เชียงราย – ผู้ว่าฯ เชียงรายเหลืออด นำทีมออกตรวจสถานบันเทิงกลางเมืองเอง หลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาท - ทำผิดกฎหมายหลายครั้ง
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า คืนที่ผ่านมา (17 ก.ค.)นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ร่วมกับ พ.ต.อ.ณรงค์ชัย วงศ์สามี รอง ผบก.ภ.เชียงราย พร้อมทั้งนายประสังข์ โต๋วตระกูล รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย นำกำลังตำรวจพร้อมทั้ง อส.และเทศกิจ สารวัตรนักเรียนรวมประมาณ 50 คน ออกตรวจตามสถานบันเทิงและร้านอาหารย่านถนนราษฎร์บำรุง ต.รอบเวียง อ.เมือง เพื่อตรวจตราความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานบันเทิงต่างๆ
หลังจากก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ชายฉกรรจ์ก่อเหตุกร่างผลักอกปลัดอำเภอเมืองเชียงราย ที่เป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบความเรียบร้อยในยามค่ำคืนในย่านนี้ กระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว ล่าสุดมีกลุ่มวัยรุ่นสองกลุ่มยกพวกชกต่อยกันจนถึงขั้นมีการใช้อาวุธปืนยิงอีกฝ่ายจนเสียชีวิตคาที่ 1 ศพและได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน
จากการตรวจสอบพบว่า ย่านถนนดังกล่าวมีร้านอาหารและสถานบันเทิงตั้งติดกันหลายแห่ง ตั้งแต่ปากซอยตรงถนนพหลโยธินสายใน ไปจนถึงถนนพหลโยธินสายนอก ซึ่งเป็นที่ตั้งของเอ็มเซ็นเตอร์ ที่สร้างเป็นลานกว้างตรงกลางรายรอบด้วยอาคารคอนกรีต โดยมีร้านอาหารประมาณ 20 ร้าน บริเวณดังกล่าวยังมีพาร์คลับของโรงแรมอินคำ ร้านหนุกหนาน ร้านวาไรตี้ ร้านกรุงเทพและสเปริ์มผับ โรงแรมเรือนทิพย์ ฯลฯ
ผู้ว่าราชการจังหวัดได้นำคณะเจ้าหน้าที่ตรวจความเรียบร้อยและตรวจสอบใบอนุญาตต่างๆ ซึ่งก็พบว่าครั้งนี้ทุกร้านมีใบอนุญาตถูกต้องและมีบางร้านที่จะต้องแก้ไขในบางเรื่อง เช่น ทางหนีไฟ ฯลฯ
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจบัตรประชาชนผู้ไปเที่ยวด้วย ปรากฏว่าไม่พบว่ามีการปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนดเข้าไปใช้บริการแต่อย่างใด
นายสุเมธ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนว่าบนถนนราษฏร์บำรุง มีสถานบันเทิงจำนวนมาก จึงกลายเป็นแหล่งเที่ยวของคนกลางคืนและมีสถานบันเทิงหลายแห่งเปิดเสียงดังรบกวนชาวบ้านละแวกใกล้เคียง รวมทั้งมีการเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงได้นำกำลังออกมาตรวจสอบ เมื่อพบความไม่ปกติก็เชิญผู้ประกอบการมาสอบถามและขอให้ช่วยลดเสียงดนตรี ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือ แต่ก็พบมีบางร้านที่เปิดลักษณะคล้ายผับก่ออิฐโดยรอบมีทางเข้าออกแคบๆ เกรงว่าหากเกิดเพลิงไหม้และคลอกนักเที่ยวเหมือนกับซานติก้าผับได้ จึงได้สั่งการให้ทำการแก้ไขเร่งด่วน ขณะเดียวกันต่อจากนี้ไปจะให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกับสถานบริการกระทำความผิดและให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป.