xs
xsm
sm
md
lg

ตร.แปดริ้ว รวบได้แล้ว แก๊งครอบครัวโจรซาดิสต์จ้องปล้นร้านฮัลโหล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ตำรวจแปดริ้ว จับได้แล้วยกแก๊งครอบครัวโจรซาดิสต์ หลังรวมหัวตั้งก๊วนเป็นโจรกันทั้งบ้าน เที่ยวออกตระเวนปล้นทรัพย์ จ้องลงมือร้านค้าขายจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่เปลี่ยว พร้อมจับตัวเจ้าของร้านมัดมือเท้าปิดปาก ลงมือลักษณะคล้ายกันทุกร้าน ก่อนกวาดเอาทรัพย์สินมีค่าไปเกลี้ยง

วันนี้ (7 ก.ย.) เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.สุรพงษ์ กายตะวัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และ สภ.บางปะกง ท้องที่เกิดเหตุคดีปล้นชิงทรัพย์จากหลายท้องที่ ได้นำตัว นายนิธิวัฒน์ เลือดไทย อายุ 30 ปี นายเอกชัย เลือดไทย อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน อยู่บ้านเลขที่ 251/2 ถ.ปราจีนตคาม อ.เมือง ปราจีนบุรี และ นางประไพพร เลือดไทย อายุ 27 ปี ภรรยา รวมทั้ง นายธีระศักดิ์ เลือดไทย อายุ 52 ปี ผู้เป็นบิดา ซึ่งเป็นผู้นำทรัพย์สินที่ปล้นทรัพย์ได้จากผู้อื่นไปขาย

นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนร่วมก๊วนอีกสองคน คือ นายธนากร จินดารัตน์ อายุ 28 ปี และนางณัฐธัญญา จินดารัตน์ อายุ 27 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 59/581 ม.2 ต.ดงพระราม อ.เมืองปราจีนบุรี

พร้อมของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุอีกหลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์เก๋งนิสสัน รุ่นเซฟิโร่ สีน้ำเงิน ทะเบียน พง-828 กทม.1 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง มีดพับแสตนเลส ที่ใช้จี้คอเหยื่อ 1 เล่ม เชือกไนล่อน 1 เส้น และม้วนเทปกราวแผ่นใหญ่ 1 ม้วน ออกมาแถลงข่าว ยังบริเวณด้านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ท่ามกลางความสนใจของประชาชนจำนวนมากที่มามุงดู

พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวว่า จากการที่มีกลุ่มคนร้าย ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ ร้านจำหน่าย โทรศัพท์มือถือ “ร้าน พีพี โมบายส์” ตั้งอยู่ริมถนนจรัลยานนท์ ใกล้ตลาดบูรพา เลขที่ 52/97 ม.14 ต.บางวัว ในท้องที่ สภ.บางปะกง เมื่อวันที่ 20 ส.ค.52  โดยคนร้ายเป็นกลุ่มชายหญิงจำนวนหลายคน ร่วมกันลงมือก่อเหตุ โดยใช้รถยนต์เก๋งนิสสัน เซฟิโร่ สีน้ำเงิน เป็นยานพาหนะ และมีพฤติกรรมในการพันธนาการเหยื่อ ด้วยการมัดมือมัดเท้าด้วยเชือกไนล่อน และปิดปากปิดตาด้วยเทปกราว ก่อนที่จะลงมือปล้นชิงเอาทรัพย์สินไป

ต่อมาเมื่อ วันที่ 2 ก.ย.2552 เวลา 14.45 น.ได้มีคนร้าย ชายหญิง จำนวน 5 คน ได้เข้ามาก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีก ที่ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า “ร้านริส” ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าคาร์ฟู ฉะเชิงเทรา เลขที่ 9/43 ถ.ศรีโสธรตัดใหม่ ต.หน้าเมืองฉะเชิงเทรา โดยมีพฤติกรรมคล้ายกัน ด้วยการส่งให้คนร้ายซึ่งเป็นหญิงเข้ามาดูลาดเลา ทำทีเข้ามาขอเลือกซื้อสินค้า ก่อนส่งสัญญาณให้ฝ่ายคนร้ายซึ่งเป็นชายทราบ เมื่อเห็นเหยื่อเป็นสุภาพสตรีอยู่เพียงลำพัง จึงเข้าไปลงมือก่อเหตุปล้นทรัพย์ ด้วยการใช้อาวุธมีดพับจี้คอ ก่อนใช้เชือกไนล่อนมัดมือ มัดเท้า และใช้เทปกราวปิดตา และปาก

โดยมีพฤติการณ์ก่อเหตุลักษณะคล้ายกันกับรายแรก ด้วยการจับเจ้าของร้านค้า มัดมือเท้า และปิดตาปิดปากด้วยเทปกราว ก่อนขนทรัพย์สินไป แต่จากการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ได้มีพยานซึ่งสามารถจดจำหมายเลขทะเบียนรถ คันที่ใช้ก่อเหตุได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนตรวจสอบติดตามประวัติของรถคันดังกล่าว จนสามารถเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดยกแก๊งทั้ง 2 ครอบครัว

นายเอกชัย กล่าวยอมรับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทั้ง 2 ครั้งจริง โดยได้นำทรัพย์สินที่ได้ ไปเร่ขายในราคาถูกตามตลาดนัด เพียงเครื่องละ 500 บาท และได้นำโน้ตบุ๊กไปขายให้ร้านค้าย่านมาบุญครองในกรุงเทพฯ ราคา 7 พันบาท ส่วนไอพอด ขายได้ราคาสูงถึง 1 หมื่นบาท ก่อนที่จะนำเงินมากินใช้ เที่ยวเตร่ และซื้อยาบ้าเสพ

นอกจากนี้ ยังยอมรับอีกว่า ได้เคยเข้าไปลงมือก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ ในร้านขายโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นของขายง่าย ในอีกหลายท้องที่ทั่วทั้งภาคตะวันออก ซึ่งล่าสุดได้ไปก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ในท้องที่ของ สภ.เมืองชลบุรี และ สภ.เมืองนครนายก มาแล้วอีกด้วย

ผู้ต้องหาทั้งหมด ได้ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีอาวุธ และใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด” และข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร” ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ และนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น