อุดรธานี -ชาวบ้านโคกกลาง อ.โนนสะอาดโวยโรงงานขอนแก่น แอลกอฮอลขนน้ำกากส่าของเหลือจากการผลิตแอลกอฮอล มาใส่ไร่อ้อยพร้อมเก็บไว้ในบ่อเก็บกัก ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ยื่นคำขาดห้ามขนมาทิ้งอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่าที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล( อบต.)โคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี นายสันติ รินทอง นายก อบต.โคกกลาง จัดเวทีรับฟังและแก้ไขปัญหา กลิ่นการขนส่งและบ่อเก็บกัก “กากน้ำส่า” โดยมีนายคณิศร ขุริรัง รองนายก อบจ.อุดรธานี , นางจันทร์ฉาย นิสีดา ปลัด อ.โนนสะอาด , นายบุญหลาย ตัวเสา กำนัน ต.โคกกลาง , นายไพโรจน์ บุษราคัม ส.อบจ.โนนสะอาด , นายเดชา สุรพล ตัวแทน บ.ขอนแก่น แอลกอฮอล จก. , ผู้ใหญ่บ้าน , สมาชิก อบต. และชาวบ้านพื้นที่ ต.โคกกลาง มาร่วมประชุมกว่า 50 คน
นายบุญหลาย กำนัน ต.โคกกลาง กล่าวว่า มีชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านลงชื่อร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน ว่า บ.ขอนแก่น แอลกอฮอล จก. อ.น้ำพอง ได้ใช้รถบรรทุกขนน้ำกากส่า หรือของเหลือจากการผลิตแอลกอฮอล มาใส่ไร่อ้อย และเก็บไว้ในบ่อเก็บกักทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ บ.โนนน้ำเกลี้ยง ส่งกลิ่นเหม็นสร้างความเดือดร้อน ขยายวงกว้างออกไปหลายหมู่บ้าน และให้ตัวแทนจากหมู่บ้านต่างๆ เล่าเรื่องความเดือนร้อนให้ที่ประชุม ก่อนจะให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจง
โดยผู้ใหญ่บ้าน , ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิก อบต.จาก บ้านค้อน้อย , โคกกลาง , หนองจาน , บ่อฝ้าย , โนนหยาด , เจริญชัย , ตาดโตน ทะยอยชี้ให้เห็นถึงความเดือดร้อน จากกลิ่นของบ่อเก็บกักกากน้ำส่า ที่ส่งกลิ่นตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะเวลากลางคืน อากาศเย็นๆ จะมีกลิ่นที่รุนแรงมาก และรถบรรทุกกากน้ำส่า ที่จะส่งกลิ่นไปทุกสถานที่ เมื่อรถวิ่งผ่านไปในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นกลางวันและกลางคืน โดยอนามัยตำบลระบุว่า มีผู้เดือดร้อนมากกว่า 5,000 คน รวมทั้งนักเรียนขณะเรียนหนังสือ
นายไสว รักชาติ ผญบ.บ้านโนนน้ำเกลี้ยง ม.5 ต.โคกกลาง กล่าวว่า เมื่อ 2 ปีก่อนตนเองมาพูดที่นี่ บอกว่าเหม็นกลิ่นกากน้ำส่า ไม่รู้ตอนนั้นมีใครหัวเราะตนบ้าง แต่ก็มีการทำข้อตกลงกันว่า จะไม่ให้มีกลิ่นเหม็นรบกวนอีก เราก็เชื่อเพราะมีนักวิชาการ มีหน่วยงานราชการ และเจ้าของโรงงานมารับปาก วันนี้มันไม่ได้เหม็นน้อยลง แต่มันเหม็นมากขึ้น แล้วกระจายไปทั่วทุกหมู่บ้านแล้ว คงไม่มีใครหัวเราะตนเอง เพราะมีการขุดบ่อเพิ่มอีก 1 บ่อ พร้อมเสนอให้ยุติการนำกากน้ำส่า มาใส่ไร่อ้อยหรือมาเก็บไว้ในบ่อ “ถ้าจะทิ้งต้องไม่เหม็น ถ้าเหม็นต้องไม่ทิ้ง”
