ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรรมการบริหารกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าเครือไทยออยล์ แหลมฉบังเพาเวอร์และสหโคเจน พิจารณาให้งบอีก 6 โครงการ และงบประชาสัมพันธ์ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่ศาลาประชาคม เทศบาลตำบลแหลมฉบัง นายสุนทร รัตนวราหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าเครือไทยออยล์ แหลมฉบังเพาเวอร์และสหโคเจน ในการพิจารณาโครงการขอรับการสนับสนุนจากชุมชนต่างๆ รอบพื้นที่โรงไฟฟ้าฯ โดยการประชุมในครั้งนี้อนุมัติโครงการผ่าน 6 โครงการ รวมเป็นเงิน 7,186,400 บาท รวมทั้งอนุมัติงบประชาสัมพันธ์โครงการฯ อีก 3 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 10,186,400 บาท และในระหว่างวันที่ 18-23 กันยายน 2552 จะมีการพาคณะกรรมการฯ เดินทางไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ในที่ประชุม นายสุนทร รัตนวราหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ประธานในที่ประชุมยังได้แนะนำให้ในที่ประชุม ในการการที่จะทำให้แต่ละโครงการดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว และประชาชนจะได้รับประโยชน์มากที่สุด จึงได้แนะนำให้จัดเจ้าหน้าที่คอนเซ้าท์ เข้าไปลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลถึงปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่ จะได้นำมาเขียนโครงการเพื่อเสนอในที่ประชุมต่อไป เพื่อความรวดเร็ว ถูกต้อง และเข้าถึงความต้องการของประชานอย่างถึงที่สุด
สำหรับโครงการที่กรรมการบริหารกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าเครือไทยออยล์ แหลมฉบังเพาเวอร์และสหโคเจน อนุมัติในครั้งนี้ คือ โครงการก่อสร้าง-ปรับปรุงสะพานข้ามคลอง ชุมชนบ้านแหลมฉบังเก่า ตำบลทุ่งศุขลา อำเภอศรีราชา เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด ชุมชนตลาดอ่าวอุดมและชุมชนตลาดอ่าวอุดม ตำบลทุ่งศุขลา อำเภอศรีราชาเป็นจำนวนเงิน 920,000 บาท โครงการปลูกผักปลอดสารพิษ
เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้และบริโภค ชุมชนวัดมโนรม ตำบลทุ่งศุขลา อำเภอศรีราชา เป็นจำนวนเงิน 235,300 บาท โครงการก่อสร้างศาลาฌาปนกิจศพวัดเขาน้ำซับ ชุมชนบ้านเขาน้ำซับ ตำบลทุ่งศุขลา อำเภอศรีราชา จำนวน 4,700,000 บาท โครงการสนับสนุนการก่อสร้างอาคารเรียน ชุมชนริมทะเล ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จำนวน 611,100 บาท
โครงการปลูกผักปลอดสารพิษชุมชนอัสสัมชัญ ชุมชนบ้านวังหิน ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จำนวน 220,000 บาท และทางคณะกรรมการฯได้ขออนุมัติงบประชาสัมพันธ์โครงการฯ และจัดซื้ออุปกรณ์สำนักงานเพื่อใช้ในการประชุม อีก 3,000,000 บาท รวมงบประมาณที่อนุมัติไปทั้งหมดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 10,186,400 บาท และการประชุมในครั้งนี้ยังมีการเตรียมให้คณะกรรมการฯ ได้ไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-23 กันยายน 2552 ด้ว
