ตร.ทลายแหล่งชำแหละรถหัวลากที่โจรกรรมรอส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจภาค 2 สนธิกำลังหลายหน่วยบุกทลายแหล่งชำแหละรถหัวลากที่โจรกรรม มารอส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อเวลา 22.00 น.คืนที่ผ่านมา (16 ก.ย.) พล.ต.ต.คำรณ วิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 ได้ประสานงานกับ พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 ให้ช่วยติดตามแก๊งโจรกรรมรถหัวลาก ที่ถูกโจรกรรมมาจากจังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา โดยได้เบาะแสว่ามีแหล่งพักรถอยู่แถบสวนสับปะรดในพื้นที่ จ.ชลบุรี จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.นพพล รัตนพงษ์เทียน สว.สืบสวนสอบสวนภาค 2 ออกสืบสวนหาข้อมูลและเบาะแสของคนร้ายแก๊งนี้ จึงได้มีการประสานงาน พ.ต.ท.สมชาย ซื่อต่อตระกูล สวญ.สภ.บ่อวิน พ.ต.ท.เจษฎา สวยสม สวญ.สภ.หนองขาม และ พ.ต.ท.ทรงโปรด สิริสุขะ สว.ส.ทล.2 กก.3 ให้ช่วยกันออกสืบหาแหล่งพักรถก่อนส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงานที่กระจายกำลังกันออกค้นหาจนทราบว่า ที่บ้านเลขที่ 34/4 หมู่ 7 บ้านระเวิง ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นแหล่งพักรถหัวลากที่ได้โจรกรรมมา และพร้อมที่จะทำการชำแหละก่อนส่งออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการสนธิกำลัง และวางแผนเข้าทำการจับกุมตรวจค้น หลังจากที่บุกเข้าทำการตรวจค้นจับกุม ก็พบรถหัวลากยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียนถูกถอดออก คันที่ถูกโจรกรรมมาจากจังหวัดสระบุรี จอดอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว และยังพบรถเบนซ์รุ่น เอส 500 สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน วข 8989 กทม.ซึ่งได้ทำการสวมทะเบียน และยังมีรถยนต์เก๋ง จำนวน 2 คัน และกระบะจำนวน 4 คัน จอดอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึด เพื่อทำการตรวจสอบว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาหรือไม่

จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า นายน่อย พฤกธิไพฑูรย์ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ให้การว่า นายกฤษณ์ พฤกธิไพฑูรย์ อายุ 30 ปี ลูกชาย ได้นำรถหัวลากเข้ามาจอดไว้ในบ้าน ซึ่งได้ทำการจอดอยู่เป็นอาทิตย์แล้วส่วนรถคันอื่นๆ ก็เป็นรถที่เพื่อนลูกชายได้นำมาฝากไว้โดยที่ไม่ทราบที่มาและที่ไป และในขณะนี้ นายกฤษณ์ ลูกชายได้หายตัวไปติดต่อไม่ได้ ตนเองก็ไม่ทราบว่าลูกชายหายไปไหนและตั้งแต่เมื่อไหร่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง

พ.ต.ต.นพพล รัตนพงษ์เทียน สว.สืบสวนสอบสวนภาค 2 เปิดเผยว่า สำหรับในคดีนี้ได้รับการประสานงานมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสระบุรี เพื่อช่วยติดตามสืบหาข้อมูลแก๊งโจรกรรมรถในครั้งนี้ หลังจากที่ได้รับการติดต่อประสาน ก็ได้ดำเนินการออกสืบหาข้อมูล จนสืบทราบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นจุดพักรถที่ถูกโจรกรรมมาก่อนส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านมานานแล้วโดยที่บ้านข้างเคียงบอกว่าจะมีรถยนต์ยี่ห้อหรูและรถหัวลากวิ่งเข้าออกบ้านหลังดังกล่าวเป็นประจำไม่ซ้ำกันมาเป็นปีแล้ว จึงได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2, สภ.บ่อวิน, สภ.หนองขาม, ส.ทล.2 กก.3 และตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี บุกเข้าทำการตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว และพบรถหัวลากคันที่ถูกโจรกรรมมาจอดอยู่ภายในบ้าน ยังมีรถยนต์ รถกระบะ ที่ถูกโจรกรรมมา และกำลังรอชำแหละอยู่ในบ้านรวมทั้งเตรียมนำส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน

จึงได้ทำการตรวจยึดมาเก็บไว้ที่ สภ.บ่อวิน พร้อมทั้งเร่งไล่ล่าติดตตามตัวนายกฤษณ์ พฤกธิไพฑูรย์ ลูกชายเจ้าของหลังดังกล่าว และนายวิเชียร ไม่ทราบนามสกุล ที่เป็นนายหน้ามารับรถที่จุดพักรถ เพื่อที่จะนำส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่วน นายน่อย พฤกธิไพฑูรย์ เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวนั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป