กาญจนบุรี - พบหัวขวานหินสมัยมนุษย์ยุคหินอายุกว่า 4,000 ปี ในพื้นที่บ้านแก่งประลอม อำเภอไทยโยค กาญจนบุรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแก่งประลอมผู้ค้นพบ เผยรอให้กรมศิลป์เข้าไปตรวจสอบก่อนบอกความจริงว่าสิ่งที่ค้นพบอยู่ที่บริเวณใดในเนื้อที่กว่า 10 กว่าไร่
วันนี้ (13 ก.ค.) เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งข่าวจากชาวบ้านแก่งประลอม หมู่ที่ 1 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่าที่โรงเรียนแก่งประลอม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี มีอาจารย์ท่านหนึ่งในโรงเรียนได้ขุดพบอาวุธโบราณซึ่งทำจากหินหลากหลายชนิดและอาวุธหินดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับหัวขวานที่ใช้กันในสมัยของมนุยษ์ในยุกหินเมื่อกว่า 4,000 ปี
หลังจากได้รับแจ้งข่าวดังกล่าวผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปทำการตรวจสอบบริเวณที่มีการขุดพบขวานหิน 4,000 ปี ทันที และเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงยังโรงเรียนบ้านแก่งประลอม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อพบนายชนะชัย แจ้งสว่าง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแก่งประลอม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าวเกี่ยวกับการขุดพบขวานหิน 4,000 ปี ในครั้งนี้ โดยนายชนะชัยกล่าวว่า ขวานหินดังกล่าวที่ชาวบ้านลือกันอยู่นี้เป็นความจริงและตนก็เป็นเจ้าของขวานหิน 4,000 ปีดังกล่าว
นายชนะชัย ชนะชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแก่งประลอม เปิดเผยถึงที่มาในการพบอาวุธขวานหินในยุคมนุษย์ยุคหินว่า ก่อนที่ตนจะพบกับหัวขวานหินของมนุษย์ยุคหินนั้น ในขณะที่ตนกำลังจะเดินทางไปสอนหนังสือให้กับนักเรียนในโรงเรียนตนได้พบกับนักเรียนชาย 2 คน ของโรงเรียนกำลังนั่งเล่นอะไรกันอยู่บริเวณลานใกล้อาคารโรงเรียน
ตนจึงเดินทางเข้าไปพบกับ 2 นักเรียนดังกล่าวทันที และเมื่อตนเดินทางไปยังจุดที่ 2 นักเรียนนั่งเล่นตนได้พบกับหินซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหัวขวานซึ่งทำมาจากหิน ตนจึงขอหินดังกล่าวดู หลังจากที่ตนได้ดูหินดังกล่าวเสร็จตนได้ให้เด็กทั้ง 2 คน พาไปยังจุดที่พบหินดังกล่าวทันที เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณดังกล่าวตนก็พบกับหินในลักษณะเดียวกันอีก 2 ชิ้น เสร็จแล้วตนจึงเดินทางมาสอนหนังสือต่อ
นายชนะชัยกล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนเลิกสอนหนังสือให้กับเด็กตนก็จะเดินทางมาทำการขุดหาหินดังกล่าวที่บริเวณที่เด็กพบ ตนจะทำอย่างนี้ทุกวัน วันหนึ่งตนได้ตั้งจิตอธิฐานว่า หากจะให้หินกับตนก็ขอให้ได้พบหินอีก และในตอนดึกของวันนั้นในขณะที่ตนหลับอยู่ตนได้ฝันว่า มีมนุษย์ยุคหิน 7 คน ไม่สวมเสื้อท่อนล่างสวมด้วยเปลือกไม้ถืออาวุธหินมาล้อมตนในฝันแต่ไม่พูดอะไร
จนกระทั่งเช้า ตนนึกถึงความฝันของเมื่อคืนตนจึงเดินทางไปยังที่พบหินอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อตนทำการขุดดินอยู่นั้นตนก็พบกับหินคล้ายมีดปักอยู่ที่ดินตนก็ไปหยิบดูและทำการขุดดินบริเวณนั้น ตนพบกับหินในลักษณะต่างๆอีกจำนวนกว่า 60 ชิ้น เสร็จแล้วตนจึงเดินทางกลับ เหตุการณ์ดังกล่าวที่ตนพบนั้นเป็นเวลานานกว่า 10 ปี แล้ว
แต่ตนไม่เคยเอยพูดให้ใครทราบในเรื่องนี้ จนกระทั่งเมื่อตนเดือนที่ผ่านมาได้มีชาวบ้านแก่งประลอม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้ลงไปดำปลาแล้วไปเจออาวุธสงครามสมัยโบราณจำนวนมากที่บริเวณใต้แม่น้ำแควน้อย ตนจึงเดินทางไปดูและได้พบกับเจ้าหน้าที่ศิลปากรท่านหนึ่งจึงได้สอบถามเกี่ยวกับการพบวัตถุโบราณสามารถเก็บไว้ได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวตอบว่า ถ้าใครมีวัตถุโบราณเก็บไว้ โดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดตามกฎหมาย ตนจึงกลัวจึงอยากจะมอบอาวุธยุคหินกว่า 4,000 ปี ที่ตนพบให้กับพิพิธภัณฑ์ได้เก็บไว้เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้กับเด็กและเยาวชนรุ่นหลังต่อไป
“สิ่งที่ผมพบ ผมจะบอกได้ต่อเมื่อมีเจ้าหน้าที่ของกรมศิลป์มาเท่านั้นว่า ผมพบที่บริเวณใดและอยู่ที่ไหน ซึ่งเนื้อที่ดังกล่าวที่พบมีประมาณ 10 กว่าไร่ แต่ตอนนี้ผมยังไม่ยอมเปิดเผยถึงที่มาของการค้นพบอาวุธโบราณสมัยมนุษย์ยุคหินกว่า 4,000 ปี แต่อาวุธทั้งหมดอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีอย่างแน่นอน”