ชัยภูมิรณรงค์ใช้แรงงานควายไถนา ฟื้นภูมิปัญญาพึ่งตนเองยั่งยืน

ชัยภูมิ - เมืองเจ้าพญาแล รณรงค์ใช้แรงงานควายไถนา พลิกฟื้นภูมิปัญญาดั้งเดิม สืบทอดพระราชปณิธานสนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ บรรเทาปัญหาต้นทุนการผลิตสูงจากราคาน้ำมันแพง และนำไปสู่พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเกษตรพอเพียง ฮือฮาเขยฝรั่งขี่ควายเล่นกีตาร์ ประชันชาวนาไทยขี่ควายร้องเพลงเป่าแคน

วันนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณแปลงนาสาธิตบ้านโสก ต.บ้านโสก อ.คอนสวรรค์ นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ พลิกฟื้นการใช้แรงงานควายไถนา สืบทอดพระราชปณิธาน... สู่ความพอเพียง จัดโดย สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีอัญเชิญแม่โพสพคืนนา จังหวัดอ่างทอง ว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยชาวนา ที่เดี๋ยวนี้หันมาทำนาโดยใช้เครื่องจักรกันมาก ทั้งๆ ที่น้ำมันแพง หากยังใช้ต่อไปจะทำให้ลำบากมาก ทรงเห็นชาวนาใช้เครื่องจักรปลูกข้าว รับสั่งว่า น่าเสียดาย ต่อไปน้ำมันแพง ชาวนาจะแย่ ควรหันกลับมาใช้ควาย จะได้ไม่ต้องใช้น้ำมัน” นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงห่วงใยเกษตรกรไทย

โดยกิจกรรมในงาน ประกอบด้วย การสาธิตไถนา การประกวดร้องเพลงเกี่ยวกับควาย การแข่งขันวาดภาพระบายสีเกี่ยวกับควาย การตอบปัญหา โต้วาที การสาธิตการปั้นควาย การแสดงพันธุ์โคกระบือ เป็นต้น ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน เกษตรกร รวมถึงนักเรียน เยาวชน และชาวต่างชาติ ที่แต่งงานกับหญิงไทยเข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก ซึ่งเขยฝรั่งต่างชาติได้ร่วมขี่ควายเล่นกีตาร์ประชันกับชาวนาไทยขี่ควายร้องเพลงเป่าแคน ด้วย

นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า การใช้แรงงานควายไถนา นอกจากจะเป็นการสนองพระราชดำริลดต้นทุนการผลิตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แล้ว ผลพลอยได้ยังมีมูลจากสัตว์ เป็นปุ๋ยอินทรีย์ ช่วยคืนความสมบูรณ์ ให้กับผืนดินสู่ธรรมชาติ เกิดการพึ่งพาตนเอง ได้อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเกษตรพอเพียง อีกทางด้วย