xs
xsm
sm
md
lg

บุกร้อง “ผบช.ภ.3-ผู้ว่าฯโคราช” - สุดพิลึก! ถูกโจ๋ยิงดับ แต่ “คนแก่ 61 ปี” โร่มอบตัว/คดีไม่คืบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ่อ-ญาติพี่น้องและชาวบ้าน อ.จักราชโคราช กว่า 200 คน บุกร้องผบช. 3- ผู้ว่าฯโคราช ขอความเป็นธรรม  ลูกชายถูกโจ๋ต่างถิ่นยิงดับ เพื่อนสาหัส 2 สุดพิลึกคนแก่ 61 ปีโร่เข้ามอบตัว คดีไม่คืบ วันนี้ ( 17 ส.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - พ่อพร้อมญาติและชาวบ้าน อ.จักราช โคราช กว่า 200 คน บุกร้อง ผบช.3 - ผู้ว่าฯโคราช ขอความเป็นธรรม หลังวัยรุ่นต่างถิ่นซิ่ง จยย.ยกพวกก่อเหตุทะเลาะวิวาทยิงลูกชายเสียชีวิต เพื่อนสาหัสอีก 2 แต่สุดพิลึก คนแก่วัย 61 ปี โร่เข้ามอบตัวอ้างเป็นผู้ก่อเหตุ หวั่นเป็น “มวยล้มต้มคนดู” เผย คดีไม่คืบหน้าผู้ร่วมก่อเหตุเป็นโขยง แต่ ตร.กลับจับคนร้ายได้รายเดียว คือ คนแก่ที่มอบตัว เชื่อแค่ “แพะ” ไม่ใช่ตัวจริง เผยผู้อยู่ในเหตุการณ์จำหน้ามือยิงได้ชัด ประวัติโชกโชน พ่อแม่รวย แฉถูกข่มขู่มีนักการเมืองหนุนหลัง

วันนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา ชาวบ้านสายธาร ต.คลองเมือง อ.จักรราช จ.นครราชสีมา จำนวนกว่า 200 คน นำโดย นายบุญทัน พลานชัย อดีตกำนัน ต.คลองเมือง และ นายทองสุข ฝากไธสง ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม กับ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.จักราช กรณี นายปราโมทย์ ฝากไธสง อายุ 17 ปี บุตรชาย ของ นายทองสุข ถูกยิงเสียชีวิต และเพื่อนได้บาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา

นายทองสุข ฝากไธสง อายุ 51 ปี บิดาของ นายปราโมทย์ ผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 10 ต.คลองเมือง อ.จักราช จ.นคราชสีมา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มวัยรุ่นจากหมู่บ้านหนองปืด ต.หนองขาม อ.จักรราช ได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามายั่วยุ ก่อกวนที่บริเวณหน้าบ้านตนหลายรอบ กระทั่งประมาณ 17.59 น.ลูกชายพร้อมเพื่อนจึงขับรถยนต์ตามไปดู เมื่อถึงป่าละเมาะริมถนนสายบ้านหนองนกคุ้ม-โนนไม้แดง กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ขว้างระเบิดปิงปองและยิงปืนใส่ กระสุนถูกบริเวณแขนและหน้าอกด้านขวาลูกชายตน คือ นายปราโมทย์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และเพื่อนอีก 2 คน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส คือ นายทองปาน ฮาดเศษ อายุ 21 ปี และ นายคมสันต์ สีคำเม อายุ 21 ปี จนถึงขณะนี้ทั้ง 2 คน ยังไม่สามารถให้การกับตำรวจได้

จากนั้นหลังเกิดเหตุ 3 วัน นายสมาน แสนคำคง อายุ 61 ปี อยู่บ้านหนองปืด ม.8 ต.หนองขาม อ.จักรราช ได้เดินทางเข้ามอบตัวเพื่อขอต่อสู้คดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จักราช และต่อมาได้รับการประกันตัว จนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้าอะไรเพิ่มเติม

วันนี้ตนพร้อมญาติพี่น้องผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน และชาวบ้านจึงเดินทางมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม เนื่องจากการดำเนินคดีดังกล่าวมีข้อสงสัยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพยานแวดล้อมต่างเห็นว่ามีผู้กระทำผิดมากกว่า 1 คน เพราะวันเกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ขับซ้อนท้ายมาจำนวน 4 คัน ซึ่งล้วนเป็นวัยรุ่นทั้งนั้น แต่ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.จักราช กลับดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพียงคนเดียวซึ่งได้เข้ามามอบตัวเองและเป็นผู้สูงอายุ

โดยอ้างว่าเป็นผู้ลงมือยิงผู้ตายเอง ซึ่งขัดแย้งกับพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ อย่างสิ้นเชิง ทำให้พวกเราพ่อแม่ญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นกังวล และเชื่อว่า นายสมานน่าจะเป็นแพะมากกว่า ประกอบกับอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุก็ไม่ได้นำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด อีกทั้งมีข่าวลือสะพัดว่าผู้ที่เข้ามอบตัวอาจเป็นบิดาของผู้ก่อเหตุตัวจริง ขณะที่เมื่อถามถึงอาวุธของกลางกับพนักงานสอบสวนกลับอ้างว่า “เรื่องนี้เกิดขึ้นอยู่ในป่าจะให้ตำรวจรู้ได้อย่างไรว่า เขามีอาวุธปืนหรือไม่อย่างไร” ทั้งที่ข้อเท็จของการเสียชีวิตของนายปราโมทย์ ลูกชายตนคือ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่อาวุธอื่น

“เท่าที่สอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างสามารถจำหน้ามือปืนที่ลงมือยิงได้เป็นอย่างดี เนื่องจากคนที่ก่อเหตุยิงนั้นอยู่หมู่บ้านใกล้เคียงกัน และไม่ใช่คนแก่แน่นอน อีกทั้งทราบมาว่าคนลงมือยิงยังเป็นนักเลงหัวไม้ประจำหมู่บ้านเคยมีประวัติติดคุกมาแล้ว และพ่อแม่มีฐานะดี” นายทองสุข กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์ข่มขู่ตนผ่านมาทางญาติพี่น้องตนว่าให้เลิกยุ่งเกี่ยวติดตามคดีนี้เสีย พร้อมบอกว่าเขามีเงินมากพอที่จะวิ่งเต้นล้มคดีทั้งหมดได้ และมีนักการเมืองท้องถิ่นให้การหนุนหลังอีกด้วย

ต่อมา พ.ต.อ.อาจินต์ จารุวร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นตัวแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ลงมารับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากชาวบ้าน และรับปากที่จะดำเนินการตามข้อเรียกร้องโดยไม่มีการละเว้นและจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

จากนั้น กลุ่มชาวบ้านได้เดินทางไปที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กับ นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้ช่วยเหลือดูแลให้ความได้รับความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว ซึ่ง นายประหยัด เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นตัวแทนมารับหนังสือและรับปากที่จะดูแลให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหาย จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้สลายการชุมนุมไปด้วยความสงบเรียบร้อย







กำลังโหลดความคิดเห็น