xs
xsm
sm
md
lg

รวบเดนคุกเลวสุดขั้ว 3 เดือนลวง 4 สาวขืนใจคารางรถไฟ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

รวบสวะสังคมเดนคุก แกล้งทำเป็นตีสนิทลวงเหยื่อสาวที่เดินทางเข้ามา กทม. เลือกที่หน้าตาดีและมาจากอีสาน อ้างจะพาไปขึ้นรถตู้ อาศัยจังหวะเหยื่อเผลอหยิบกระเป๋าให้เหยื่อเดินตามมาที่เปลี่ยว ก่อนลงมือข่มขืนชิงทรัพย์คารางรถไฟ เผยในรอบ 3 เดือนก่อเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง พบประวัติเลวสุดขั้วทั้งอนาจารเด็ก-ซ่องโจร -ข่มขืน

วันนี้ (2 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ (บก.รฟ.) พล.ต.ต.สุรพงศ์ ศิริภักดี ผบก.รฟ. พ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รอง ผบก.รฟ.และ พ.ต.ท.สัณฐาน วิเศษสมิต รอง ผกก.1 บก.รฟ. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายสหัส หรือ “ดำ” มุ่งชมกลาง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 8 ต.โสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1894/2552 และ หมายจับศาลอาญา ที่ 1895/2552 ลงวันที่ 29 มิ.ย.52 ในข้อหาข่มขืน และพยายามข่มขืนผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และชิงทรัพย์, พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง, ข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยอมหรือไม่ก็ตาม โดยจับกุมได้พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง กระเป๋าเงิน 1 ใบ และกระเป๋าสะพายอีก 4 ใบ โดยจับกุมตัวได้ที่ป้ายรถประจำทางหน้าขนส่งหมอชิตใหม่ ถนนกำแพงเพชร แขวงและเขตบางซื่อ

พล.ต.ต.สุรพงศ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย.จนถึง มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวหน้าตาดี อายุระหว่าง 14-28 ปี จำนวน 4 ราย ซึ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัดได้เข้ามาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟว่าถูกคนร้ายชายอายุประมาณ 40 ปี หัวเกรียน ผิวดำ รูปร่างสันทัด พูดสำเนียงอีสาน ทำทีเข้ามาตีสนิท ก่อนใช้อุบายล่อลวงจากบริเวณหน้าร้าน 7-11 บริเวณจุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร ภายในขนส่งหมอชิต ว่าจะพาไปต่อรถเดินทางไปหาญาติในเขตพื้นที่ กทม. แต่คนร้ายกลับพาเดินเข้าไปในโรงสับเปลี่ยนหัวรถจักรบางซื่อ ซึ่งเป็นที่เปลี่ยวอยู่ห่างออกไปประมาณ 2-3 กิโลเมตรแล้วลงมือข่มขืนโดยก่อนจะชิงทรัพย์ทั้งโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงินของเหยื่อหลบหนีไปด้วย

พล.ต.ต.สุรพงศ์ กล่าวต่อว่า หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.รฟ. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า พฤติกรรมของคนร้ายรายนี้มีส่วนคล้ายคลึงกับนายสหัส ผู้ต้องหาที่เคยถูกจับกุมมาก่อนในข้อหาข่มขืนเหยื่อชิงทรัพย์ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2540 และเมื่อนำภาพถ่ายของนายสหัส ให้เหยื่อทั้ง 4 รายดู ต่างก็ยืนยันว่าเป็นคนคนเดียวกับที่ลงมือข่มขืน พนักงานสอบสวนจึงรีบรวบรวมพยานหลักฐานกขออนุมัติศาลออกหมายจับทันที จากนั้นก็นำกำลังไปดักซุ่มบริเวณป้ายรถประจำทางหน้าขนส่งหมอชิตใหม่ ถนนกำแพงเพชร แขวงและเขตบางซื่อ จนพบนายสหัส เดินผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไปสอบปากคำ สน.นพวงศ์

จากการสอบสวน นายสหัสให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ พ.ศ.2540 เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันจนถูกตำรวจรถไฟจับ ศาลตัดสินจำคุก 16 ปี แต่ลดโทษเหลือเพียง 8 ปี พอออกจากคุกมา ตนยึดอาชีพเก็บขยะในขนส่งหมอชิตไปขาย และล้วงกระเป๋า ชิงทรัพย์ผู้โดยสารที่มาบริการในขนส่งหมอชิตบ้างเป็นครั้งคราว

“ส่วนเรื่องหลอกผู้หญิงไปข่มขืนและชิงทรัพย์นั้น ผมจะเลือกเหยื่อสาวชาวอีสานที่เพิ่งเดินทางเข้ามา กทม. จากนั้นเข้าไปพูดคุยตีสนิทให้ตายใจว่าเป็นคนอีสานเหมือนกัน แล้วก็จะอาสาพาเดินไปส่งขึ้นรถตู้แถวบางซื่อเพื่อไปหาญาติ ก่อนจะอาศัยช่วงที่เหยื่อเผลอกระชากกระเป๋ามาไว้กับตัว แล้วให้เหยื่อเดินตาม เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะพาเดินไปตามทางรถไฟแล้วหาจุดเปลี่ยว จากนั้นก็ชกเข้าที่ท้อง ลงมือข่มขืน และชิงทรัพย์ก่อนวิ่งหลบหนี” นายสหัส กล่าว

