เมืองชาละวันเปิดศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียงเฉลิมพระเกียรติวันแม่แห่งชาติ

พิจิตร - เรือนจำพิจิตรพัฒนาพื้นที่รกร้างว่างเปล่าให้เป็นศูนย์เรียนรู้แก่ผู้ต้องขัง ทำการเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อใช้เป็นวิชาชีพติดตัวหลังพ้นโทษ เป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันแม่

รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตร แจ้งว่า ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติวันแม่แห่งชาติปีนี้ นางสุจิตรา เหลืองวัฒนนันท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิจิตร ได้เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้การเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่เรือนจำชั่วคราวหนองบึงกลาง ตำบลท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งได้ทำพิธีเปิดตั้งแต่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดพิจิตร ได้ร่วมกันประกอบกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลา จำนวน 1 แสนตัว ลงในแหล่งน้ำหนองบึงกลาง และทำการปลูกข้าวในแปลงนาโครงการลดต้นทุนการผลิต “หว่านวันแม่เกี่ยววันพ่อ”

โดย นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ลงมือโยนต้นกล้าเป็นการปฐมฤกษ์ของการทำนา เพื่อจะนำผลผลิตที่ได้ไปเป็นข้าวต้นแบบ เพื่อให้เกษตรกรใช้ในการหว่านดำ ในฤดูกาลต่อๆ ไป พร้อมกับเยี่ยมชมกิจกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และโครงการตามแนวพระราชดำริ ที่เรือนจำจังหวัดพิจิตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถแม่ของแผ่นดิน เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา มหาราชินี ซึ่งมีกิจกรรมหลายประเภท อาทิ สาธิตเครื่องสีข้าวกล้องโดยครกกระเดื่องประยุกต์ ที่ผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดพิจิตรร่วมกันประดิษฐ์ขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบแก่เกษตรกร กิจกรรมการปลูกหญ้าแฝก และนิทรรศการให้ความรู้ด้านการเกษตร

สำหรับเรือนจำชั่วคราวหนองบึงกลางจังหวัดพิจิตรแห่งนี้ เป็นที่สาธารณประโยชน์ เนื้อที่ 80 ไร่ อยู่ในความดูแลของเรือนจำจังหวัดพิจิตร ก่อนหน้านี้เป็นที่รกร้างว่างเปล่ามีลักษณะเป็นที่ลุ่มกึ่งหนองน้ำบางส่วน ต้นปี 2552 เรือนจำจังหวัดพิจิตร จึงได้ทำการบุกเบิกเพื่อใช้เป็นสถานที่ฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังโดยกันพื้นที่ประมาณ 8 ไร่ ให้ผู้ต้องขังได้เรียนรู้วิธีการทำนาและการเกษตรตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีทั้งผลผลิตที่ได้ และการปรับพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง จังหวัดพิจิตรจึงได้สนับสนุนให้เรือนจำจังหวัดพิจิตรขยายผลการดำเนินงานเพิ่มเติมกิจกรรมด้านการเกษตร

เช่น การเลี้ยงปลาในนาข้าว การผลิตข้าวแบบลดต้นทุน การทำไร่นาสวนผสม รวมทั้งการทำเครื่องสีข้าว กล้องแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ฝึกวิชาชีพ และให้เกษตรกรที่สนใจเข้าไปศึกษาเรียนรู้และนำไปปรับใช้กับการเกษตรของตนเองต่อไป