เชียงราย - ชาวบ้านร้องนายทุนจับมือเจ้าหน้าที่รัฐ ฮุบที่เหมืองดีบุกเก่า เดินเรื่องออกโฉนด
รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านโป่งน้ำร้อน หมู่ 6 ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ประมาณ 100 คน นำโดยนายจรัส คำสะอาด อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 บ้านโป่งน้ำร้อน ได้ไปชุมนุมกางเต้นท์กันที่บริเวณทางเข้าที่ดินเหมืองแร่เก่าที่หมดสัมปทานไปแล้วตั้งแต่ปี 2535 ติดกับถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ เมื่อ 7 ก.ย.52 เพื่อเรียกร้องขอคืนสิทธิที่ดินดังกล่าวให้เป็นที่สาธารณะเหมือนเดิม โดยชาวบ้านอ้างว่าถูกนายทุนที่หมดสัมปทานไปนานแล้วพยายามจับจอง
นายจรัสเปิดเผยว่า ที่ดินผืนดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 295 ไร่ ซึ่งเคยมีประทานบัตรเหมืองแร่ดีบุก ต่อมามีอดีตข้าราชการในพื้นที่พร้อมด้วยกลุ่มนายทุน เข้ายึดพื้นที่จำนวนหนึ่งพร้อมเข้าจับจอง (น.ส.2) รวมประมาณ 25 ไร่ โดยเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ ถึงขั้นมีการทำเรื่องขอรังวัดออกหนังสือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อการออกโฉนดโดยแบ่งออกเป็นแปลงๆ รวมจำนวน 8 แปลง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการขอดังกล่าวแต่ได้รับทราบว่า พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีหนังสือไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้พิจารณาเรื่องนี้ใหม่ทั้งหมด โดยอาจเกิดจากการเห็นความไม่ชอบมาพากลก็ได้
นายจรัส และกลุ่มชาวบ้านระบุว่า สำหรับชาวบ้านแล้วไม่ได้มีส่วนได้เสียกับที่ดินเหมือนแร่เก่าดังกล่าวโดยตรง แต่เห็นว่าเป็นที่สาธารณะ เคยมีการขอสัมปทานจึงทำให้มีหลักฐานต่างๆ ชัดเจนว่าที่สาธารณะ แต่ต่อมามีความพยายามจะนำไปเป็นที่ดินส่วนตัวจึงเห็นว่าไม่ถูกต้องจึงได้ชุมนุมเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ความสนใจ เพราะเกรงว่าหากชาวบ้านไม่เรียกร้องก็อาจทำให้รัฐหรือหลวงสูญเสียที่ดินไปโดยเปล่าประโยชน์
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ต่อมานายสุนทร แพ่งเกษร เจ้าพนักงานที่ดิน จ.เชียงราย สาขา อ.เวียงป่าเป้า ได้เดินทางไปพบกับชาวบ้านและรับข้อมูล จากนั้นได้แจ้งให้ชาวบ้านทราบว่า ยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวตามที่ชาวบ้านเข้าใจยังไม่ได้มีการรังวัดเพื่อการออกโฉนดที่ดินแต่อย่างใด นอกจากนี้จากการพิสูจน์ที่ดินทั้ง 25 ไร่ดังกล่าว ก็พบว่าหลังจากหมดสัมปทานการทำเหมืองแร่แล้วส่วนหนึ่งยังถือว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอีกด้วย
