บุรีรัมย์ - แปลกแต่จริง หนุ่มบุรีรัมย์หนีคดีข่มขืนและพรากผู้เยาว์ นานกว่า 2 ปี โร่ขึ้นโรงพัก แจ้งรถ จยย.หาย ตร.ตรวจสอบชื่อ-สกุล พบตรงกับผู้ต้องหาหมายจับศาล จึงรวบส่งพนักงานสอบสวน เจ้าตัวสารภาพก่อเหตุจริง แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นคดีความ เผย ดอดไปแต่งงานสาวอื่น หนำซ้ำหนีทหาร ด้าน ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ชม ตร.ไหวพริบดีจับกุมคนร้ายได้ทั้งที่หนีคดีมานานกว่า 2 ปี
วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำโดย พ.ต.ต.ประเสริฐ สุ่มมาตย์ ร.ต.อ.สิรวิชญ์ อักษรณรงค์ ด.ต.อุดร มีสุวรรณ ได้ร่วมกันจับกุม นายมั่นคง หรือ มิว เวียงสงฆ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 15 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ที่ 65/2550 ลงวันที่ 27 พ.ย.2552 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยใช้กำลังประทุษร้าย และพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร” ขณะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสอบ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เรื่องรถจักรยานยนต์หาย
ทั้งนี้ คดีข่มขื่นและพรากผู้เยาว์ดังกล่าว เหตุเกิดที่อู่ซ่อมรถ และหอพักเสริมสุนี 3 ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 18-20 มกราคม 2550 วันเวลาและสถานที่เกิดเหตุต่อเนื่องกัน ต่อมาผู้เสียหาย หญิงสาว อายุ 15 ปี ได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบเรื่อง และพาเข้าแจ้งความกับ พ.ต.สยาม เกียรติบรรจง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2550 ตามประจำวันข้อ 8 คดีที่ 256/2550 ให้ดำเนินคดีกับ นายมั่นคง เวียงสงฆ์ ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยใช้กำลังประทุษร้าย และพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร”
จากนั้น นายมั่นคง ได้หลบหนีไปแต่งงานอยู่กินกับหญิงอื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวมานานกว่า 2 ปี
กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา นายมั่นคง พร้อมภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกัน ได้ยืมรถจักรยานยนต์ของญาติไปซื้อของในตลาด และแวะหาเพื่อนแถวหน้าโรงพยาบาลเอกชนบุรีรัมย์ แต่ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ ไล่ตามพร้อมกับขว้างปา ขวด และก้อนหินใส่ นายมั่นคง กับภรรยา จึงขี่รถจักรยายนต์หลบหนี ไปทางบ้านโกรกขี้หนู ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ กลุ่มวัยรุ่นก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามทำให้นายมั่นคง กับภรรยา ต้องพากันทิ้งรถจักรยานยนต์ วิ่งหนีลงทุ่งนา ก่อนจะกลับออกมาปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไป
ล่าสุด วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.นายมั่นคง กับภรรยาสาว จึงได้เข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่า รถจักรยานยนต์หาย ทางร้อยเวรจึงส่งตัว นายมั่นคง มาให้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ สอบปากคำ เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามรถจักรยานยนต์ คืนมา
แต่ขณะที่สอบปากคำนั้นตำรวจได้สังเกตเห็นนายมั่นคง มีรูปพรรณและชื่อสกุล เหมือนกันกับผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีข่มขืนอยู่ จึงได้นำหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์ แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว มาแสดงพร้อมกับแจ้งข้อหาและจับกุมตัวนายมั่นคง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
จากการสอบสวน นายมั่นคง เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคดีความ จนศาลออกหมายจับ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ จากการสอบประวัติ ยังพบว่า นายมั่นคง ได้หลบหนีทหาร กองประจำการจากค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี หลังได้เข้าประจำการเพียงเดือนเศษเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัว นายมั่นคง มานานกว่า 2 ปี แต่สุดท้ายก็สามารถจับกุมตัวได้โดยง่าย เนื่องจากผู้ต้องหาชะล่าใจ เข้ามาแจ้งความรถหายที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ โดยไม่คิดว่าตัวเองยังมีคดีความติดตัวอยู่ ต้องขอชมเชยตำรวจที่มีไหวพริบในการจับกุมคนร้ายครั้งนี้ เพราะให้มาจับกุมถึงสถานีตำรวจเลย
ส่วนกรณีที่ นายมั่นคง หลบหนีทหาร กองประจำการ ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี นั้นทางเจ้าหน้าที่จะได้แจ้งไปยังต้นสังกัด เพื่อให้ดำเนินการตามระเบียบขั้น และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
