พธม.ยกทัพบุก “เขาวิหาร” ปักธงเขตแดนไทย - หันครุฑไปฝั่งเขมรแก้เคล็ดมนต์ดำ

ศรีสะเกษ – พันธมิตรฯ ยกทัพนักรบมือตบนับพัน บุกพิสูจน์ “เขาพระวิหาร” จ.ศรีสะเกษ ปักธงเขตแดนไทย พร้อมปัก “ครุฑทองคำ” หันหน้าไปฝั่งกัมพูชาแก้เคล็ดมนต์ดำ และให้ประเทศไทยแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง เผยทหารไทยไฟเขียวให้ “วีระ” พร้อมตัวแทน 8 คน ขึ้นไปสำรวจวัดแก้วฯ เจ้าปัญหา และภูมะเขือได้ ขณะทหารเขมรทำพิรุธย่องเงียบถอนกำลัง 400 นาย ออกจากบริเวณเขาพระวิหารกลางดึก

วันนี้ (28 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.20 น.ที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียม อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ประมาณ 1,000 คน นำโดย นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) แนวร่วมพันธมิตรฯ ได้ พากันเดินทางโดยรถยนต์กว่า 35 คัน มารวมตัวกันเพื่อเดินทางขึ้นไปยังบริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร และ วัดแก้วสิขคีรีศวร บนเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา

ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีทหารกัมพูชาบุกรุกเขตแดนไทย ที่บริเวณเขาพระวิหาร แต่ปรากฏว่า ไม่ได้รับการอนุญาตจากฝ่ายทหารไทยให้ขึ้นไปที่ผามออีแดง และต่อมาได้เชิญ นายวีระ แกนนำ มาร่วมประชุมปรึกษาหารือร่วมกับตัวแทนทหารกองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัชวาลย์ แก้วจันดี ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และ ฝ่ายปกครองของ อ.กันทรลักษ์

ในที่สุดได้มีข้อตกลงร่วมกัน โดยอนุญาตให้ นายวีระ สมความคิด และตัวแทนอีกไม่เกิน 8 คน เดินทางขึ้นไปสำรวจที่บริเวณวัดแก้วสิขาคีรีศวร บนเขาพระวิหาร และบริเวณใกล้กับภูมะเขือได้ โดยมีทหารไทยคุ้มครองดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เดินทางมาในครั้งนี้ ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปได้เพียงบริเวณผามออีแดงเท่านั้น ซึ่งทางฝ่ายทหารอ้างผลเหตุด้านความปลอดภัย

ต่อมากลุ่มพันธมิตรฯ ได้พากันเดินทางขึ้นไปบริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร และ นำ “ครุฑ” ทาด้วยสีทองคำไปปักไว้ที่บริเวณหน้าผามออีแดง พร้อมทั้งปักธง ภปร. สีเหลือง จำนวน 3 อันด้วย โดยหันหน้าครุฑทองคำ ไปยังปราสาทพระวิหาร ฝั่งประเทศกัมพูชา ขณะที่บรรดาประชาชนพันธมิตรฯ ที่ร่วมมากับขบวนต่างได้พากันใช้กล้องส่องทางไกลสำรวจดูภูมิประเทศรอบบริเวณเขาพระวิหาร ท่ามกลางทหารไทยวางกำลังคอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด จากนั้นได้พากันเดินทางกลับลงมาจากบริเวณหน้าผามออีแดง

นางกรองแก้ว วัฒนกุล อายุ 45 ปี แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จากภาคใต้คนหนึ่ง กล่าวว่า การที่พวกเรานำเอาครุฑสีทอง และธง ภปร.มาปักไว้ที่บริเวณหน้าผามออีแดง เนื่องจากต้องการแก้เคล็ดที่ทางฝ่ายกัมพูชาได้ทำพิธีทางไสยศาสตร์ เพื่อหวังที่จะเอาชนะประเทศไทยกรณีเขาพระวิหาร ดังนั้น จึงได้นำเอาครุฑทองคำมาปักไว้ที่ผามออีแดง เพื่อเป็นการต่อต้านไสยศาสตร์มนต์ดำของกัมพูชา ไม่ให้รุกล้ำเข้ามาภายในเขตประเทศไทยได้

ด้าน นายธนวัฒน์ วุ่นหนู อายุ 30 ปี หัวหน้านักรบศรีวิชัย สองคาบสมุทร กล่าวว่า ตนเป็นผู้ที่ปักธง ภปร.และ ปักครุฑทองคำ ด้วยตัวเอง เพราะมีความเชื่อมั่นว่า ด้วยพลานุภาพของครุฑทองคำ จะทำให้ประเทศไทยแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงได้ ซึ่งจากการที่ได้ตรวจสอบสภาพพื้นที่โดยรอบเขาพระวิหารแล้ว เห็นว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้สูญเสียปราสาทพระวิหารไปแล้วตามคำพิพากษาของศาลโลก แต่ไม่ใช่การสูญเสียเขาพระวิหารทั้งลูกแต่อย่างใด

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพี้นที่ที่ยังไม่ได้มีการปักปันเขตแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร รัฐบาลไทยจะต้องไม่ให้มีการสูญเสียดินแดนอีกอย่างเด็ดขาด รัฐบาลต้องทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนเพื่อรักษาดินแดนไทยไว้ให้ลูกหลานสืบต่อ ไป ไม่ให้ตกเป็นของประเทศกัมพูชา” นายธนวัฒน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า แหล่งข่าวจากทหารไทยที่ตรึงกำลังบริเวณเขาพระวิหารแจ้งว่า ตลอดคืนวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายทหารกัมพูชาได้ใช้รถบรรทุกยีเอ็มซี จำนวน 50 คัน บรรทุกทหารกัมพูชาจำนวนประมาณ 400 นาย พร้อมด้วยอาวุธหนักครบมือถอนกำลังออกจากบริเวณเขาพระวิหาร แต่ยังคงมีทหารกัมพูชาบางส่วนเฝ้ารักษาตลอดแนวเขาพระวิหารไว้

“ทั้งนี้ คาดว่า การที่ฝ่ายกัมพูชาสั่งถอนกำลังทหารบางส่วนออกไปในครั้งนี้ อาจเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจในการพยายามสร้างสันติภาพบริเวณเขาพระวิหารกับรัฐบาลไทย หรืออาจมีวัตถุประสงค์อื่นซ่อนอยู่เบื้องหลังก็เป็นได้” แหล่งข่าวทหารไทย กล่าว