ดังนั้นจึงคืนให้กับกรมป่าไม้เป็นผู้รับผิดชอบไปแล้ว ส่วนที่ดินที่เป็นปัญหาคงจะต้องมีการพิสูจน์กันต่อไปหากเป็นสถานที่สาธารณะก็ยืนยันว่าไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ให้กับผู้ใดได้ไม่ว่าจะเป็นเอกสารใดก็ตาม แต่เป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า และต่อมามีผู้เข้าจับจองก็สามารถทำเรื่องออกโฉนดได้เช่นกัน จึงขอให้ทางชาวบ้านได้รอให้ทาง จ.เชียงราย ตั้งคณะกรรมการพิสูจน์ก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านโป่งน้ำร้อน หมู่ 6 ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ประมาณ 100 คน นำโดยนายจรัส คำสะอาด อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 บ้านโป่งน้ำร้อน ได้ไปชุมนุมกางเต้นท์กันที่บริเวณทางเข้าที่ดินเหมืองแร่เก่าที่หมดสัมปทานไปแล้วตั้งแต่ปี 2535 ติดกับถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ เมื่อ 7 ก.ย.52 เพื่อเรียกร้องขอคืนสิทธิที่ดินดังกล่าวให้เป็นที่สาธารณะเหมือนเดิม โดยชาวบ้านอ้างว่าถูกนายทุนที่หมดสัมปทานไปนานแล้วพยายามจับจอง
นายจรัสเปิดเผยว่า ที่ดินผืนดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 295 ไร่ ซึ่งเคยมีประทานบัตรเหมืองแร่ดีบุก ต่อมามีอดีตข้าราชการในพื้นที่พร้อมด้วยกลุ่มนายทุน เข้ายึดพื้นที่จำนวนหนึ่งพร้อมเข้าจับจอง (น.ส.2) รวมประมาณ 25 ไร่ โดยเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ ถึงขั้นมีการทำเรื่องขอรังวัดออกหนังสือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อการออกโฉนดโดยแบ่งออกเป็นแปลงๆ รวมจำนวน 8 แปลง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการขอดังกล่าวแต่ได้รับทราบว่า พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีหนังสือไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้พิจารณาเรื่องนี้ใหม่ทั้งหมด โดยอาจเกิดจากการเห็นความไม่ชอบมาพากลก็ได้
นายจรัส และกลุ่มชาวบ้านระบุว่า สำหรับชาวบ้านแล้วไม่ได้มีส่วนได้เสียกับที่ดินเหมือนแร่เก่าดังกล่าวโดยตรง แต่เห็นว่าเป็นที่สาธารณะ เคยมีการขอสัมปทานจึงทำให้มีหลักฐานต่างๆ ชัดเจนว่าที่สาธารณะ แต่ต่อมามีความพยายามจะนำไปเป็นที่ดินส่วนตัวจึงเห็นว่าไม่ถูกต้องจึงได้ชุมนุมเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ความสนใจ เพราะเกรงว่าหากชาวบ้านไม่เรียกร้องก็อาจทำให้รัฐหรือหลวงสูญเสียที่ดินไปโดยเปล่าประโยชน์
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ต่อมานายสุนทร แพ่งเกษร เจ้าพนักงานที่ดิน จ.เชียงราย สาขา อ.เวียงป่าเป้า ได้เดินทางไปพบกับชาวบ้านและรับข้อมูล จากนั้นได้แจ้งให้ชาวบ้านทราบว่า ยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวตามที่ชาวบ้านเข้าใจยังไม่ได้มีการรังวัดเพื่อการออกโฉนดที่ดินแต่อย่างใด นอกจากนี้จากการพิสูจน์ที่ดินทั้ง 25 ไร่ดังกล่าว ก็พบว่าหลังจากหมดสัมปทานการทำเหมืองแร่แล้วส่วนหนึ่งยังถือว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอีกด้วย
ดังนั้นจึงคืนให้กับกรมป่าไม้เป็นผู้รับผิดชอบไปแล้ว ส่วนที่ดินที่เป็นปัญหาคงจะต้องมีการพิสูจน์กันต่อไปหากเป็นสถานที่สาธารณะก็ยืนยันว่าไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ให้กับผู้ใดได้ไม่ว่าจะเป็นเอกสารใดก็ตาม แต่เป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า และต่อมามีผู้เข้าจับจองก็สามารถทำเรื่องออกโฉนดได้เช่นกัน จึงขอให้ทางชาวบ้านได้รอให้ทาง จ.เชียงราย ตั้งคณะกรรมการพิสูจน์ก่อน
