เชียงราย - ท่าอากาศยานเชียงรายหวั่นหวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ลาม ลงทุนแจกน้ำยาฆ่าเชื้อชุมชนรอบสนามบิน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าวันนี้ (20 ส.ค.) ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานเชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย นายยุทธนา จิตรอบอารีย์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยาน (ทอท.) เชียงราย ได้จัดให้มีกิจกรรมการมีส่วนร่วมในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขึ้น โดยมีการเชิญผู้นำชุมชนที่อยู่โดยรอบท่าอากาศยานจำนวน 13 หมู่บ้าน และ 2 ศูนย์เด็กเล็กเข้าร่วม
โดยมีการชี้แจงถึงความจำเป็นในการร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ดังกล่าว รวมทั้งเชิญให้พยาบาลวิชาชีพจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เข้าให้ความรู้กับผู้นำชุมชน การแจ้งถึงสถานการณ์และการใช้อุปกรณ์ป้องกันโรคอย่างถูกต้อง เช่น หน้ากากอนามัย ซึ่งต้องหันทางด้านสีเขียวออกเพื่อป้องกันเชื้อโรค แต่หากเป็นกรณีผู้ที่ป่วยแล้วให้หันด้านสีเขียวเข้าเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เจลล้างมือ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ ทอท.เชียงราย ได้มอบน้ำยาฆ่าเชื้อ ซึ่งปกติใช้ในกิจการของสนามบินเชียงรายอยู่แล้ว ให้กับชุมชนทุกแห่งที่อยู่โดยรอบสนามบินดังกล่าวโดยแจกให้หมู่บ้านละ 4 แกลลอน ส่วนศูนย์เด็กเล็กทั้ง 2 แห่งได้แห่งละ 2 แกลลอน เพื่อให้นำไปฉีดพ่นเพื่อฆ่าเชื้อในชุมชนและสถานที่ของตัวเอง
น้ำยาฆ่าเชื้อดังกล่าวทาง ทอท.เชียงราย แจ้งว่า เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อชนิดเข้มข้นต้องนำไปผสมกับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 แกลลอนต่อน้ำสะอาด 64 ลิตร สามารถนำไปฉีดพ่นในอากาศเพื่อฆ่าเชื้อและทำให้ปลอดเชื้ออยู่ได้นานถึง 7 ชั่วโมง แต่หากเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงก็จะอยู่ได้ประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถนำไปเช็ดถูได้ทั่วไปโดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ-สัตว์เลี้ยง และในปัจจุบันทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้รับรองให้น้ำยาชนิดนี้นำไปใช้ตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศด้วย
นายยุทธนากล่าวว่า ทอท.เชียงราย มีความมุ่งหวังที่จะสร้างความสัมพันธ์และมีความร่วมมือในกิจกรรมต่างๆ กับชุมชนหมู่บ้านที่อยู่โดยรอบสนามบิน เพราะถือว่าเราอยู่ในชุมชนเดียวกัน ดังนั้นเมื่อสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งมีเชื้อเอช 1 เอ็น 1 ยังคงระบาดอยู่ทั่วไป
ขณะที่ภายในสนามบินเองก็มีผู้โดยสารที่หมุนเวียนไปใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น นอกจากสนามบินจะมีการป้องกันด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อดังกล่าวเองแล้ว จึงดำเนินกิจกรรมเชิงลุกด้วยการให้บริการกับชุมชนที่อยู่โดยรอบสนามบินเพื่อให้ช่วยกันป้องกันโรคดังกล่าว รวมทั้งในอนาคตก็จะมีกิจกรรมอื่นๆ เพื่อร่วมมือกันต่อไป