นายสหัสให้การต่อว่า เมื่อได้ทรัพย์สินทั้งหมดแล้วตนก็จะนำไปขายแบ่งให้นายโอ๋ เพื่อนสนิทซึ่งเคยถูกจำคุกข้อหาเดียวกันและออกจากคุกมาพร้อมกัน พอใช้เงินที่ได้มาจากเหยื่อมาหมดแล้ว ตนกับนายโอ๋ก็จะสลับผลัดเวียนกันไปหาเหยื่อในขนส่งหมอชิตมาลงมือก่อเหตุในลักษณะเดียวกันที่รางรถไฟสายบางซื่อ

นายสหัสยอมรับด้วยว่า ในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุล่อลวงหญิงสาวไปเพื่อชิงทรัพย์จำนวน 4 ราย แต่ข่มขืนสำเร็จเพียง 3 รายเท่านั้น คือ รายแรกเมื่อกลางดึก วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ลวงเหยื่อชื่อ น.ส.กิ๊ก (นามสมมติ) อายุ 28 ปี จากบริเวณสถานีขนส่งหมอชิตไปข่มขืน และชิงทรัพย์บริเวณรางรถไฟในโรงสับเปลี่ยนหัวรถจักรบางซื่อ รายที่ 2 ช่วงกลางดึกของวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ลวงเหยื่อชื่อ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี จากในขนส่งหมอชิตไปข่มขืนและชิงทรัพย์บริเวณป่าละเมาะใกล้โรงรถจักรบางซื่อ

ส่วนรายที่ 3 เมื่อกลางดึกของวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ลวงเหยื่อชื่อ ด.ญ.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี จากขนส่งหมอชิตไปข่มขืนและชิงทรัพย์ที่บริเวณรางรถไฟในโรงสับเปลี่ยนหัวรถจักรบางซื่อเช่นกัน ส่วนรายสุดท้ายช่วงกลางดึกวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็ลวงเหยื่อชื่อ น.ส.ดา (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ชาวลาว จากในขนส่งหมอชิตเช่นเดิมไปข่มขืนและชิงทรัพย์บริเวณหัวรถจักรย่านบางซื่อ แต่เหยื่อไหวตัวทันส่งเสียงร้องให้คนช่วยเหลือตนจึงข่มขืนไม่สำเร็จ ได้แต่ชิงทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าเงินของเหยื่อก่อนหลบหนีเท่านั้น

ต่อมา พล.ต.ต.สุรพงศ์ ศิริภักดี ผบก.รฟ. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้คุมตัว นายสหัส ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยเริ่มตั้วแต่ด้านหน้าร้าน 7-11 บริเวณจุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร ภายในขนส่งหมอชิตซึ่งเป็นจุดล่อลวงเหยื่อ จุดที่ 2 บริเวณรางรถไฟในโรงสับเปลี่ยนหัวรถจักรบางซื่อ ซึ่งเป็นจุดที่ใช้ข่มขืน น.ส.ก้อย และ น.ส.ดา จุดที่ 3 บริเวณท้ายตู้โบกี้รถไฟเก่าซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่สอง ประมาณ 50 เมตร เป็นจุดที่ข่มขืน น.ส.กิ๊ก ส่วนจุดสุดท้ายอยู่ในป่ากล้วยข้างทางรถไฟสะพานดำ ใกล้ชุมชนข้าวสาร ถนนกำแพงเพชร เป็นจุดที่ลวง น.ส.บี มาข่มขืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังคุมตัวนายสหัสไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ในบริเวณนี้ได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าวพยายามเข้าทำร้ายนายสหัสด้วยความโกรธแค้น แต่โชคดีที่ตำรวจเข้าห้ามเอาไว้ได้เสียก่อน อย่างไรก็ตาม มีชาวบ้านให้ข้อมูลว่าเคยเห็นหญิงสาวมานั่งร้องไห้ที่ริมทางรถไฟสะพานดำช่วงกลางดึกหลายคน เมื่อเข้าไปสอบถามก็ได้ความว่า ถูกล่อลวงมาข่มขืนและชิงทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่านอกจากนายสหัส และนายโอ๋ คนร้ายที่กำลังหลบหนีจะร่วมกันก่อเหตุแล้วน่าจะมีคนร้ายรายอื่นๆ แฝงตัวเข้าไปใช้สถานที่ดังกล่าวก่อเหตุกันอีกจำนวนมากซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีกันต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับจากการตรวจสอบประวัติของนายสหัสนั้น พบว่าเจ้าตัวเคยถูกจับข้อหากระทำอนาจารเด็กผู้หญิงที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อปี พ.ศ.2531 หลังจากนั้น พ.ศ.2534 ก็เดินทางจากบ้านเกิดที่ จ.ชัยภูมิ เข้ามาหางานทำใน กทม. ต่อมาปี พ.ศ.2537 ก็ถูกจับข้อหาซ่องโจรที่ จ.สุพรรณบุรี และ พ.ศ.2540 ก็ถูกจับคดีข่มขืนชิงทรัพย์เหยื่อบนทางรถไฟสายบางซื่อ ติดคุกอยู่นาน 8 ปีก็ออกมาก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีก โดยเหยื่อสาวที่ถูกนายสหัสข่มขืนนั้นมีเพียง 1 คน คือ น.ส.กิ๊ก ที่สามารถขอร้องให้นายสหัสสวมถุงยางก่อนลงมือข่มขืนได้เท่านั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายสหัส มุ่งชมกลาง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
จุดที่ลงมือข่มขืนเหยื่อ
ภาพเมื่อครั้งที่ถูกจับข้อหาข่มขืนเหยื่อในปี 2540 จนติดคุก 8 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น