สุรินทร์- “พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์” มทภ.2 พร้อมผู้ว่าฯ สุรินทร์ และคณะนายทหาร เข้าเยี่ยมให้กำลังใจช้าง “พังกำไล” และทีมสัตวแพทย์รักษา ที่ รพ.ช้างสุรินทร์ หลังได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขวาหักจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ต้องรักษามานานเกือบ 2 เดือนแล้ว ด้านสัตวแพทย์ เผย พังกำไลอาการทรงตัว เป็นห่วงบาลแผลกดทับและร่างกายซูบผอมลงมาก
ช่วงบ่ายวันนี้ (23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่โรงพยาบาลช้าง ภายในสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติจังหวัดสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) พร้อมด้วย นายวิเชียร ชวลิต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ต่อศักดิ์ เหลืองตระกูล ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุรินทร์ และ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี, เสนาธิการกองกำลังสุรนารี ได้เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจช้าง “พังกำไล” หรือ “พังแต๋น” ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขวาหัก จากอุบัติเหตุทางรถยนต์เข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลช้างจังหวัดสุรินทร์ มานานเกือบ 2 เดือน
สัตวแพทย์หญิง ภัทร เชื้อพลายเวช ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ช้างพังกำไลขณะนี้อาการทรงตัว แม้บาดแผลส่วนใหญ่จะเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังเป็นห่วงบริเวณบาดแผลช่วงกดทับด้านซ้ายของลำตัว จากการนอนทับบริเวณบาดแผลนานๆ ทำให้เนื้อตาย แม้จะมีเนื้องอกมาใหม่แล้วก็ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากช้างนอนเป็นเวลานานไม่ได้ออกกำลังกาย ร่างกายจึงซูบผอมลงไปมาก แต่ช้างยังกินอาหารได้ขับถ่ายปกติตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมดี
สัตวแพทย์ให้การรักษาด้วยการล้างบาดแผล ให้ยาแก้อักเสบ ให้กินวิตามินซีบำรุงกระดูก วิตามินบีบำรุงร่างกาย และขณะนี้กำลังรอเฝือกขาที่มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้มาทำการวัดขนาดขาขวาที่หักเพื่อทำเฝือกที่มีคุณภาพดี มาใส่ให้พังกำไลใหม่
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจแก่ทีมสัตวแพทย์ พร้อมผู้ช่วยสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เดินทางมาช่วยรักษาช้างพังกำไล ซึ่งขอให้กำลังใจในการตั้งใจทำงานรักษาช้างให้หายโดยเร็วและหากมีสิ่งใดที่จะให้ทหารช่วยเหลือก็ให้ประสานงานกับทางกองกำลังสุรนารีและจังหวัดทหารบกสุรินทร์ ซึ่งยินดีให้การสนับสนุนกำลังพลและอุปกรณ์สนับสนุนการรักษาช้างพังกำไลอย่างเต็มที่
พร้อมกันนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มอบเงินจำนวน 5,500 บาท แก่เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังสุรนารีและจังหวัดทหารบกสุรินทร์ ที่ได้มาสนับสนุนช่วยงานการรักษาช้างพังกำไลมาเป็นระยะเวลานาน จะครบ 2 เดือนในวันที่ 29 ก.ค.นี้ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ทหารให้ทำงานช่วยรักษาช้างต่อไป
ทางด้าน นายวิเชียร ชวลิต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับบ่อน้ำเค็มที่จะใช้รักษาช้างพังกำไลแบบวารีบำบัด นั้น ขณะนี้ได้มีการอนุมัติโครงการสร้างต่อเติมอาคารโรงพยาบาลช้างแล้ว ซึ่งต่อไปทีมงานก่อสร้างจะมาทำการต่อเติมอาคารโรงพยาบาลช้างและต่อเติมไปถึงบ่อน้ำวารีบำบัด และทำการติดตั้งเครนในการยกช้าง ซึ่งจะลงมือก่อสร้างได้ในเร็วๆ นี้
สัตวแพทย์หญิง ภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ต่อไปจะต้องพิจารณาว่าจะใช้น้ำที่มีความเค็มเท่าไรในการรักษาแบบวารีบำบัด ซึ่งต้องมองไปถึงการนำน้ำเค็มที่ใช้แล้วไปทิ้งด้วยเพื่อไม่ให้เกิดมลภาวะในพื้นที่ เพราะหากใช้ความเค็มของน้ำมากในการรักษา การนำน้ำไปทิ้งก็ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจำเป็นต้องวิเคราะห์กันหลายด้าน