ตาก - เจ้าหน้าที่องค์กรต่างประเทศนับร้อยยังติดอยู่ในพื้นที่สู้รบระหว่างพม่า-โกก้าง แม้พม่าสามารถยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ได้แล้วก็ตาม แต่ยังถูกกลุ่มโกก้างซุ่มโจมตีเป็นระยะ ด้าน “เจ้ายอดศึก” ผู้นำกองกำลังไทยใหญ่ เชื่อเป้าหมายต่อไปพม่าจ้องถล่มทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ 4 เมืองลา-คะฉิ่น-ว้า ก่อนเปิดศึกกับไทยใหญ่ต่อ
หน่วยข่าวความมั่นคงไทยที่ติดตามความเคลื่อนไหวในพม่า ระบุว่า ขณะนี้กองทัพพม่าสามารถยึดพื้นที่เขตอิทธิพลของโกก้าง MNDAA ได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ดูเหมือนการสู้รบยังไม่จบ เพราะกลุ่มโกก้างหันมาใช้วิธีซุ่มโจมตีทหารพม่าบริเวณพื้นที่รอยต่อเขตปกครองว้า-โกก้าง ด้านตะวันตกของเมืองชินฉ่วยเหอ โดยมีนายเผิงต้าชุน บุตรชายนาย เผิงจาเซิง ผู้นำสูงสุดของ MNDAA ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการในสนามรบ
และเนื่องจากการปะทะยังคงมีอยู่ทำให้เจ้าหน้าที่องค์กรต่างประเทศที่เข้าไปปฏิบัติงานในเขตโกก้าง เช่น เจ้าหน้าที่สำนักงานโครงการอาหารโลก (WFP-World Food Program) เจ้าหน้าที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA-Japan International Cooperation Agency) และ NGOs หลายหน่วยงานกว่า 100 คนยังไม่สามารถเดินทางกลับออกมาได้ เพราะต้องระวังอันตรายจากกระสุนปืนและกองกำลังฝ่ายต่างๆ
โดยขณะนี้ทหารพม่ากำลังเตรียมเคลียร์ทางเพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่องค์กรต่างประเทศในเขตโกก้างไปยังเมืองลาเฉียว ภาคเหนือของรัฐฉานอยู่
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวแจ้งว่า กองทัพพม่า SPDC จากกองทัพภาคสามเหลี่ยม (เชียงตุง) ได้เสริมกำลังขึ้นไปประชิดเขตพื้นที่ปกครองว้า UWSA บริเวณเมืองขาก เมืองนุง ตะวันตกของเมืองป้อก ซึ่งเป็นเขตปกครองว้า UWSA ซึ่งเป็นไปได้ว่า พม่าอาจจะเตรียมเปิดศึกกับกลุ่มว้าต่อก็เป็นได้
ส่วนทางด้านกองกำลังเมืองลา NDAA มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พม่าจากกองทัพภาคสามเหลี่ยม (เชียงตุง) หลายคนได้เดินทางไปเยือนเมืองลา เมืองหลวงเขตปกครองพิเศษที่ 4 ของกองกำลังสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตย หรือ กองกำลังเมืองลา NDAA โดยชี้แจงถึงเหตุการณ์สู้รบกับกลุ่มโกก้าง ซึ่งระบุว่าเป็นการภายในและกองทัพพม่าได้พยายามเจรจาไกล่เกลี่ยแล้วแต่ล้มเหลว
พ.อ.เจ้ายอดศึก ผู้นำกองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ SSA กล่าวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เป้าหมายต่อไปในการปราบปรามกองกำลังชนกลุ่มน้อยของ รัฐบาลทหารพม่า SPDC คือกองกำลังเมืองลา NDAA-National Democratic Alliance Army และจากนั้นจะปราบปรามกองกำลังอิสรภาพคะฉิ่น KIA-Kachin Independence Army และต่อด้วยกองกำลังว้า UWSA-United Wa State Army ส่วนกองกำลังไทยใหญ่ SSA น่าจะเป็นกลุ่มสุดท้าย