ด้านนายเดชา ตัวแทน บ.ขอนแก่น แอลกอฮอล์ กล่าวว่า “กากน้ำส่า” เป็นของเหลือจากการนำโมลาส ไปผลิตเอธานอล บางส่วนนำไปผลิตปุ๋ย แต่เมื่อนำมารดหรือใส่ในแปลงปลูกอ้อย จะสามารถเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนเรื่องปุ๋ย มีชาวไร่จำนวนมากอยากได้ อย่างเช่นที่ จ.กาญจนบุรี มีการซื้อขายกัน เกษตรกรที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ก็อยากจะได้ ซึ่งทางโรงงานเห็นว่า ผลผลิตอ้อยที่ อ.โนนสะอาดไม่ดี จึงนำมาให้เกษตรกร โดยได้รับอนุญาตจากอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี ถูกต้องแล้ว แต่เพราะนำมามากเกินไปจึงเกิดปัญหา
“ ทางโรงงานมีความเป็นห่วงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมจะร่วมมือกับชาวบ้านแก้ไข ขณะนี้ได้นำเอาสะแลนมาขึงบังรอบบ่อแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถลดความเหม็นลง การแก้ไขในโอกาสต่อไปนี้ จะทำการปลูกต้นไม้กันแนวลม โดยจะเอาต้นไม้ขนาดใหญ่มาปลูก และการนำ อีเอ็ม.มาใส่ให้ลดความเหม็นลง ซึ่งเคยทำและแก้ปัญหาในจุดอื่นมาแล้ว ซึ่งการแก้ไขน่าจะร่วมกันแบบไตรภาคี"
นายไพโรจน์ ส.อบจ.โนนสะอาด กล่าวสรุป ขอมติต่อที่ประชุม หลังจากชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับโรงงาน โดยสรุปที่ประชุมมีมติไม่ให้นำ “กากน้ำส่า” มาเทลงในบ่อเก็บกักอีกต่อไป หากจะมีการมาเท หรือนำมาใช้ในพื้นที่ โรงงานจะต้องคุยกับชาวบ้านอีกครั้ง โดยให้ อบต.โคกกลาง นำหนังสือแจ้งมติไปยังโรงงานตัดสินใจ ขณะที่ตัวแทนขอเวลาไปแจ้งให้เจ้าของบริษัทให้ทราบก่อน และถ้าขอย้ายคงต้องใช้เวลาพอสมควร ทั้งนี้ชาวบ้านจะรอฟังคำตอบอีก 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่าที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล( อบต.)โคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี นายสันติ รินทอง นายก อบต.โคกกลาง จัดเวทีรับฟังและแก้ไขปัญหา กลิ่นการขนส่งและบ่อเก็บกัก “กากน้ำส่า” โดยมีนายคณิศร ขุริรัง รองนายก อบจ.อุดรธานี , นางจันทร์ฉาย นิสีดา ปลัด อ.โนนสะอาด , นายบุญหลาย ตัวเสา กำนัน ต.โคกกลาง , นายไพโรจน์ บุษราคัม ส.อบจ.โนนสะอาด , นายเดชา สุรพล ตัวแทน บ.ขอนแก่น แอลกอฮอล จก. , ผู้ใหญ่บ้าน , สมาชิก อบต. และชาวบ้านพื้นที่ ต.โคกกลาง มาร่วมประชุมกว่า 50 คน
นายบุญหลาย กำนัน ต.โคกกลาง กล่าวว่า มีชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านลงชื่อร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน ว่า บ.ขอนแก่น แอลกอฮอล จก. อ.น้ำพอง ได้ใช้รถบรรทุกขนน้ำกากส่า หรือของเหลือจากการผลิตแอลกอฮอล มาใส่ไร่อ้อย และเก็บไว้ในบ่อเก็บกักทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ บ.โนนน้ำเกลี้ยง ส่งกลิ่นเหม็นสร้างความเดือดร้อน ขยายวงกว้างออกไปหลายหมู่บ้าน และให้ตัวแทนจากหมู่บ้านต่างๆ เล่าเรื่องความเดือนร้อนให้ที่ประชุม ก่อนจะให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจง
