ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจภาค 2 แถลงข่าวตำรวจระยองจับยกแก๊งขบวนการโจรกรรมเงินจากตู้เอทีเอ็มจากธนาคารกรุงศรีฯ 48 ตู้ คาดเงินสูญหายนับ 100 ล้านบาทโดยทำมานานกว่า 2 ปีแล้ว ขณะนี้ยังหลบหนีอีก 1 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจวอนรีบเข้ามอบตัว
วันนี้ (17 ส.ค.52) ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 จังหวัดชลบุรี พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และ พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี, พล.ต.ต.พงศ์กานต์ ปัญจพรรค์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวสดิ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งโจรกรรมเงินจากตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาในพื้นที่จังหวัดระยอง รวมทั้งสิ้น 48 ตู้ โดยในเบื้องต้นตรวจสอบเงินสูญหายไปประมาณ 23 ล้านบาท โดยสามารถยึดกลับคืนได้เพียง 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดว่าจะมีเงินสูญหายไปไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากมีการกระทำมาแล้วเป็นเวลานานกว่า 2 ปี
สาเหตุที่จับกุมในครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ, สภ.บ้านฉาง และ สภ.มาบตาพุด ได้รับแจ้งคนร้ายโจรกรรมทรัพย์สินภายในตู้เอทีเอ็ม 4 ตู้ เจ้าหน้าที่จึงออกสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายจนสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการนี้จำนวนหลายราย จึงติดตามจนสามารถจับกุมได้ 11 คน
ประกอบด้วย 1.นายจรัญ บุญเทาว์ ,2.นายพนมกร เกตุหอม ,3.นายอรัญ มูลเชื้อ ,4.นายกิตติธัช หนองแคน ,5.นายสุรศักดิ์ เดชสงค์ 6.นายอารีย์ ส่องสี 7.นายสันติ เกิดมงคล 8.นายวัลลภ ธรรมชาติ 9.นายอภิชาติ มะโน 10.นายวิลาเชน เสมอใจ และ 11.นายเพ็ชรรัตน์ เพ็ชรวงษ์
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ต้องหายังหลบหนีอยู่อีก 1 คน คือ นายณรงค์ โทมี อายุ 36 ปี เป็นคนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นคนริเริ่มคิดในการทำเรื่องนี้ขึ้นมา และก็หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว และปล่อยให้ผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดดำเนินการต่อ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขอให้รีบเข้ามอบตัวโดยด่วน
ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากแก๊งค์โจรกรรมทั้ง 12 คนทำงานบริษัทบริ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่รับผิดชอบจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในการนำเงินเติมตามตู้เอทีเอ็มในจังหวัดระยอง ซึ่งเมื่อตู้เอทีเอ็มจุดไหนใกล้หมด บริษัทนี้ก็จะให้แก๊งค์นี้ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบนำเงินไปเติม แต่ไม่ได้นำเงินไปเติมตามจำนวนดังกล่าว โดยได้ทำการยักยอกเงินไว้ และเมื่อเงินชุดใหม่มาก็จะนำไปบรรจุทดแทน แต่ก็ไม่เต็มเช่นเดิม เพื่อเป็นการอำพรางตู้เอทีเอ็มที่พร่องหายไป
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อไปว่า โดยแก๊งดังกล่าวกระทำเช่นนี้มานาน 2 หรือ 3 ปีแล้ว แต่เรื่องมาแดงเมื่อพนักงานทั้งหมดทราบว่าบริษัทบริงด์ จำกัด จะหมดสัญญาว่าจ้างในวันที่ 19 ส.ค.52 นี้ จึงเป็นเหตุให้มีการกระทำผิดดังกล่าวขึ้น
