เชียงราย – พบหญิงน้ำหนัก 200 กว่ากิโล จนเดินไม่ได้ แถมลูกก็พิการ ต้องอาศัยยายวัย 76 ขายถ่านหาเลี้ยง
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (22 ก.ค.) นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พร้อมด้วย นายปรีชา พัวนุกุลนนท์ รักษาการในตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงราย, นายอนุรักษ์ อินทร รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย นำคณะเจ้าหน้าที่ไปตรวจดูสภาพร่างกายของหญิงที่มีสภาพร่างกายอ้วนผิดปกติที่บ้านเลขที่ 270 หมู่ ุ6 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย หลังได้รับแจ้งว่า นอกจากจะมีผู้สภาพร่างกายอ้วนผิดปกติแล้วยังมีสภาพครอบครัวที่แร้นแค้นอีกด้วย
เมื่อไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัยรวม 3 คน เป็นหญิงที่อ้วนผิดปกติชื่อนางแสงจันทร์ ทรัพย์สมาน อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 200 กิโลกรัมโดยน้ำหนักดังกล่าวชั่งครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 1 ปีก่อนส่วนในปัจจุบันไม่สามารถไปชั่งได้เพราะด้วยน้ำหนักที่มากทำให้ไม่สามารถเดินเหินไปมาได้ต้องใช้การคลานไปมาภายในบ้านเท่านั้น
สำหรับสภาพบ้านเรือนของนางแสงจันทร์ ถือว่าเป็นครอบครัวชนชั้นกลาง ค่อนไปทางยากจนแต่ไม่ถึงกับลำบากมากนัก
นอกจาก นางแสงจันทร์ จะมีสภาพผิดปกติดังกล่าวแล้ว พบว่า ภายในบ้านยังมีผู้พิการอีก 1 คนชื่อว่า ด.ช.ศุภลักษณ์ ทรัพย์สมาน อายุ 13 ปี บุตรชายของ นางแสงจันทร์ ซึ่งเป็นผู้พิการพูดไม่ได้หรือเป็นใบ้รวมทั้งเป็นเด็กพิเศษ หรือออทิสติกส์ด้วย ทำให้ภาระของคนทั้งบ้านตกเป็นของยายวัย 76 ปี ชื่อว่า นางใส สังนันท์ ซึ่งเป็นมารดาของนางแสงจันทร์ และยายของ ด.ช.ศุภลักษณ์ นั่นเอง เนื่องจากครอบครัวนี้มีคนอยู่เพียงแค่ 3 คน ทำให้ภาระทั้งหมดตกเป็นของผู้เฒ่าไปโดยปริยาย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายสุเมธ ได้สอบถามถึงความเป็นมาของปัญหาและความทุกข์ยาก จากนั้นมอบหมายให้เทศบาลนครเชียงรายดูแลเรื่องสวัสดิการต่างๆ ตามสิทธิที่พึงจะได้รับรวมทั้งให้แนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกาย แก่ นางแสงจันทร์ ด้วย เพราะจากการตรวจวัดความดันโลหิตของนางแสงจันทร์พบว่าสูงถึง 160
นางแสงจันทร์ กล่าวว่า เดิมไม่ได้เป็นคนอ้วนมากมายนัก โดยมีสภาพร่างกายเหมือนคนทั่วไป แต่ก็อาจจะท้วมขึ้นมาตามวัย แต่ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่น กระทั่งเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน ร่างกายก็เริ่มผิดปกติโดยอ้วนขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถหยุดยั้งได้กระทั่งถึงระดับ 200 กิโลกรัมก็ไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป เพราะขาไม่สามารถพยุงเอาร่างกายให้ลุกขึ้นยืนได้ เมื่อไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า เกิดจากโรคใด แต่แพทย์แนะนำให้ควบคุมอาหารไม่ให้กินอาหารที่มีไขมันมากเกินไป จึงไปพักอยู่ที่บ้าน
“สงสารแม่มากที่ต้องหาเลี้ยงดูตนและลูกของตนทั้งๆ ที่แก่ชราแล้ว จึงอยากจะได้รถเข็นคนพิการเพื่อจะได้ไปไหนมาไหนได้บ้างจะได้ช่วยแม่ทำงานด้วยการออกไปขายล็อตเตอรี่ อย่างไรก็ตามโรงพยาบาล ก็ไม่มีรถเข็นที่เหมาะสมกับร่างกายอีกจึงเป็นทุกข์ใจอย่างมาก”
ด้าน นางใส กล่าวว่า ก่อนจะเกิดอาการอ้วนผิดปกติเมื่อประมาณ 5 ปี ก่อนลูกสาวจะไอหนักมากนานราว 2-3 เดือน จากนั้นก็เริ่มอ้วนขึ้นอย่างน่าแปลกใจ กระทั่งเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ ภาระทั้งหมดจึงตกอยู่กับตนทั้งเรื่องการทำอาหาร การล้างถ้วยชม ชักผ้า ฯลฯ เพราะสามีของตนและสามีของนางแสงจันทร์ ก็เสียชีวิตไปนานแล้ว ครอบครัวเราจึงเหลือด้วยกันเพียง 3 คน หลานก็ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
ทุกวันนี้จึงประทังชีวิตอยู่ด้วยเบี้ยยังชีพคนชราและคนพิการรวม 3 คน เป็นเงินรวมกันทั้งหมด 1,500 บาท ซึ่งก็นำมาใช้เพื่ออยู่ไปวันๆ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ขาดเหลือตนก็จะอาศัยการไปรับถ่านจากเพื่อนบ้านถุงละ 8 บาทนำมาวางขายหน้าบ้านถุงละ 10 บาท เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวโดยเฉพาะซื้อข้าวสาร ซึ่งต้องไปหาซื้อมาประทังครอบครัวครั้งละ 1-2 ลิตร
ด้าน นายปรีชา พัวนุกุลนนท์ รักษาการในตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า จะให้กองช่างของเทศบาลไปจัดหาอุปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อใช้ประกอบเป็นรถเข็นแบบพิเศษให้นางแสงจันทร์ นั่งและใช้การได้ เพราะรถเข็นธรรมดาไม่สามารถใช้ได้ แต่ก็คงจะแนะนำไม่ให้ออกไปไหนมาไหนไกลเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายเช่นกัน ส่วนด้านอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องเบี้ยยังชีพ และอื่นๆ ทางเทศบาลจะดูแลให้อย่างเต็มที่ต่อไป
