ศูนย์ข่าวศรีราชา-ปลุกระดมให้ผู้นำศาสนาอิสลามในระดับจังหวัดของประเทศออกมาประณามการก่อการร้ายในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฆ่าพี่น้องชาวไทยมุสลิมด้วยกันเอง แล้วจะมากล่าวอ้างว่า จะเป็นผู้นำในการแบ่งแยกดินแดนได้อย่างไร
วันนี้ ( 15 ก.ย.52 ) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้ นาง นิภา เจียมโฆษิต ผู้อำนวยการวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี เป็นผู้แทนในการเยี่ยม มัสยิดอัล- ฮูดาบ้านเตาถ่าน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี นายนรเสฏฐ์ ศรีตะพัสโส ปลัดอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วยนาย นิพนธ์ เหมเสริม คอเต็บรองประธานและวิทยากรสอนศาสนาอิสลาม และคณะกรรมการมัสยิดอัล- ฮูดา และผู้นับถือศาสนาอิสลามกว่า 150 คน ร่วมให้การต้อนรับ
นางนิภา เจียมโฆษิต ผู้อำนวยการวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้มาเยี่ยมเยียนมัสยิดในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ประจำปี 2552 เพื่อรับทราบถึงปัญหาข้อ ขัดข้องต่าง ๆ ของการดำเนินงานของศาสนาอิสลามในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยจังหวัดชลบุรี ได้สนับสนุน งบประมาณ จำนวน 2 แสนบาท ในการพัฒนามัสยิด และยังได้ร่วมกับจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ลงไปดูแล และสนับสนุนในกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย
ด้าน นายนิพนธ์ เหมเสริม คอเต็บรองประธานและวิทยากรสอนศาสนาอิสลาม มัสยิดอัลฮูดา ได้จัดการบรรยายให้ความรู้ และให้คำแนะนำกับกำลังพลของกองทัพเรือ ที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่สัตหีบ ซึ่งเป็นทหารใหม่ผลัดละ 500 นาย ปีละกว่า 20,000 นาย ได้รับทราบถึงคำสอนของศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง และนำไปบอกต่อ ยอมรับว่าเป็นห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จัง หวัดชายแดนภาคใต้มาก
จึงขอให้ผู้รู้ และผู้ที่เกี่ยวข้องในศาสนาอิสลาม ได้นำเหตุการณ์ต่าง ๆ มาวิเคราะห์ เพื่อหาทางแก้ไข และเป็นไปไม่ได้ที่ศาสนาอิสลามจะสอนให้ชาวมุสลิมฆ่ากันเอง เหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่การกระทำของชาวมุสลิมผู้นับถือศาสนาอิสลามอย่างแน่นอน น่าจะมีผู้ที่แอบแฝงอยู่ และอยากให้สื่อมวลชนอย่าได้นำเสนอข่าวสารสนับสนุนการกระทำของคนร้าย ให้หันมาขอความร่วมมือจากผู้นำศาสนาออกมาประณามการกระทำของคนร้ายพร้อม ๆ กันทั่วทั้งประเทศ เพื่อมิให้มุสลิมหลงผิดตกเป็นแนวร่วมของคนร้ายได้
นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า ในฐานะองค์กรศาสนาและผู้สอนศาสนา ได้พยายามเรียกร้องและปลุกจิตสำนึกของผู้ที่รู้ศาสนาให้เข้าใจว่า การก่อเหตุจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตาย
การกระทำอย่างนี้เป็นเรื่องที่ผิด เพราะฉะนั้นทุกคนต้องออกมาพูดความจริงมาแสดงความเป็นธรรมกัน ไม่ใช่เฉพาะภาคใต้อย่างเดียวที่มีชาวมุสลิมกว่า 2 ล้านคน มัสยิดมัสยิดในประเทศไทยสามพันกว่ามัสยิดมีผู้รู้ มีองค์กรอยู่หลายหมื่นคน ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ว่าเราควรจะไปเจาะลึก ไปค้นหา ค้นคว้า หาผู้ที่รักความยุติธรรม มีความรู้ ความสามารถ ให้เขาออกมาพูดความจริง ไม่ใช่พูดเพียงคน หรือสองคนพูด ควรจะพูดพร้อม ๆ กันให้เป็นเรื่องและเป้าหมายเดียวกัน
สำหรับ มัสยิดอัล – ฮูดา ได้จดทะเบียนขึ้นเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2547 เป็นมัสยิดลำดับที่ 28 ของ จ.ชลบุรี มีสัปปุรุษ 24 ครอบครัว 103 คน สัปปุรุษแฝง ประมาณ 2,000 คน ส่วนใหญ่เป็นทหารกองประจำการ สังกัด ทร. ก่อสร้างบนพื้นที่ 812 ตารางวา อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 22 เมตร ยาว 24 เมตร ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อที่ดินและก่อสร้าง 12,058,000 บาท รองรับผู้ละหมาดได้ 620 คน เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 29 เม.ย. 2549 โดย นาย สวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรี มาเป็นประธานในพิธี