โดยก่อนหน้านี้พม่าได้ปราบปรามกองกำลังชนกลุ่มน้อยสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU ที่บริเวณแนวชายแดนไทย-พม่า ด้านจังหวัดตาก จนยึดฐานที่มั่นของ KNU ได้ทั้งหมดเมื่อเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา
หน่วยข่าวความมั่นคงไทยที่ติดตามความเคลื่อนไหวในพม่า ระบุว่า ขณะนี้กองทัพพม่าสามารถยึดพื้นที่เขตอิทธิพลของโกก้าง MNDAA ได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ดูเหมือนการสู้รบยังไม่จบ เพราะกลุ่มโกก้างหันมาใช้วิธีซุ่มโจมตีทหารพม่าบริเวณพื้นที่รอยต่อเขตปกครองว้า-โกก้าง ด้านตะวันตกของเมืองชินฉ่วยเหอ โดยมีนายเผิงต้าชุน บุตรชายนาย เผิงจาเซิง ผู้นำสูงสุดของ MNDAA ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการในสนามรบ
และเนื่องจากการปะทะยังคงมีอยู่ทำให้เจ้าหน้าที่องค์กรต่างประเทศที่เข้าไปปฏิบัติงานในเขตโกก้าง เช่น เจ้าหน้าที่สำนักงานโครงการอาหารโลก (WFP-World Food Program) เจ้าหน้าที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA-Japan International Cooperation Agency) และ NGOs หลายหน่วยงานกว่า 100 คนยังไม่สามารถเดินทางกลับออกมาได้ เพราะต้องระวังอันตรายจากกระสุนปืนและกองกำลังฝ่ายต่างๆ
โดยขณะนี้ทหารพม่ากำลังเตรียมเคลียร์ทางเพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่องค์กรต่างประเทศในเขตโกก้างไปยังเมืองลาเฉียว ภาคเหนือของรัฐฉานอยู่
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวแจ้งว่า กองทัพพม่า SPDC จากกองทัพภาคสามเหลี่ยม (เชียงตุง) ได้เสริมกำลังขึ้นไปประชิดเขตพื้นที่ปกครองว้า UWSA บริเวณเมืองขาก เมืองนุง ตะวันตกของเมืองป้อก ซึ่งเป็นเขตปกครองว้า UWSA ซึ่งเป็นไปได้ว่า พม่าอาจจะเตรียมเปิดศึกกับกลุ่มว้าต่อก็เป็นได้
ส่วนทางด้านกองกำลังเมืองลา NDAA มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พม่าจากกองทัพภาคสามเหลี่ยม (เชียงตุง) หลายคนได้เดินทางไปเยือนเมืองลา เมืองหลวงเขตปกครองพิเศษที่ 4 ของกองกำลังสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตย หรือ กองกำลังเมืองลา NDAA โดยชี้แจงถึงเหตุการณ์สู้รบกับกลุ่มโกก้าง ซึ่งระบุว่าเป็นการภายในและกองทัพพม่าได้พยายามเจรจาไกล่เกลี่ยแล้วแต่ล้มเหลว
พ.อ.เจ้ายอดศึก ผู้นำกองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ SSA กล่าวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เป้าหมายต่อไปในการปราบปรามกองกำลังชนกลุ่มน้อยของ รัฐบาลทหารพม่า SPDC คือกองกำลังเมืองลา NDAA-National Democratic Alliance Army และจากนั้นจะปราบปรามกองกำลังอิสรภาพคะฉิ่น KIA-Kachin Independence Army และต่อด้วยกองกำลังว้า UWSA-United Wa State Army ส่วนกองกำลังไทยใหญ่ SSA น่าจะเป็นกลุ่มสุดท้าย
โดยก่อนหน้านี้พม่าได้ปราบปรามกองกำลังชนกลุ่มน้อยสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU ที่บริเวณแนวชายแดนไทย-พม่า ด้านจังหวัดตาก จนยึดฐานที่มั่นของ KNU ได้ทั้งหมดเมื่อเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา