ระยอง-ตำรวจแยกสอบเครียด 4 พนักงานขนเงิน ต้องสงสัยโจรกรรมเงิน 15 ล้านบาท จากตู้เอทีเอ็ม ธ.กรุงศรีอยุธยา ซัดทอดรุ่นพี่ที่หลบหนียักยอกเงินมานานแล้ว เบื้องต้นพบเงินของกลาง 1.2 ล้านบาท
ค่ำวานนี้(16 ส.ค.) พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบก.ภ.จ.ระยอง พ.ต.อ.อิทธิเดช เจริญสหายานนท์ รอง ผบก.ภ.จ.ระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจาก สภ.เพ สภ.มาบตาพุด และ สภ.บ้านฉาง นำตัวพนักงานขนเงิน บริษัท BRINGS THAILAND จำกัด ผู้ต้องสงสัยรวม 4 คน นายกิตติทัศน์ หนองแคน อายุ 28 ปี นายพนมกร เกตุหอม อายุ 27 ปี นายสุรศักดิ์ เดชสงฆ์ อายุ 27 ปี และนายจรัญ บุญเทา แยกห้องสอบเดี่ยว ที่ สภ.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง ผู้ต้องสงสัยร่วมกันโจรกรรมเงินจากตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 4 ตู้ ประมาณ 15 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายกิตติทัศน์ ไปค้นบ้านพัก ที่ ต.ทับมา อ.เมืองระยอง พบเงินที่โจรกรรมมาซุกซ่อนไว้เป็นจำนวนเงิน 1,200,000 บาท(นายพนมกร ให้การว่านายกิตติทัศน์ นำเงิน 1,200,000 บาทไปเก็บไว้คนเดียว )
นายพนมกร ให้การรับสารภาพว่าเมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา นายกิตติทัศน์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เป็นคนขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ มิตซูบิชิ กาแลนท์ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 ฐ – 5301 กรุงเทพฯ กระจกหน้ารถติดตราสมาคมนักข่าวระยอง (เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน)ร่วมกับพวกทั้ง 4 คน ไปไขเอาเงินตู้เอทีเอ็ม สาขากะเฉด ต.เพ อ.เมืองระยอง จำนวน 2 ตู้ หลังจากนำกล่องพลาสติคบรรจุเงินล้าน ไปเผาทำลายบริเวณเขายายดา ต.ตะพง หลังจากนั้นได้ไปไขเงินตู้เอทีเอ็ม ฝั่งตรงข้ามบริษัทไทยพลาสติคและเคมีภัณฑ์ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และขับตระเวนต่อไปไขเอาเงินตู้เอทีเอ็ม สาขาบ้านฉาง
นายพนมกร ให้การรับว่าเงินที่ไขมาจากตู้เอทีเอ็มทั้งหมด 4 ตู้ นำเงินไปใส่ตู้เอทีเอ็มที่ขาดจำนวนรวมทั้งหมดกว่า 10 ตู้ ประมาณ 15 ล้านบาท และมีเงินเหลือในตู้เอทีเอ็มสาขาบ้านฉางจำนวน 1,200,000 บาท นายกิตติทัศน์ ได้นำเงินไปเก็บที่บ้านคนเดียว และให้การซัดทอดนายณรงค์ โทมี ว่าก่อนหน้านี้ นายณรงค์ พนักงานขนเงินบริษัท BRINGS THAILAND จำกัด บริษัทเดียวกัน ได้นำเงินจากตู้เอทีเอ็มกว่า 10 ตู้ ตู้ละ หลายแสนบาท รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท ทราบว่านายณรงค์ เป็นนักเล่นม้า และเล่นพนันฟุตบอล คู่ละหลายหมื่นบาท นายณรงค์ เคยให้เงินตนและเพื่อนคนละประมาณ 500,000 บาท ตนและเพื่อนทั้ง 4 คน ได้นำเงินไปคืนนายณรงค์ทุกคน ต่อมาก็พยายามช่วยเหลือนายณรงค์ โดยการนำเงินตู้เอทีเอ็ม ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 40 ตู้ ขนย้ายเงินไปใส่ตู้เอทีเอ็มที่ขาด ให้ครบจำนวน พวกตนไม่เคยยักยอกเงินดังกล่าวมาใช้ส่วนตัวเลย
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน ที่ให้การซัดทอดนายณรงค์ โทมี ผู้ต้องสงสัยที่หลบหนี แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบจากพี่สาวนายณรงค์ ที่ จ.สระบุรี ให้การซัดทอดกล่าวหาพนักงานขนเงินทุกคนโจรกรรมเงินตู้เอทีเอ็มทุกคน น้องชายเล่าให้ฟังว่า ถ้าไม่ร่วมมือด้วยก็อยู่ไม่ได้แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อน้องชายได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำให้เสร็จ ในคืนเดียวกันเพื่อขอออกหมายจับทั้ง 4 คนก่อน และเตรียมสอบขยายผลขอหมายจับเพิ่มอีก 7 คน คือนายวิราเชน เสมอใจ นายแสนธิ โคกมนคูล นายวัลลพ ธรรมชาติ นายอภิชา มาโน นายสุรศักดิ์ คัดสอน นายอรัญ มูลโชค และนายอารีย์ แสงเซอร์ ทั้งหมดเป็นพนักงานขนเงินบริษัทเดียวกัน จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ามีส่วนรู้เห็นทำกันเป็นขบวนการ
