กาฬสินธุ์ - เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 ขอนแก่น ร่วมตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และศูนย์ประสานงานป่าไมเข้าตรวจยึดไม้ท่อนกว่า 25 ตัน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท พร้อมควบคุมผู้ต้องหาได้ 1 คน อ้างทำถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (15 ก.ย.) นายพิชิต สมบัติมาก ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า นายกนิษฐ์ จิตต์จันทร์ หัวหน้าสายตรวจปราบปรามทรัพยากรป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น) พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล สารวัตรเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น) เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานป่าไม้ จ.กาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบไม้จำนวนหลายสิบท่อนกว่า 25 ตัน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากหลังจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นำโดย พ.ต.ท.รัฐพล เหล่าพรม สว.กก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ร่วมกันตรวจยึดได้ที่ถนนบายพาสทุ่งมน บริเวณหน้าสำนักงานขนส่ง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อกลางดึกวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ขณะกำลังบรรทุกไม้ท่อนดังกล่าวไปส่งให้กับลูกค้า
พร้อมควบคุมตัว นายคนึงนิจ ลีพรม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 ต.ท่าก้อน อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร คนขับรถและยึดของกลางไม้ท่อน รถบรรทุก 18 ล้อ สีขาวยี่ห้อVOLVO 70-6343 นครปฐมและรถพ่วงทะเบียน 87-8333 เพื่อรอการตรวจสอบเอกสารตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบว่า ไม้ดังกล่าวเป็นไม้ประดู่ ไม้แดง และไม้เต็ง ซึ่งมีจำนวนหลายสิบท่อน น้ำหนักกว่า 25 ตัน มูลค่าประมาณ 750,000 บาท บรรทุกอยู่ในรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ โดยมีนายคนึงนิจ ลีพรม อายุ 33 ปี เป็นคนขับและมีนายวันดี ฝั่นปัญญา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.10 ต.วังช้าง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง เป็นเจ้าของ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบเอกสารยืนยันการขออนุญาตเคลื่อนย้าย และไม่พบการตีตราไม้ เจ้าหน้าที่จึงอายัดไว้รอการตรวจสอบ
จากการสอบสวนนายคนึงนิจ คนขับรถให้การว่า ไม้ท่อนดังกล่าวถูกตัดและขนมาจาก อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร เพื่อที่จะเข้าไปโรงงานแปรรูปที่ จ.อุตรดิตถ์ แต่ไม่ได้นำใบอนุญาตการขนย้ายมาด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดและอายัดไว้ พร้อมทั้งดำเนินคดีนายคนึงนิจ คนขับรถ ข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทางกำกับ
อย่างไรก็ตาม นายวันดี ฝั่นปัญญา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.10 ต.วังช้าง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง เป็นเจ้าของไม้ กล่าวว่า ไม้ท่อนดังกล่าวตนได้ขออนุญาตและทำตามกฎหมายทุกอย่าง โดยได้รับซื้อไม้ดังกล่าวจากชาวบ้านในอ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ซึ่งเป็นที่ดินส่วนบุคคล จำนวน 23 ไร่ ราคา 350,000 บาท และจะนำไปแปรรูปในโรงงานที่จ.อุตรดิตถ์ แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและยึดไว้เสียก่อน
นายพิชิต สมบัติมาก ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น) กล่าวว่า จากนโยบายของอธิบดีกรมป่าไม้ซึ่งต้องการให้เร่งป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่าในทุกพื้นที่ เพื่อดำรงไว้ทรัพยากรป่าไม้ให้อยู่สืบต่อไป สร้างสร้างความสมดุลของธรรมชาติ โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น)ได้ดำเนินการปราบปรามผู้กระทำผิดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถตรวจยึดและจับกุมผู้ลักลอบขนและตัดไม้ พร้อมนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีได้จำนวนมาก ดังนั้นหากประชาชนพบเห็นการลักลอบบุกรุกและตัดไม้ทำลายป่าก็ได้แจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ได้ทันที