ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – กระทรวงพาณิชย์จับมือห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่รับซื้อลำไยสดไทยส่งออกจำหน่ายในประเทศจีน 200 ตัน กระจายผ่านเครือข่าย 40 สาขาในเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง เริ่มทยอยส่งปลายเดือน ส.ค.นี้ ขณะที่พาณิชย์เผย 6 เดือนแรกไทยส่งออกลำไยสดไปต่างประเทศแล้วรวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
วันที่ 18 ส.ค.52 ที่ศูนย์กระจายสินค้าเกษตรภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับห้างเทสโก้ โลตัส แถลงข่าว“เทสโก้ โลตัส ส่งลำไยไทยไปจีน” ตามความร่วมมือที่ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่แห่งนี้จะทำการรับซื้อลำไยสดแล้วนำส่งออกไปจำหน่ายในประเทศจีน กระจายผ่านสาขาของห้างที่มีอยู่ในประเทศจีน
ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ในปี 2552 นี้ เทสโก้ โลตัส มีแผนเพิ่มการรับซื้อลำไยสดจากปีก่อนที่มีปริมาณ 500 ตัน เป็น 1,200 ตัน และยังมีแผนที่จะรับซื้อเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ต้องการช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมุ่งเน้นให้กลุ่มเกษตรกรเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง
สำหรับการส่งออกลำไยไปจำหน่ายในประเทศจีนนั้น ที่ผ่านมาเทสโก้ โลตัส ได้มีการประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีการส่งออกลำไยสดไทยไปต่างประเทศแล้วกว่า 1,000 ตัน และจะมีการส่งออกไปยังจีนเพิ่มขึ้นอีก 200 ตัน มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท โดยจะมีการทยอยส่งออกไปตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.52 นี้ จนครบจำนวน รวมมูลค่าลำไยที่ส่งออกไปทั้งหมดกว่า 50 ล้านบาท
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เทสโก้ โลตัส กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้ผลักดันส่งออกผลไม้ไทยไปจำหน่ายโดยใช้ช่องทางของเครือข่ายที่มีอยู่ในต่างประเทศมาตลอด รวมทั้งการส่งออกไปจำหน่ายในประเทศจีนที่เป็นตลาดใหญ่ มีกำลังบริโภคสูงและคุ้นเคยกับสินค้าเกษตรไทยเป็นอย่างดี อีกทั้งมีระยะทางค่อนข้างใกล้สะดวกต่อการขนส่งสินค้า โดยปัจจุบันมีเครือข่ายของเทสโก้ โลตัส อยู่ 40 สาขา ในเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง ของจีน หากลำไย และสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่ส่งออกไปจำหน่ายได้ผลตอบรับดีก็พร้อมจะเพิ่มปริมาณรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรแน่นอน
ด้านนายวัยรักษ์ วลัยรัตน์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์การส่งออกลำไยในฤดูการผลิต 2552 ว่า ข้อมูลจากกรมศุลกากรระบุว่าตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.52-3ส.ค.52 มีการส่งออกลำไยสดจำนวน 56,799 ตัน ลำไยแช่แข็ง 53 ตัน ลำไยอบแห้ง 78,974 ตัน และลำไยกระป๋อง 13,731 ตัน ขณะที่ปริมาณการส่งออกลำไยสดตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.52-30 มิ.ย.52 มีทั้งสิ้น 63,948 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,033.14 ล้านบาท โดยประเทศคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ จีน ฮ่องกง และอินโดนีเซีย