเขาก็พูดว่าจะแต่งยังไงอะไรยังไง เขาก็บอกเนี่ยให้มาช่วยแต่ง จะได้รู้ว่าจะอยากอยู่ที่นี่มั้ย อยากอยู่ด้วยกันมั้ย แล้วเขาก็ถามว่าอยากอยู่กับเขามั้ยล่ะ อยากอยู่กับพี่มั้ย ก็บอกโอเค ตอบเลย ตกลง”
โบ๊ท : “จริงๆ ผมคิดตั้งแต่แรกเลยนะ ผมเตรียมมาตั้งแต่แรก ผมก็บอกเขาเลยว่าผมมาแนวไหน คืออยู่ๆ ผมก็คงไม่มาแบบเป็นพี่ เป็นเพื่อนอะไรอย่างนี้ ผมก็คุยกับเขาเลยว่าผมมีแนวคิดอย่างนี้ คืออยากจะมีครอบครัว อยากจะคือมันถึงจุดแล้วล่ะ ก็ไม่ได้นาน เพราะเราคิดเหมือนกันตั้งแต่แรกอยู่แล้วนะครับ ก็อย่างที่แบมได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว คือผมเองทำอะไรผมทำจริงเลย เพราะฉะนั้นผมอยู่มาถึงวันนี้ก็ไมได้ไปซื้อคอนโดอะไรทิ้งไว้ ผมว่ามันเป็นขั้นใหญ่ในชีวิตของผู้ชายคนนึงนะที่จะซื้อบ้าน คือผมก็ไม่ได้ซื้อบ้านเฉยๆ เอาไว้อยู่เล่น คือซื้อก็ซื้อได้ แต่ว่าไม่เจอใครก็ไม่รู้จะซื้อทำไม แต่วิธีพูดของผมมันแสดงการกระทำเลย เพราะฉะนั้นผมก็ซื้อแล้วก็พาเขาไปดู อยู่ทองหล่อครับ ก็เป็นเรือนหอเลยครับ ก็ให้เขาไปดูเลย ก็อยากให้เขามองว่าถ้าเกิดเป็นครอบครัวจะอยู่ยังไง”
แบม “โรแมนติกมั้ย แบมว่าความโรแมนติก แต่ละคนก็จะมีเอกลักษณ์ของตัวเองนะ เขาก็จะมีความโรแมนติก มีความหวานลึก(หัวเราะ) ในรูปแบบของเขานะคะ ก็มีนะ มีโมเมนอะไรที่เรารู้สึกว่าเออ อย่างนี้มันโรแมนติกในความรู้สึกของเราค่ะ”

บอก อยากให้สาวแบมเป็นแม่บ้านมากกว่ากลับมาเล่นการเมือง
โบ๊ท : “จริงๆ โดยส่วนตัวนะครับ ผมก็คงอยากให้เขาเป็นแม่บ้านนะครับ แล้วถ้าเกิดอยากทำธุรกิจด้วยก็โอเค ผมคิดว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เพราะฉะนั้นสำคัญเลยผมว่าวันๆ เขาต้องมีอะไรทำ ก็ได้ใช้ความคิด ได้ใช้ความสามารถตัวเอง ส่วนเรื่องการเมืองผมคิดว่าอันนั้นเราพักไว้ก่อนดีกว่า เพราะว่ามันพันเกี่ยวกันเยอะนะครับ ก็วันนี้เราคิดจะเริ่มต้นครอบครัว ก็เอาอะไรที่ผมคิดว่ามันเป็นแก่นของชีวิตดีกว่า”

“ถ้าตามหลักกฎหมายก็พักยาวอยู่แล้วนะครับ(หัวเราะ) อันนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที แต่ว่าผมเฉยๆ แต่จริงๆ ด้านธุรกิจเขาถนัดคนละสายกับผม เขาทำทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ผมจะเป็นสายการเงิน คือด้วยความสามารถของเขา เขาทำของเขาเองได้อยู่แล้ว รู้อยู่แล้ว ผมว่าเขาทำได้ดี ผลงานที่เขาทำออกมา ไปดูก็ประทับใจ”

