หนุ่มพิการแขน-ขาไม่ยอมเสียสิทธิ - นั่งล้อเข็นเข้าคูหาเลือก อบต.เชียงราย

เชียงราย – เลือกตั้ง 43 อบต.เชียงรายคึกคัก ชาวบ้านแห่ใช้สิทธิต่อเนื่อง เช่นเดียวกับหนุ่มใหญ่พิการแขน-ขา ลงทุนหมุนล้อเข็นเข้าคูหาใช้สิทธิเลือกตั้ง พร้อมฝากย้ำเป็นคนไทยต้องใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ขณะที่มีเรื่องร้องเรียนเข้า กกต.กว่า 20 เรื่อง

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งถึงบรรยากาศการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และสมาชิก อบต.ทั่ว จ.เชียงราย วันนี้ (6 ก.ย.) ว่า เป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามหน่วยเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชียงรายมีพื้นที่ที่ต้องเลือกตั้งทั้งสิ้น 43 ตำบล เพื่อเลือกตั้งนายก อบต.จำนวน 43 คนจากผู้สมัครทั้งสิ้น 96 คน และสมาชิก อบต.จำนวน 1,058 คน จากจำนวนผู้สมัครทั้งสิ้น 2,474 คน

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ก็มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กว่า 20 เรื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการติดป้ายไม่ถูกต้อง เช่น ไม่ถูกสถานที่ ติดโดยไม่ขออนุญาต ฯลฯ และเรื่องการวางตัวไม่เป็นกลางของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ทำให้ กกต.ต้องตรวจสอบเรื่องเหล่านี้อย่างหนัก แต่เบื้องต้นยังไม่พบการทุจริต และในช่วงคืนก่อนการเลือกตั้งหรือคืนหมาหอนก็พบว่ามีกระแสเกี่ยวกับซื้อเสียงเช่นกัน

โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นการแข่งขันกันระหว่างผู้สมัครอิสระทั่วไปกับคนของนักการเมืองท้องถิ่นที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะตำบลใน อ.แม่จัน และ อ.แม่สาย ซึ่งมีกระแสว่าข่าวมีการวางเงินซื้อเสียงเอาไว้หัวละ 500-1,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐานหรือการร้องเรียน

และที่หน่วยเลือกตั้งที่ 5 หมู่บ้านค่ายเจริญ หมู่ 5 ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย พบว่าได้มีนายเฉลย ดวงมูล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่บ้านดังกล่าวซึ่งมีสภาพร่างกายพิการทั้งขาและมือทั้ง 2 ข้าง ได้เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งด้วย โดยนายเฉลย สามารถใช้แขนในการคีบปากกาเขียนได้อย่างคล่องแคล่ว แต่การเดินทางไปก็เป็นไปด้วยความยากลำบากต้องอาศัยคนช่วยเดินทางด้วยรถและใช้ล้อเข็นจูงจากรถไปยังหน่วยเลือกตั้งเพื่อส่งบัตรประจำตัวประชาชนให้เจ้าหน้าที่หน่วย ตรวจนายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รับบัตรและลงคะแนนเสียงเลือกตั้งก่อนจะใช้ปากคีบและหย่อนบัตรลงในหีบคะแนนเสียงทั้ง 2 รูปแบบคือเลือกตั้งนายก อบต.และสมาชิก อบต.เวียงเหนือ ซึ่งนายเฉลย มีความเข้าใจและสามารถทำได้อย่างรวดเร็วแม้จะมีสภาพร่างกายที่พิการ

นายเฉลยกล่าวว่า สาเหตุที่ตนไปใช้สิทธิเลือกตั้งก็เพราะว่ารักในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และตนจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งในทุกระดับ เพราะถือว่าเราเป็นคนไทยเมื่อมีสิทธิก็ต้องใช้ในการเลือกตั้งคนดีเข้าไปบริหารประเทศและช่วยเหลือชาวบ้าน โดยเฉพาะตนเป็นประเภทคนพิการจึงต้องพึ่งพาคนอื่นหรือองค์กรภายในสังคมมากกว่าคนปกติทั่วไป โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือว่ามีส่วนสำคัญและเป็นภาคการเมืองที่อยู่ใกล้กับประชาชนมากที่สุดก็ย่อมมีความสำคัญกับคนพิการมากที่สุดตามมาด้วยนั่นเอง