พิจิตร - เร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรป้องกันสวมสิทธิโครงการรับจำนำข้าว และผลิตผลทางการเกษตร
วันนี้ (10 ก.ค.52) นายเดชา ภู่ละออ เกษตรจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรและเก็บข้อมูลของเกษตรกรเพื่อให้การช่วยเหลือกรณีเกิดภัยธรรมชาติหรือเข้าโครงการต่างๆ ของทางราชการ ขณะนี้สำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตร ได้ส่งเจ้าหน้าที่กว่า 80 คน กระจายกันลงพื้นที่เพื่อพบปะเกษตรกร เพื่อขอให้ผู้ที่ทำอาชีพการเกษตรไม่ว่าจะเป็นปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด ทุกประเภท ให้มาแจ้งและลงทะเบียนว่า ทำการเกษตรประเภทใด มีปริมาณมากน้อยแค่ไหน
โดย จ.พิจิตร ได้เน้นการขึ้นทะเบียนพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ การปลูกข้าวนาปี นาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และผลิตผลทางการเกษตรทุกชนิด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ไปขอรับข้อมูลโดยละเอียด โดยใช้บัญชีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจาก กกต.มาบูรณาการข้อมูล
เกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียนจะต้องนำทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน เอกสารสิทธิ์การมีหรือการใช้ที่ดินมาเป็นหลักฐานในการแจ้งจดทะเบียนดังกล่าว ซึ่งจะเป็นที่ของตนเองหรือที่เช่า หรือที่สาธารณะที่ได้รับอนุญาตให้ทำกิน ก็สามารถมาแจ้งได้ โดยจะเปิดขึ้นทะเบียนตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.52 ล่าสุดจนถึงขณะนี้มีเกษตรกรให้ความร่วมมือมาจดแจ้งกันมากกว่า 60% แล้ว แต่ปัญหาคือ ยังมีเกษตรกรบางรายอพยพย้ายถิ่นฐานไปขายแรงงานช่วงว่างเว้นฤดูกาลเกษตรนอกพื้นที่ ที่จะต้องติดตามมาขึ้นทะเบียนต่อไป
นายเดชา กล่าวว่า การจดแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรมิจำเป็นว่าต้องเป็นชาวนาอย่างเดียว ทำอะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวกับการเกษตร ขอให้มาขึ้นทะเบียนเพื่อจะได้นำผลข้อมูลมาวิเคราะห์ส่งเสริมด้านการตลาด หรือหากมีการช่วยเหลือจากภาครัฐที่ตรงกับการทำการเกษตรของเกษตรกรก็จะได้รับประโยชน์ แต่ถ้าไม่มาจดแจ้ง เมื่อถึงเวลารัฐจะให้ความช่วยเหลือ ก็จะไม่มีหลักฐานที่สามารถแสดงว่าตนเองเป็นเกษตรกรที่แท้จริงได้ ก็จะทำให้เสียสิทธิที่ควรจะได้รับ
และหลังจากขึ้นทะเบียนแล้วก็จะมีการนำไปติดประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่าใครทำการเกษตรอะไร ที่ไหน อย่างไร ซึ่งก็มีปรากฏว่ามีการแจ้งเท็จและชาวบ้านต่างเป็นหูเป็นตาให้ทางราชการ ตั้งกรรมการสอบสวนถอดถอนชื่อออกแล้วก็มี
ทั้งนี้การขึ้นทะเบียนเกษตรกรในคราวนี้ จะสามารถป้องกันการทุจริตการสวมสิทธิในโครงการรับจำนำข้าวหรือพืชผลทางการเกษตรที่เป็นนโยบายของรัฐบาลได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย