นครพนม - ผู้ปกครองนักเรียนชายวัย 13 ร้องผ่านสื่อ หวั่นคดีล่ม หลังเข้าแจ้งความกล่าวหาครูเกย์ใช้เงินล่อบังคับลูกชายอมนกเขา-อัดถั่วดำนานร่วมเดือน หลังขอไปอุปการะส่งเสียเหตุบ้านยากจน
วันที่ 22 สิงหาคม 2552 นายนิกร สุวรรณพงศ์ อายุ 52 ปี พร้อมด้วย นางประคอง สุวรรณพงศ์ อายุ 49 ปี บิดา มารดา และญาติ ของเด็กชายหนุ่ม (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านเชียงยืนวิทยา ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 นครพนม เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว
กรณีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2552 ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ชาญชัย นนท์ชนะ พงส.(สบ 1) สภ.ท่าอุเทน กล่าวหาดำเนินคดีต่อ นายวีระศักดิ์ วงค์ล่าม อายุ 51 ปี ตำแหน่งครู คศ.2 สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านวังโพธิ์ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ทางทวารหนักและล่วงละเมิดทางเพศ โดยต้องการจะดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย แต่เกรงว่าจะมีการวิ่งเต้นปิดคดีจนเรื่องเงียบหายเพราะครอบครัวมีฐานะยากจน จึงขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนให้ผู้มีอำนาจมาดูแล
นางประคอง สุวรรณพงศ์ อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่เด็ก กล่าวว่า ลูกชายรู้จักกับนายวีระศักดิ์ วงค์ล่าม เนื่องจากครูคนดังกล่าวมาซื้อที่ดินไว้ทำสวนปลูกต้นกฤษณาบริเวณด้านหลังโรงเรียนที่ลูกชายเรียนหนังสือ แต่ไม่ได้สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ จนกระทั่งเกิดความสนิทสนมกับครอบครัวหลังจากเคยว่าจ้างไปทำสวน
ก่อนหน้านี้ได้ประมาณ 2 เดือน ครูคนดังกล่าวมาเอ่ยปากขอบุตรชายไปรับอุปการะ และรับปากจะส่งเสียให้เรียนหนังสือเพราะทางบ้านมีฐานะยากจน โดยจะให้ช่วยงานทำสวนด้วย ตนจึงตกลงเพราะเป็นถึงครูบาอาจารย์ ที่สำคัญคิดถึงอนาคตของลูกอยากให้ได้ดี ลำพังตนไม่มีปัญญาส่งเสียให้เรียน แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ลูกชายได้หนีกลับมา และสังเกตเห็นลูกชายซึมเศร้าไม่ยอมพูดจา และเดินขากะเผลกไปโรงเรียน จึงคาดคั้นจนได้ความว่าถูกนายวีระศักดิ์บังคับให้อมอวัยวะเพศ พร้อมข่มขืนทางทวารหนักเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว แต่ไม่กล้าบอกใคร และเกรงจะถูกทำร้าย
นางประคอง สุวรรณพงศ์ กล่าวอีกว่า ภายหลังเกิดเรื่องแล้วได้ติดต่อไปสอบถามนายวีระศักดิ์ วงค์ล่าม แต่ถูกปฏิเสธ จึงปรึกษาญาติตัดสินใจนำลูกชายเข้าแจ้งความ ภายหลังครูคนดังกล่าวได้มาติดต่อขอยอมความ พร้อมเสนอเงินจำนวน 6 หมื่นบาท เพื่อไม่ให้เอาเรื่อง แต่ตนและญาติไม่ยินยอม เพราะไม่ต้องการให้เป็นเยี่ยงอย่าง และไปกระทำกับลูกหลานของผู้ปกครองคนอื่นๆ แต่เกรงว่าเรื่องจะเงียบ และมีการวิ่งเต้นจึงต้องร้องผ่านสื่อ ให้มาตรวจสอบ
ด้าน เด็กชายหนุ่ม (นามสมมติ) เหยื่อกามวิปริตกล่าวว่า รู้จักกับครูคนนี้มาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว หลังจากที่เลิกสอนจะมานอนค้างที่สวนด้านหลังโรงเรียนทุกคืน ตนมีหน้าที่หุงหาอาหารและช่วยปลูกต้นกฤษณาให้ ตกเย็นนายวีระศักดิ์มักชักชวนไปแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน หลังคุ้นเคยกันดีก็จะมากอดหอม ก่อนลวนลามจับอวัยวะเพศโดยเสนอเงิน 200 บาทเป็นค่าขนม
จากนั้นหลอกล่ออมนกเขาของตน และบังคับให้ตนอมอวัยวะเพศให้จนสำเร็จความใคร่หลายครั้ง พร้อมรับปากจะซื้อโทรศัพท์และรถจักรยานยนต์ ต่อมายังบังคับขอร่วมเพศตนทางทวารหนักจนสำเร็จความใคร่ 4-5 ครั้งจนอวัยวะฉีกขาด กระทั่งทนเจ็บทนไม่ไหวจึงตัดสินใจบอกพ่อ แม่ และญาติ เพราะรู้สึกกลัวจะถูกทำอันตรายมากกว่านี้ และหลังเกิดเหตุไม่กล้าไปเรียนหนังสือเพราะอับอายเพื่อน
ส่วน ร.ต.ท.ชาญชัย นนท์ชนะ พงส. (สบ 1) สภ.ท่าอุเทน เจ้าของคดี กล่าวว่า หลังจากพ่อ แม่เด็ก ได้มาแจ้งความ ได้นำตัว ผู้เสียหายส่งตรวจ เพื่อหาร่องรอยการถูกกระทำชำเราที่ ร.พ.นครพนม คาดว่าจะทราบผลภายในวันจันทร์นี้ ซึ่งจะได้ร่วมกับอัยการและนักสังคมสงเคราะห์สอบปากคำเด็กอีกครั้งอย่างละเอียด เพื่อจะได้รวบรวมพยานหลักฐานว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำจริงหรือไม่
เบื้องต้น ทางด้าน นายวีระศักดิ์ วงค์ล่าม ครูผู้ถูกกล่าวหาได้เดินทางมาขอเข้ามอบตัวในช่วงเย็นของวันที่ 21 สิงหาคม 2552 พร้อมให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาล โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไว้ รอการสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะได้ทำการสอบสวนพยาน ผู้พบเห็นเหตุกาณณ์เพิ่มเติม ที่สำคัญจะต้องรอผลตรวจจากแพทย์เป็นสำคัญ ซึ่งยืนยันว่าคดีจะดำเนินด้วยความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อขอสัมภาษณ์นายวีระศักดิ์ ครูผู้ถูกกล่าวหา แต่เจ้าตัวกล่าวยืนยันว่าไม่มีอะไรจะชี้แจง และขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ให้ว่าไปตามกฎหมาย