ศูนย์ข่าวศรีราชา- เมืองพัทยาประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถกร่าง TOR กำหนดแนวทางการสัมปทานการจัดเก็บขยะมูลฝอยใหม่ หลังสัญญาฉบับเก่าใกล้หมดระยะเวลาการสัมปทานต้นปี 53
วันนี้ (27 ส.ค.) นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราช การและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ในการหารือการถกร่าง TOR หรือขอบเขตการดำเนินงานในการร่างสัญญาโครงการเก็บขยะมูลฝอยเมืองพัทยาฉบับใหม่ หลังจากที่สัญญาฉบับเก่าใกล้จะหมดระยะ เวลาสัมปทานลงในช่วงเดือนมีนาคม 2553 ว่า
สำหรับปัญหาขยะมูลฝอยของเมืองพัทยาถือว่าเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากมีปริมาณขยะเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสังคมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถานที่รองรับมีจำนวนจำกัด สิ่งสำคัญคือมาตรฐานการจัดเก็บจะต้องดี ถูกสุขลักษณะ และมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวดังนั้นภาพลักษณ์จากปัญหาเรื่องของสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
นายอิทธิพล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวนโยบายของผู้บริหารเกี่ยวกับมาตรการจัดเก็บนั้น คงจะจดแบ่งพื้นที่เช่นเดิม คือ ให้ภาคเอกชนจัดเก็บในสัดส่วน 70% ของพื้นที่ ขณะที่เมืองพัทยารับผิดชอบในสัดส่วน 30%
ขณะที่การจัดเก็บนั้นผู้รับสัมปทานรายใหม่จะต้องหาพื้นที่ในการทำจุดพักขยะเพิ่มเติมจากเดิมอีก 1 จุด เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมในจุดพักขยะเก่า รวมทั้งต้องทำการปรับเปลี่ยนสภาพรถเก็บขน และพนักงานให้มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ สิ่งสำคัญคือต้องลดปัญหาของขยะตกค้างและการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพ ที่ต้องสอดคล้องกับปริมาณขยะที่จะเพิ่มขึ้นในอัตรา 340-350 ตันต่อวัน
พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมยังมีการหารือเกี่ยวกับโครงการที่เมืองพัทยา จะร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเกี่ยวกับการจัดทำโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการหารือร่วมกันพร้อมวางกรอบและกำหนดการจัด ทำ MOU ร่วมกันในเร็ววันนี้
วันนี้ (27 ส.ค.) นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราช การและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ในการหารือการถกร่าง TOR หรือขอบเขตการดำเนินงานในการร่างสัญญาโครงการเก็บขยะมูลฝอยเมืองพัทยาฉบับใหม่ หลังจากที่สัญญาฉบับเก่าใกล้จะหมดระยะ เวลาสัมปทานลงในช่วงเดือนมีนาคม 2553 ว่า
สำหรับปัญหาขยะมูลฝอยของเมืองพัทยาถือว่าเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากมีปริมาณขยะเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสังคมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถานที่รองรับมีจำนวนจำกัด สิ่งสำคัญคือมาตรฐานการจัดเก็บจะต้องดี ถูกสุขลักษณะ และมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวดังนั้นภาพลักษณ์จากปัญหาเรื่องของสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
นายอิทธิพล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวนโยบายของผู้บริหารเกี่ยวกับมาตรการจัดเก็บนั้น คงจะจดแบ่งพื้นที่เช่นเดิม คือ ให้ภาคเอกชนจัดเก็บในสัดส่วน 70% ของพื้นที่ ขณะที่เมืองพัทยารับผิดชอบในสัดส่วน 30%
ขณะที่การจัดเก็บนั้นผู้รับสัมปทานรายใหม่จะต้องหาพื้นที่ในการทำจุดพักขยะเพิ่มเติมจากเดิมอีก 1 จุด เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมในจุดพักขยะเก่า รวมทั้งต้องทำการปรับเปลี่ยนสภาพรถเก็บขน และพนักงานให้มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ สิ่งสำคัญคือต้องลดปัญหาของขยะตกค้างและการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพ ที่ต้องสอดคล้องกับปริมาณขยะที่จะเพิ่มขึ้นในอัตรา 340-350 ตันต่อวัน
พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมยังมีการหารือเกี่ยวกับโครงการที่เมืองพัทยา จะร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเกี่ยวกับการจัดทำโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการหารือร่วมกันพร้อมวางกรอบและกำหนดการจัด ทำ MOU ร่วมกันในเร็ววันนี้