ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองกำลังบูรพาสนธิกำลังตำรวจสระแก้ว จับต้นกล้ามะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นพันธุ์พืชต้องห้ามส่งออก จำนวน 300 ต้น ส่งไปประเทศกัมพูชา
วันนี้ (15 ก.ค.) พ.อ.วุส เจียมสุข ผบ.หน่อวยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา พร้อมด้วย ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก และ พ.ต.ท.สมบัติ จิตต์พิริยะการ สวป.สภ.คลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว สนธิกำลังตั้งจุดตรวจเข้ม ป้องกันการลักลอบยาเสพติดเข้ามาจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา บริเวณช่องทางเดินเท้าข้ามทางรถไฟหน้าตลาดเทศบาล 3 พบรถเข็นบรรทุกพันธุ์พืชต้นกล้ามะพร้าวน้ำหอม ต้องห้ามส่งออกนอกประเทศในจำนวน 300 ต้น ซ่อนอยู่ใต้รถเข็น โดยใช้ผ้ากระสอบปุ๋ยขาวปิดคลุมพรางสายตาเจ้าหน้าที่ โดยมีแรงงานรับจ้างชาวกัมพูชาเป็นชาย 2 คน เข็นรถนำต้นมะพร้าวน้ำหอมเพื่อเดินทางออกไปเข้าฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา จึงทำการตรวจยึด พร้อมขยายผลเข้าจับกุม นางลิน ลา อายุ 34 ปี เป็นชาวกัมพูชา ที่เป็นผู้สั่งซื้อกล้าต้นมะพร้าวน้ำหอมต้องห้ามนำออกมา โดยอ้างว่ามีพระชาวกัมพูชาเป็นผู้สั่งซื้อมาจากจังหวัดปราจีนบุรีและอ้างว่าเพื่อนำไปปลูกล้อมรอบวัดแห่งหนึ่งในประเทศกัมพูชา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมะพร้าวน้ำหอมดังกล่าวเป็นพันธุ์พืชต้องห้ามส่งออก 1 ในจำนวน 11 ชนิด จึงควบคุมตัวส่งมอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต้องห้ามนำออกพันธุ์พืชมะพร้าวน้ำหอมดังกล่าว
ร.อ.ชาญ กล่าวว่า ตนได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตรวจพืชอรัญประเทศว่า กล้าต้นมะพร้าวน้ำหอมเป็นพันธุ์พืชต้องห้ามนำออกต่างประเทศ 1 ในจำนวน 11 ชนิด ได้แก่ ทุเรียนทุกสายพันธุ์ ส้มโอทุกพันธุ์ องุ่น ลำไย ลิ้นจี่ มะขาม กวาวเครือ ทองเครือ สละ สับปะรด โดยเฉพาะมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นพันธุ์พืชสงวนและขึ้นทะเบียนลิขสิทธฺไว้ เป็นพืชสงวนตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ.2518 หากมีการจับกุมบุคคลลักลอบนำออกต่างประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือจับปรับไม่เกิน 4 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องดำเนินคดีตามกฏหมาย
สำหรับมะพร้าวน้ำหอมต้องห้ามดังกล่าว ตนได้รับแจ้งมาว่า ในประเทศเวียดนาม มีความต้องการพันธุ์พืชมะพร้าวน้ำหอมจากประเทศไทยมากกว่า 1 แสน 5 หมื่นต้น เพื่อนำไปขยายสายพันธุ์ ประกอบกับ พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา ได้สั่งการตรวจเข้มเฝ้าระวังการลักลอบนำพันธุ์พืชต้องห้ามและสงวนทั้ง 11 ชนิดอย่างเข้มงวดต่อไป
วันนี้ (15 ก.ค.) พ.อ.วุส เจียมสุข ผบ.หน่อวยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา พร้อมด้วย ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก และ พ.ต.ท.สมบัติ จิตต์พิริยะการ สวป.สภ.คลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว สนธิกำลังตั้งจุดตรวจเข้ม ป้องกันการลักลอบยาเสพติดเข้ามาจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา บริเวณช่องทางเดินเท้าข้ามทางรถไฟหน้าตลาดเทศบาล 3 พบรถเข็นบรรทุกพันธุ์พืชต้นกล้ามะพร้าวน้ำหอม ต้องห้ามส่งออกนอกประเทศในจำนวน 300 ต้น ซ่อนอยู่ใต้รถเข็น โดยใช้ผ้ากระสอบปุ๋ยขาวปิดคลุมพรางสายตาเจ้าหน้าที่ โดยมีแรงงานรับจ้างชาวกัมพูชาเป็นชาย 2 คน เข็นรถนำต้นมะพร้าวน้ำหอมเพื่อเดินทางออกไปเข้าฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา จึงทำการตรวจยึด พร้อมขยายผลเข้าจับกุม นางลิน ลา อายุ 34 ปี เป็นชาวกัมพูชา ที่เป็นผู้สั่งซื้อกล้าต้นมะพร้าวน้ำหอมต้องห้ามนำออกมา โดยอ้างว่ามีพระชาวกัมพูชาเป็นผู้สั่งซื้อมาจากจังหวัดปราจีนบุรีและอ้างว่าเพื่อนำไปปลูกล้อมรอบวัดแห่งหนึ่งในประเทศกัมพูชา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมะพร้าวน้ำหอมดังกล่าวเป็นพันธุ์พืชต้องห้ามส่งออก 1 ในจำนวน 11 ชนิด จึงควบคุมตัวส่งมอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต้องห้ามนำออกพันธุ์พืชมะพร้าวน้ำหอมดังกล่าว
ร.อ.ชาญ กล่าวว่า ตนได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตรวจพืชอรัญประเทศว่า กล้าต้นมะพร้าวน้ำหอมเป็นพันธุ์พืชต้องห้ามนำออกต่างประเทศ 1 ในจำนวน 11 ชนิด ได้แก่ ทุเรียนทุกสายพันธุ์ ส้มโอทุกพันธุ์ องุ่น ลำไย ลิ้นจี่ มะขาม กวาวเครือ ทองเครือ สละ สับปะรด โดยเฉพาะมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นพันธุ์พืชสงวนและขึ้นทะเบียนลิขสิทธฺไว้ เป็นพืชสงวนตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ.2518 หากมีการจับกุมบุคคลลักลอบนำออกต่างประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือจับปรับไม่เกิน 4 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องดำเนินคดีตามกฏหมาย
สำหรับมะพร้าวน้ำหอมต้องห้ามดังกล่าว ตนได้รับแจ้งมาว่า ในประเทศเวียดนาม มีความต้องการพันธุ์พืชมะพร้าวน้ำหอมจากประเทศไทยมากกว่า 1 แสน 5 หมื่นต้น เพื่อนำไปขยายสายพันธุ์ ประกอบกับ พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา ได้สั่งการตรวจเข้มเฝ้าระวังการลักลอบนำพันธุ์พืชต้องห้ามและสงวนทั้ง 11 ชนิดอย่างเข้มงวดต่อไป