โดยผู้ใหญ่บ้าน , ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิก อบต.จาก บ้านค้อน้อย , โคกกลาง , หนองจาน , บ่อฝ้าย , โนนหยาด , เจริญชัย , ตาดโตน ทะยอยชี้ให้เห็นถึงความเดือดร้อน จากกลิ่นของบ่อเก็บกักกากน้ำส่า ที่ส่งกลิ่นตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะเวลากลางคืน อากาศเย็นๆ จะมีกลิ่นที่รุนแรงมาก และรถบรรทุกกากน้ำส่า ที่จะส่งกลิ่นไปทุกสถานที่ เมื่อรถวิ่งผ่านไปในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นกลางวันและกลางคืน โดยอนามัยตำบลระบุว่า มีผู้เดือดร้อนมากกว่า 5,000 คน รวมทั้งนักเรียนขณะเรียนหนังสือ
นายไสว รักชาติ ผญบ.บ้านโนนน้ำเกลี้ยง ม.5 ต.โคกกลาง กล่าวว่า เมื่อ 2 ปีก่อนตนเองมาพูดที่นี่ บอกว่าเหม็นกลิ่นกากน้ำส่า ไม่รู้ตอนนั้นมีใครหัวเราะตนบ้าง แต่ก็มีการทำข้อตกลงกันว่า จะไม่ให้มีกลิ่นเหม็นรบกวนอีก เราก็เชื่อเพราะมีนักวิชาการ มีหน่วยงานราชการ และเจ้าของโรงงานมารับปาก วันนี้มันไม่ได้เหม็นน้อยลง แต่มันเหม็นมากขึ้น แล้วกระจายไปทั่วทุกหมู่บ้านแล้ว คงไม่มีใครหัวเราะตนเอง เพราะมีการขุดบ่อเพิ่มอีก 1 บ่อ พร้อมเสนอให้ยุติการนำกากน้ำส่า มาใส่ไร่อ้อยหรือมาเก็บไว้ในบ่อ “ถ้าจะทิ้งต้องไม่เหม็น ถ้าเหม็นต้องไม่ทิ้ง”
ด้านนายเดชา ตัวแทน บ.ขอนแก่น แอลกอฮอล์ กล่าวว่า “กากน้ำส่า” เป็นของเหลือจากการนำโมลาส ไปผลิตเอธานอล บางส่วนนำไปผลิตปุ๋ย แต่เมื่อนำมารดหรือใส่ในแปลงปลูกอ้อย จะสามารถเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนเรื่องปุ๋ย มีชาวไร่จำนวนมากอยากได้ อย่างเช่นที่ จ.กาญจนบุรี มีการซื้อขายกัน เกษตรกรที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ก็อยากจะได้ ซึ่งทางโรงงานเห็นว่า ผลผลิตอ้อยที่ อ.โนนสะอาดไม่ดี จึงนำมาให้เกษตรกร โดยได้รับอนุญาตจากอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี ถูกต้องแล้ว แต่เพราะนำมามากเกินไปจึงเกิดปัญหา
“ ทางโรงงานมีความเป็นห่วงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมจะร่วมมือกับชาวบ้านแก้ไข ขณะนี้ได้นำเอาสะแลนมาขึงบังรอบบ่อแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถลดความเหม็นลง การแก้ไขในโอกาสต่อไปนี้ จะทำการปลูกต้นไม้กันแนวลม โดยจะเอาต้นไม้ขนาดใหญ่มาปลูก และการนำ อีเอ็ม.มาใส่ให้ลดความเหม็นลง ซึ่งเคยทำและแก้ปัญหาในจุดอื่นมาแล้ว ซึ่งการแก้ไขน่าจะร่วมกันแบบไตรภาคี"
นายไพโรจน์ ส.อบจ.โนนสะอาด กล่าวสรุป ขอมติต่อที่ประชุม หลังจากชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับโรงงาน โดยสรุปที่ประชุมมีมติไม่ให้นำ “กากน้ำส่า” มาเทลงในบ่อเก็บกักอีกต่อไป หากจะมีการมาเท หรือนำมาใช้ในพื้นที่ โรงงานจะต้องคุยกับชาวบ้านอีกครั้ง โดยให้ อบต.โคกกลาง นำหนังสือแจ้งมติไปยังโรงงานตัดสินใจ ขณะที่ตัวแทนขอเวลาไปแจ้งให้เจ้าของบริษัทให้ทราบก่อน และถ้าขอย้ายคงต้องใช้เวลาพอสมควร ทั้งนี้ชาวบ้านจะรอฟังคำตอบอีก 7 วัน
