บุรีรัมย์ - ศึกชิง อบต.บุรีรัมย์ 78 แห่ง เดือดโค้งสุดท้าย กลุ่มการเมืองระดับและกลุ่มอิทธิพลวางสายยึดเก้าอี้นายก อบต แฉงัดสารพัดวิชามารโคตรโกงเลือกตั้งซัดกันเละ แห่แลกแบงก์ 100, 500 บาท กับ ธ.พาณิชย์ หมดเกลี้ยง แฉซื้อหัวละ 300-500 บาท สะพัดกว่า 300 ล้าน ด้านกกต.บุรีรัมย์ ขอกำลังทหาร- ตำรวจกว่า 500 นาย จับทุจริตเลือกตั้ง
วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) จ.บุรีรัมย์ ทั้ง 78 แห่ง และ อีก 1 เทศบาล ใน 21 อำเภอ ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง 6 ก.ย.นี้ ว่า ล่าสุด เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยผู้สมัครแต่ละคนได้ออกตระเวนพบปะประชาชนตามหมู่บ้าน ตำบลในเขตเลือกตั้งของตนเอง แบบเคาะประตูบ้าน พร้อมจัดทีมงานออกไปติดโปสเตอร์หาเสียงตามที่ต่างๆ และมีรถโฆษณาหาเสียงตระเวนไปในเขตพื้นที่เลือกตั้งตลอดทั้งวัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ในบางพื้นที่มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรงระหว่างผู้สมัครนายก อบต.และถูกจับตาเป็นพื้นที่ที่คาดว่ามีกลุ่มการเมืองระดับชาติ และผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น อ.เมือง ,นางรอง , พุทไธสง , ประโคนชัย, ลำปลายมาศ , สตึก , กระสัง , หนองกี่ , บ้านกรวด ,หนองหงส์ และ อ.ชำนิ ซึ่งมักจะเกิดความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.หนองหงส์ ที่มีการใช้กลุ่มชายฉกรรจ์ ขี่จักรยานยนต์ออกทำลายป้ายหาเสียงของผู้สมัคร และ อ.เมืองบุรีรัมย์มีการร้องเรียนข้าราชการ บางคนวางตัวไม่เป็นกลาง เข้าไปในพื้นที่ อบต.แห่งหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือผู้สมัครนายก อบต.รายหนึ่ง นอกจากนี้ บางพื้นที่ยังมีการข่มขู่ผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม
ส่วนการซื้อเสียงนั้น มีข่าวการทุ่มเงินซื้อเสียงในหลายพื้นที่ โดยใช้แกนนำเป็นหัวคะแนนในหมู่บ้านสัดส่วน 1 ต่อ 15 จ่าย หัวละ 300-500 บาท ส่วนแกนนำได้ 800-1,000 บาท อีกทั้งมีการทุ่มเงินซื้อเสียงแบบเครือญาติที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยากที่จะจับมือใครดมได้ โดยใช้วิธีการให้ญาติของผู้สมัครเป็นผู้ใช้เงินในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ หรืองานมงคลอื่นๆ ซึ่งผู้สมัครจะไปร่วมงานได้ แต่ไม่สามารถใส่ซองได้ แต่ผู้สมัครบางคนหัวใสให้ญาติเป็นผู้นำเงินใส่ซองไปช่วยเหลืองาน แต่ไม่ยอมระบุชื่อหน้าซอง เพราะกลัวถูกร้องเรียน และ กกต.จับตามองใกล้ชิด รวมทั้งมีการขนคนที่มีสิทธิเลือกตั้งไปจ่ายเงินซื้อเสียงนอกเขตตำบล อำเภอ ด้วย
แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนเงินที่ธนาคารพาณิชย์ หลายแห่งในจังหวัดตลอดทั้งวัน โดยเจาะจงขอแลกเฉพาะธนบัตรฉบับละ 100, 500 โดยมียอดการแลกเงินตั้งแต่หลักแสนบาทขึ้นไป ทำให้ธนาคารพาณิชย์บางแห่ง ไม่มีเงินให้แลก ส่งผลให้มีกระแสเงินสะพัดในสนามเลือกตั้ง อบต.บุรีรัมย์ช่วงนี้ไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท
ด้าน ว่าที่ ร.ต.ทวี ชุนเกาะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องเรียนเข้ามายัง กกต.แล้ว 3 เรื่อง เกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งจ่ายเงินซื้อเสียง จัดเลี้ยง และสัญญาว่าจะให้ ในส่วนของการควบคุมดูแลการทุจริตเลือกตั้งในครั้งนี้ นอกจากจะใช้กำลังตำรวจประจำหน่วยๆ ละ 2 นายแล้ว ยังได้ประสานกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และ กำลังทหารจากค่าย ร.23 พัน 4 และทหารจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ รวมกว่า 500 นาย เข้ามาเป็นชุดป้องปราบเคลื่อนที่เร็วเพื่อตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง อบต.ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์
“ชุดป้องปราบดังกล่าวจะเข้าไปฝังตัวหาข่าวในพื้นที่ก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าการเลือกตั้ง อบต.บุรีรัมย์ ทั้ง 78 แห่งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย” ว่าที่ ร.ต.ทวี กล่าว