แม่ฮ่องสอน - ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแม่ฮ่องสอน เปิดโครงการพัฒนาการผลิตและแปรรูปกาแฟอาราบิก้าปลอดภัยแบบครบวงจร เพื่อพัฒนาอาชีพการเกษตรและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้เทคโนโลยีการเกษตรที่เหมาะสม และปลอดภัยแก่เกษตรกร ตามยุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตรฯ
นายสากล มีสุข ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ขณะนี้ศูนย์ ได้จัดทำโครงการพัฒนาการผลิตและแปรรูปกาแฟอาราบิก้าแบบครบวงจร เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องเหมาะสมในการผลิตและแปรรูปกาแฟอาราบิก้าเป็นการพัฒนาอาชีพสร้างรายได้แก่เกษตรกร รวมทั้งสามารถพัฒนาส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ด้วย
ทั้งนี้ ได้จัดการฝึกอบรมให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ แก่เกษตรกรในพื้นที่บ้านทุ่งมะขามป้อม ต.ห้วยโป่ง และบ้านห้วยมะเขือส้ม ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 92 ราย พร้อมสนับสนุนต้นกล้ากาแฟ จำนวน 6,000 ต้น
นอกจากนี้ ได้คัดเลือกเกษตรกรและพื้นที่ เพื่อจัดทำแปลงสาธิตต้นแบบได้แก่ นายชัชวาลรัตนชัยนันทกุล บ้านทุ่งมะขามป้อม หมู่ 15 ต.ห้วยโป่ง พื้นที่ปลูก 5 ไร่ จำนวน 2 พันต้น, นายโสภณ ลืนคำ บ้านห้วยมะเขือส้ม หมู่ 9 ต.หมอกจำแป่ พื้นที่ปลูก 5 ไร่ จำนวน 2 พันต้นเช่นกัน
ทั้งนี้ การปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า จะปลูกในสภาพพื้นที่ร่มเงาธรรมชาติและใกล้แหล่งน้ำ ส่วนในแปลงสาธิตนี้จะปลูกร่วมกับพืชเศรษฐกิจไม้ผลเมืองหนาวอื่นๆ ด้วย ได้แก่ มะคาเดเมีย ท้อ และ พลับ
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จะเข้าไปให้คำแนะนำแก่เกษตรกร ในการดูแลบำรุงรักษาต้นกาแฟทุกเดือนและการใส่ปุ๋ยก็จะใช้แบบผสมผสาน ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี โดยคำนึงถึงหลักความปลอดภัยเพื่อให้ได้ผลผลิตทั้งปริมาณและคุณภาพ
สำหรับกาแฟพันธุ์อาราบิก้า จะให้ผลผลิตในระยะเวลาประมาณ 3 ปี และขณะนี้มีเกษตรกรที่ให้ความสนใจจะเข้าร่วมโครงการอีกจำนวนมาก ซึ่งทางศูนย์ฯจะได้ดำเนินการขยายผลให้ครอบคุลมกับความต้องการของเกษตรกรต่อไป
นายสากล มีสุข ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ขณะนี้ศูนย์ ได้จัดทำโครงการพัฒนาการผลิตและแปรรูปกาแฟอาราบิก้าแบบครบวงจร เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องเหมาะสมในการผลิตและแปรรูปกาแฟอาราบิก้าเป็นการพัฒนาอาชีพสร้างรายได้แก่เกษตรกร รวมทั้งสามารถพัฒนาส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ด้วย
ทั้งนี้ ได้จัดการฝึกอบรมให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ แก่เกษตรกรในพื้นที่บ้านทุ่งมะขามป้อม ต.ห้วยโป่ง และบ้านห้วยมะเขือส้ม ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 92 ราย พร้อมสนับสนุนต้นกล้ากาแฟ จำนวน 6,000 ต้น
นอกจากนี้ ได้คัดเลือกเกษตรกรและพื้นที่ เพื่อจัดทำแปลงสาธิตต้นแบบได้แก่ นายชัชวาลรัตนชัยนันทกุล บ้านทุ่งมะขามป้อม หมู่ 15 ต.ห้วยโป่ง พื้นที่ปลูก 5 ไร่ จำนวน 2 พันต้น, นายโสภณ ลืนคำ บ้านห้วยมะเขือส้ม หมู่ 9 ต.หมอกจำแป่ พื้นที่ปลูก 5 ไร่ จำนวน 2 พันต้นเช่นกัน
ทั้งนี้ การปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า จะปลูกในสภาพพื้นที่ร่มเงาธรรมชาติและใกล้แหล่งน้ำ ส่วนในแปลงสาธิตนี้จะปลูกร่วมกับพืชเศรษฐกิจไม้ผลเมืองหนาวอื่นๆ ด้วย ได้แก่ มะคาเดเมีย ท้อ และ พลับ
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จะเข้าไปให้คำแนะนำแก่เกษตรกร ในการดูแลบำรุงรักษาต้นกาแฟทุกเดือนและการใส่ปุ๋ยก็จะใช้แบบผสมผสาน ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี โดยคำนึงถึงหลักความปลอดภัยเพื่อให้ได้ผลผลิตทั้งปริมาณและคุณภาพ
สำหรับกาแฟพันธุ์อาราบิก้า จะให้ผลผลิตในระยะเวลาประมาณ 3 ปี และขณะนี้มีเกษตรกรที่ให้ความสนใจจะเข้าร่วมโครงการอีกจำนวนมาก ซึ่งทางศูนย์ฯจะได้ดำเนินการขยายผลให้ครอบคุลมกับความต้องการของเกษตรกรต่อไป