ตาก- แพทย์โรงพยาบาลแม่สอด และสาธารณสุขอำเภอท่าสองยาง ดูพื้นที่พักพิงบ้านแม่หละ (ศูนย์อพยพบ้านแม่หละ) พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 1 เป็น 10 พร้อมเริ่มใช้มาตรการห้ามบ้วนน้ำหมาก-เสมหะ สร้างนิสัยใหม่ผู้อพยพแล้ว
นายแพทย์ รณไตร เรืองวีรยุทธ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลแม่สอด อำเภอแม่สอด จ.ตาก พร้อมด้วยสาธารณสุขอำเภอท่าสองยาง คณะเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปยังพื้นที่พักพิงชั่วคราว ผู้หนีภัยสงครามบ้านแม่หละ (ศูนย์อพยพบ้านแม่หละ) ตำบลแม่หละ อำเภอท่าสองยาง จ.ตาก โดยมี นายฉลองชัย อร่ามรุ่งโรจน์ ปลัดอำเภอท่าสองยาง ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านแม่หละ ให้การต้อนรับ พร้อมกับการบรรยายสรุปให้คณะแพทย์ฟัง
โดยคณะของ นายแพทย์ รณไตร ต้องการไปดูสภาพพื้นที่ ความเป็นอยู่ และงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่พักพิง ฯลฯ
โดยเฉพาะการแก้ปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กำลังเกิดขึ้นภายในศูนย์พักพิง จากนั้นจึงเดินทางไปดูสภาพโรงพยาบาลพื้นที่พักพิงบ้านแม่หละ ซึ่งรับการรักษาผู้ลี้ภัยโดยแพทย์จากองค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรพัฒนาเอกชน
นายแพทย์ รณไตร กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นั้น ถือว่าเป็นธรรมดา เมื่อติดเชื้อแล้ว ถ้าอาการไม่หนักให้พักอยู่กับบ้านได้ เว้นแต่มีโรคประจำตัว หรืออายุตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป หรือมีอาการหนักก็ควรนำส่งโรงพยาบาล แต่เท่าที่ได้ดูที่โรงพยาบาลบ้านแม่หละได้พบกับผู้ป่วยอีก 1 ราย
แต่ดูจากสภาพโรงพยาบาลในพื้นที่พักพิงแล้ว สามารถรับผู้ป่วยได้ไม่มีปัญหาใดๆ
ขณะที่ปลัดอำเภอท่าสองยาง กล่าวว่า คณะแพทย์โรงพยาบาลแม่สอด ได้เดินทางไปดูสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 และทาง นายคมสัน เอกชัย ผวจ.ตาก และ นายโภคากร สินสกลวัฒน์ นายอำเภอท่าสองยาง ได้ห่วงใยมากเพราะพื้นที่พักพิงมีผู้ลี้ภัยจำนวนมาก ซึ่งมีสาธารณสุขอำเภอท่าสองยาง และองค์กรพัฒนาเอกชนดูแลอยู่ ขณะนี้มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันใหม่ 2009 ทั้งหมด 10 ราย โดยทางองค์กรจัดการด้านน้ำ และสุขภาพ (Ami) ได้ให้ผู้ป่วยอยู่กับบ้าน ไม่ออกไปไหน เพราะจะเกิดปัญหาการแพร่ระบาด
“สำหรับมาตรการห้ามไม่ให้ผู้ลี้ภัยบ้วนน้ำหมาก และเสมหะในพื้นที่พักพิง นั้น ได้บังคับใช้แล้ว ทำให้ผู้ลี้ภัยไม่บ้วนน้ำหมาก และเสมหะ แต่มาตรการนี้เป็นเพียงการสร้างนิสัยมากกว่า ไม่ได้มุ่งเอาเงินอะไร”