ผู้ต้องหาข่มขืนสาวราชภัฏย่องมอบตัว ปากแข็งไม่ได้ลงมือ!

ผู้ต้องหาคดีข่มขืนนักศึกษาสาวราชภัฏ ปี 4 เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ รับทราบข้อกล่าวหา ให้การปฏิเสธไม่ได้ข่มขืน แต่รับพาสาวซ้อนท้ายไปห้องพักจริง แค่ปรับความเข้าใจหลังฝ่ายสาวตีตัวออกห่าง ด้าน ตร.ไม่ปักใจเชื่อคำให้การ พบประวัติเสพยา-พยายามฆ่า ติดตัว

จากเหตุการณ์ที่ น.ส.ต่าย (นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เหรียญชัย เหล่าที พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ประเวศ ว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ถูก นายสมภพ หรือ ดำ นิ่มละออ อายุ 21 ปี ทำทีอาสาขี่รถ จยย.ไปส่งเรียนหนังสือ แต่กลับถูกพาไปข่มขืนที่ อาคารซาฟียงอพาร์ทเม้นท์ ห้อง 407 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.แถมยังทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยวด้วย แต่ยังโชคดีที่หลบหนีออกมาได้

วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (28 ก.ค.) เวลา 22.00 น.นายสมภพ หรือ ดำ นิ่มละออ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ซอยอ่อนนุช 66 แยก 1-1 แขวงและเขตประเวศ กทม.เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เหรียญชัย เหล่าที พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อรับทราบข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นที่มิใช่ภรรยา, หน่วงเหนี่ยวกักขัง และทำร้ายร่างกาย หลังจากเจ้าตัวถูก น.ส.ต่าย (นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความ โดยการเดินทางมามอบตัวในครั้งนี้ มีบรรดาญาติและเพื่อนกว่า 10 คน เดินทางมาให้กำลังใจ

การสอบสวน นายสมภพ ยังให้การภาคเสธ โดยอ้างว่า ได้พา น.ส.ต่าย ซ้อนท้าย จยย.ไปที่ห้องพักที่เกิดเหตุจริง แต่ไม่ได้ลงมือข่มขืนหรือกักขังหน่วงเหนี่ยว เนื่องจาก ตนกับ น.ส.ต่าย นั้น คบหากันมาประมาณ 7-8 ปี ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาก่อน โดยพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็รับรู้ แต่ตนนั้นเป็นคนเจ้าชู้ ประกอบกับระยะหลังระแคะระคายมาว่า ฝ่ายหญิงมีใจออกห่าง จึงตัดสินใจไปรับเพื่อสอบถามความจริง โดยไม่ได้ใช้กำลังบังคับทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.ท.เหรียญชัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของ นายสมภพ เนื่องจากภายหลังจากการตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่า เจ้าตัวเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่าย และยังมีคดีค้างในเรื่องพยายามฆ่า ในท้องที่ สน.ประเวศ อย่างไรก็ตาม จะดำเนินคดีเจ้าตัว 3 ข้อหา คือ ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นที่มิใช่ภรรยา หน่วงเหนี่ยวกักขัง และทำร้ายร่างกาย และขณะนี้ได้ควบคุมตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดพระโขนง โดยจะไม่ขอรับตัวกลับมา เนื่องจากการสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีความเห็นสั่งฟ้อง พร้อมทั้งส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจสอบหาร่องรอยการข่มขืนที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว

สำหรับคดีนี้เกิดเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะ น.ส.ต่าย (นามสมมติ) ออกจากบ้านพักมายืนรอรถเมล์ เพื่อเดินทางไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยนั้น ก็มี นายสมภพ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่ป้ายรถประจำทาง แล้วอาสาไปส่งเรียนหนังสือ แต่กลับพาออกนอกเส้นทาง ก่อนพาเข้าซาฟียงอพาร์ทเม้นท์ ห้อง 407 หลังห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ก่อนใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ พร้อมทั้งลงมือทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้เสียหายเอาไว้ ก่อนที่จะมีชาวบ้านเข้ามาช่วยเหลือ

จากนั้นผู้เสียหายได้นำเรื่องปรึกษาครอบครัว แล้วจึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ผู้เสียหาย ยังเคยแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายกับนายสมภพ มาแล้ว ในท้องที่ สน.พระโขนง