น้ำป่าทะลัก-ดินสไลด์ทับร้านค้าสามเหลี่ยมทองคำพังยับ

เชียงราย - น้ำป่าทะลักดินภูเขาสไลด์ทับร้านค้าบริเวณสามเหลี่ยมทองคำพังยับ หลังเกิดฝนตกหนักทั่วพื้นที่ ขณะที่พื้นที่ใกล้เคียงจมมิด ส่วนผลกระทบการบุกรุกถมหนองน้ำเก่าแก่เวียงเชียงแสนเริ่มปรากฏ ส่งผลพื้นที่ตัวเมืองขาดแก้มลิงรองรับน้ำฝน ทำให้น้ำทะลักเข้าร่วมพื้นที่เทศบาลอีกหลายจุด

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าวันนี้ (7 ส.ค.) หลังจากเกิดฝนตกหนักทั่วพื้นที่ จ.เชียงราย ได้ทำให้เกิดลำน้ำห้วยเกี๋ยง ต.เวียง อ.เชียงแสน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งเป็นนาข้าวและข้าวโพดเป็นบริเวณกว้าง นอกจากนี้ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำหมู่บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ได้เกิดเหตุดินจากดอยปูเข้าที่อยู่เหนือสามเหลี่ยมทองคำ ได้ไถลหรือสไลด์ตกเข้าทับร้านค้าที่ตั้งเรียงรายบริเวณเชิงเขา ติดกับถนนสายเชียงแสน-แม่สาย จนทำให้ร้านค้าได้รับความเสียหายจำนวน 5 ร้าน สินค้าภายในซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของฝาก ฯลฯ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

นอกจากนี้ ที่บริเวณหมู่บ้านวังลาวที่อยู่ติดกันพบว่าน้ำได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรประมาณ 100 หลังคาเรือน และน้ำจากร่องน้ำธรรมชาติได้ตัดขาดถนนภายในหมู่บ้านจนเสียหาย ไม่สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้จนชาวบ้านต้องใช้เส้นทางอ้อมอื่นๆ

นายจำรัส โกฎยี่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เวียง อ.เชียงแสน กล่าวว่า ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยและสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วนแล้ว เบื้องต้นคาดว่าพื้นที่ทางการเกษตรเสียหายประมาณ 5,000 หลังคาเรือน ส่วนความเสียหายที่เกิดกับร้านค้าชายแดนนั้น คงจะเข้าไปช่วยกันซ่อมแซมในอนาคต โดยจัดสรรงบประมาณที่จำเป็น แต่เบื้องต้นคงต้องช่วยกันซ่อมเป็นการเฉพาะหน้าไปก่อน รวมทั้งคงต้องทำแนวป้องกันการทลายลงมาของดินเพราะอยู่ติดกับถนน อาจจะทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาหรือนักท่องเที่ยว ที่ไปเที่ยวซื้อสินค้าได้รับผลกระทบเนื่องจากดินอาจจะสไลด์ลงมาได้ทุกเมื่อ

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า วันเดียวกันปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามากได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ในที่ลุ่มหลายจุด ภายในเขตเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน ทำให้เทศบาลต้องนำเครื่องสูบน้ำไปช่วยเหลือด้วยการสูบน้ำออกจากที่ลุ่มและบ้านเรือนกว่า 10 จุด ซึ่งต้องทำตลอดทั้งวันเนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมา มีการบุกรุกพื้นที่โบราณสถานและหนองน้ำภายในเมืองประวัติศาสตร์เชียงแสน จึงทำให้ไม่มีทางระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง ขณะเดียวกันแม่น้ำจันพื้นที่ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ได้เอ่อล้นและไหลเชี่ยวกราก เพราะปริมาณน้ำฝนที่เติมเต็มลงไปจนทำให้มีสะพานสำหรับสัญจรของชาวบ้านเสียหาย 2 แห่ง

ด้าน นายสงวน ตุ่นงิ้ว ปลัดเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน กล่าวว่า เดิมภายในเขตเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน มีหนองน้ำใหญ่เรียกว่าหนองกลางเวียง ซึ่งคนโบราณขุดเอาไว้ติดกำแพงเมืองด้านทิศใต้ เพื่อใช้เป็นสถานที่ระบายน้ำจากฝนที่ตกหนักลงมา เพื่อไม่ให้ไหลเข้าสู่บ้านเรือน หรือเป็นเสมือนแก้มลิงของตัวเมืองเชียงแสน แต่ปรากฏว่าปัจจุบันมีผู้บุกรุกเข้าไปถือครองที่ดินโดยรอบหมด และยังถมหนองน้ำจนไม่เหลือสภาพเดิม แก้มลิงจึงไม่หลงเหลืออยู่ เมื่อฝนตกหนักลงมาจึงทำให้น้ำไหลเข้าสู่บ้านเรือนราษฎรภายในเขตเทศบาล ที่เป็นตัวเมืองเก่า ซึ่งเทศบาลก็ได้ใช้เครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือประชาชน และหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มเติมคงจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1 วัน