บอกแต่งงานแล้วก็พร้อมจะมีลูกเลย อยากได้ผู้ชายคนผู้หญิงคน
แบม : “ยังไม่ได้แต่งเลย(หัวเราะ) มีตอนนี้ก็มีข่าวให้เล่นมันเลยสิ(หัวเราะ) ก็คุยกันไว้เนื่องด้วยอายุน่ะค่ะ อายุมันจะหมดแล้ว(หัวเราะ) แบมได้ทั้งนั้นน่ะค่ะ แต่พี่โบ๊ทอยากได้ผู้ชายหรือผู้หญิง”
โบ๊ท : “ก็อยากได้ผู้ชายคนผู้หญิงคน”
แบม : “เหมือนกันๆ (หัวเราะ) ก็รอแต่งก่อนแล้วกัน ยิ่งยากๆ อยู่ด้วยๆ”

ด้านน้องสาว “โบว์ ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์” เป็นปลื้มกับพี่สาวที่เจอคนดีๆ อวยพรขอให้ชีวิตคู่มีแต่ความสุข
“เมื่อคืนก็ถามเขาว่าตื่นเต้นมั้ย เพราะว่าเราอยู่ที่โรงแรมโอเร็นเต็ล แล้วก็เห็นป้ายขึ้นบอร์ด เขาก็บอกว่าถึงวันที่มีชื่อขึ้นบอร์ดแล้วนะ ขึ้นเวทีแล้วนะ จะแต่งงานอะไรอย่างเนี้ยน่ะค่ะ ก็รู้สึกดีใจตื่นเต้น ยังบอกให้ถ่ายรูปเก็บเลย(หัวเราะ) ก็รู้สึกดีค่ะ เพราะว่าก็รอวันนี้ รอมานานเหมือนกัน เพราะว่าก็อยากจะรู้ว่าใครที่จะมาแต่งงานกับพี่แบม และพอได้มารู้จักกับพี่โบ๊ท ก็รู้สึกว่าเออมันก็เป็นช่วงเวลาที่จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้นานมากที่รู้จักกัน แต่ว่าเจอกันแล้วโบว์ก็รู้สึกว่าเขาเป็นผู้นำ แล้วก็ทำให้พี่แบมได้เป็นผู้ตามที่ดีได้ค่ะ”

“ก็ไม่ได้แนะนำอะไร เพราะว่าจริงๆ แล้วพี่แบมก็เป็นคนที่เห็นประสบการณ์รอบๆ ข้างอยู่แล้ว แล้วการแต่งงานก็อยากจะให้เขามองในมุมที่มีความสุขอย่างที่เขาเป็น เพราะว่าแต่ละคู่ก็คงไม่เหมือนกัน วันนี้พี่แบมเขาก็มีความสุขในชีวิตตรงนี้ก็มีแต่ช่วยเสริมช่วยทำให้เขามีความสุขมากๆ ขึ้นไป ช่วยอะไรได้ก็ช่วย”

“ฟลุควันนี้ไม่ได้มาค่ะ อันนี้เป็นเรื่องของญาติๆ ครอบครัวส่วนใหญ่มากกว่า ก็เลยเอาแต่ญาติๆ พี่น้องทั้งสองฝ่าย จริงๆ ถ้าวันแต่งก็มาได้ไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้วค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่งทางเขา ทางพี่แบมมากกว่าว่าอะไร ก็อยู่ที่ความเหมาะสม เขาก็น่าจะคุยกับทางพี่แบมนะคะ เพราะว่าก็ไม่ได้คุยกันอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ”





โบว์ ชญาดา น้องสาวแบม















กำลังโหลดความคิดเห็น