เจ้าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกันทำความสะอาดพื้นที่ต่าง ๆ ภายในรัฐสภา ในมหกรรมทำความสะอาดรับมือหวัด 2009 เพื่อให้บรรดา ส.ว. ส.ส. เจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่จะมาติดต่อราชการ ได้มีความมั่นใจว่ารัฐสภาเป็นจุดปลอดเชื้อโรค
วันนี้ (31 ก.ค.) นายพิทูรย์ พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ส.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นวันเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยจะมี ส.ส. ส.ว. เจ้าหน้าที่ และประชาชน มาติดต่อราชการจำนวนมาก ทางรัฐสภาจึงร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัด “มหกรรมทำความสะอาด รับมือหวัด 2009” โดยจะเป็นการระดมทำความสะอาดในทุกจุดภายในรัฐสภา ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลรักษาความสะอาด รวมถึงเป็นอีกหนึ่งในมาตรการที่จะป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ด้วย และสำหรับโครงการนี้จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ ส.ว. ส.ส. เจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่จะมาติดต่อราชการ ได้มีความมั่นใจว่ารัฐสภาเป็นจุดปลอดเชื้อโรค
นายพิฑูรย์กล่าวด้วยว่า ทางรัฐสภามุ่งมันที่จะทำให้รัฐสภา เป็นสถานที่ราชการต้นแบบที่มีมาตรฐาน 5 ประการสำคัญคือ การให้ความรู้เพื่อร่วมมือป้องกันไข้หวัด การทำความสะอาด รณรงค์เรื่องการล้างมือและสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อไอและจาม การสร้างสุขอนามัยในการรับประทานอาหาร หยุดอยู่กับบ้านเมื่อเป็นไข้ สามารถลาพักได้
ด้าน นพ.กำจร ตติยกวี หนึ่งในคณะอนุกรรมการสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 สสส. ที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น ระบุว่า 7 แหล่งสำคัญที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อ คือ ลูกบิดประตูและมือจับ โทรศัพท์ แป้นคอมพิวเตอร์ ราวบันได โต๊ะ ปุ่มกดลิฟต์ และห้องน้ำ จึงต้องทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง คือ อายุน้อยกว่า 2 ปี หรือมากกว่า 65 ปี และควรพบแพทย์ทันที เมื่อมีอาการไข้สูง ร่วมกับไอและจาม
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่าทาง สสส. ได้ตรวจการทำความสะอาดของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่าง ๆ ของอาคารรัฐสภา เช่นห้องน้ำ ห้องประชุม ห้องทำงานของสื่อมวลชน อีกทั้งยังได้มีการมอบแอลกอฮอล์ เพื่อใช้สำหรับทำความสะอาด เจลล้างมือ และหน้ากากอนามัย เพื่อให้ทางรัฐสภานำไปใช้อีกด้วย
วันนี้ (31 ก.ค.) นายพิทูรย์ พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ส.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นวันเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยจะมี ส.ส. ส.ว. เจ้าหน้าที่ และประชาชน มาติดต่อราชการจำนวนมาก ทางรัฐสภาจึงร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัด “มหกรรมทำความสะอาด รับมือหวัด 2009” โดยจะเป็นการระดมทำความสะอาดในทุกจุดภายในรัฐสภา ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลรักษาความสะอาด รวมถึงเป็นอีกหนึ่งในมาตรการที่จะป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ด้วย และสำหรับโครงการนี้จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ ส.ว. ส.ส. เจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่จะมาติดต่อราชการ ได้มีความมั่นใจว่ารัฐสภาเป็นจุดปลอดเชื้อโรค
นายพิฑูรย์กล่าวด้วยว่า ทางรัฐสภามุ่งมันที่จะทำให้รัฐสภา เป็นสถานที่ราชการต้นแบบที่มีมาตรฐาน 5 ประการสำคัญคือ การให้ความรู้เพื่อร่วมมือป้องกันไข้หวัด การทำความสะอาด รณรงค์เรื่องการล้างมือและสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อไอและจาม การสร้างสุขอนามัยในการรับประทานอาหาร หยุดอยู่กับบ้านเมื่อเป็นไข้ สามารถลาพักได้
ด้าน นพ.กำจร ตติยกวี หนึ่งในคณะอนุกรรมการสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 สสส. ที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น ระบุว่า 7 แหล่งสำคัญที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อ คือ ลูกบิดประตูและมือจับ โทรศัพท์ แป้นคอมพิวเตอร์ ราวบันได โต๊ะ ปุ่มกดลิฟต์ และห้องน้ำ จึงต้องทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง คือ อายุน้อยกว่า 2 ปี หรือมากกว่า 65 ปี และควรพบแพทย์ทันที เมื่อมีอาการไข้สูง ร่วมกับไอและจาม
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่าทาง สสส. ได้ตรวจการทำความสะอาดของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่าง ๆ ของอาคารรัฐสภา เช่นห้องน้ำ ห้องประชุม ห้องทำงานของสื่อมวลชน อีกทั้งยังได้มีการมอบแอลกอฮอล์ เพื่อใช้สำหรับทำความสะอาด เจลล้างมือ และหน้ากากอนามัย เพื่อให้ทางรัฐสภานำไปใช้อีกด้วย