สระแก้ว - คนร้ายก่อเหตุโจรกรรมเครื่องครัวในเขตเมืองอรัญประเทศ สูญหายกว่า 7 แสนบาท ระหว่างคืนเข้าพรรษา
พ.ต.ท.วรรณดี ศรีสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนร้อยเวรประจำ สภ.คลองลึก รับแจ้งจากนายสำรวย แก้วประสิทธิ์ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 2/4 หมู่ 5 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วว่า เครื่องชุดครัวเรือนสเตนเลสจากัวร์ ตราม้าลาย ตรานกนางนวล และตราเพชร และอีกหลายยี่ห้อ ตั้งแต่ประเภทช้อน จาน ถ้วย หม้อหุงข้าว หม้อแกง ถังน้ำคูลเลอร์ เตา กระทะ และอีกหลายชนิด ได้ถูกแก๊งเข้าโจรกรรมหายไปจากโกดังเก็บสินค้า เลขที่ 38/28 กม.5 ติดถนนสุวรรณศรหมายเลข 5 มุ่งหน้าสู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งซ้าย ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ สูญหายไปมากกว่า 7 แสนบาท หลังช่วงวันหยุดยาวอาสาฬหบูชาวันเข้าพรรษา ที่ผ่านมา จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สาคูจั่นจำรัส สวญ.สภ.คลองลึก และเจ้าหน้าที่รุดเข้าตรวจสอบโกดังเก็บสินค้าเครื่องครัวเรือนสเตนเลสดังกล่าวที่มีความกว้างด้านหน้า 14 เมตร แบ่งเป็น 2 ห้อง มีความยาวขนาด 37 เมตร โดยรอบโกดังถูกก่อสร้างล้อมรอบด้วยคอนกรีนอิฐบ็อกทั้ง 3 ด้าน ส่วนด้านหน้า เป็นประตูเหล็กแบบชักดึง หลังคาโกดังมุงด้วยกระเบื้องลอน พร้อมช่องลมแสงสว่างกระจกใสไว้ 7 ช่อง มีความสูงเท่ากับตึก 2 ชั้นครึง
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นพบช่องลมแสงสว่างหลังคากระเบื้องถูกงัดเป็นช่อง ที่คนร้ายใช้เชือกโหนตัวลงมาจำนวน 2 ช่อง พร้อมตรวจสอบสินค้าเครื่องครัวเรือนสเตนเลสที่เก็บไว้ในโกดังดังกล่าว ถูกโจรกรรมนำสินค้าเครื่องครัวเรือนหายไปเป็นจำนวนมากแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นช้อน จาน ถ้วย หม้อหุงข้าว หม้อแกงตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่สุด หรือเรียนว่า เป็นเถา ถังน้ำคูลเลอร์ เตากระทะหายไปเป็นมูลค่ากว่า 7 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงบันทึกเก็บหลักฐานไว้เพื่อมีผลทางคดีติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งคาคว่ามีคนร้ายจำนวน 3-6 คน
ผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายสำรวย แก้วประสิทธิ์ เป็นเอเยนต์รับเครื่องครัวเรือนสเตนเลสจากวัร์ ตราม้าลาย นกนางนวล และตราเพชร มาจำหน่ายและส่งขายในตลาดการค้าโรงเกลือและส่งเข้าฝั่งประเทศกัมพูชามาหลายสิบปี พร้อมเล่าว่า ในช่วงวันหยุดยาวอาสาฬหบูชาเข้าพรรษาที่ผ่านมา ตนพร้อมครอบครัวออกไปทำบุญและท่องเที่ยวต่างจังหวัด จนกระทั่งมีนัดกับลูกค้า ทีมีความต้องการสั่งสินค้าสเตนเลสเข้าส่งฝั่งกัมพูชาของวันนี้ ตนได้มาเปิดโกดังเพื่อนำสินค้าเครื่องครัวเรือนนำส่งตามลูกค้าสั่ง เมื่อตนได้เปิดประตูเหล็กเข้าไปภายในโกดังก็ต้องตกใจ พบว่า กองสินค้าที่เรียบเรียงไว้ถูกกระจัดกระจายออกเต็มพื้นคอนกรีนโกดัง และยังพบว่า ช่องลมส่องแสงสว่างหลังคาถูกงัดออกเป็นช่องปล่อยทิ้งไว้ 2 ช่อง จึงสอบถามลูกน้องว่า มีใครมาสั่งของนำออกไปหรือเปล่า แต่ได้รับการยืนยันจากลูกน้องว่า ยังไม่มีใครมาสั่งสินค้าและนำออกไปแต่อย่างใด
นายสำรวยกล่าวอีกว่า เคยมีลูกน้องเป็นชาวกัมพูชาพร้อมคนไทยที่อยู่จังหวัดสุรินทร์ มาอยู่ด้วยไม่นาน ที่ตนต้องไล่ออกไปหลายปีแล้วเนื่องจากมีความประพฤติไม่ดี และเป็นคนชอบเมาสุรา แต่ในช่วงนี้ยังไม่ได้มีการรับลูกจ้างเป็นชาวกัมพูชาเข้ามาทำงานรับจ้างแต่อย่างใด จะมีเพียงรับจ้างยามเฝ้าดูแลอยู่เท่านั้น แต่สินค้าเครื่องครัวเรือนสเตนเลสดังกล่าว กลับมาหายไปในช่วงวันเข้าพรรษามากกว่า 7 แสนบาท
เจ้าหน้าที่จึงร่วมรวมหลักฐานผลการตรวจสอบ และโดยรอบโกดัง พบหลักฐานการขึ้นหลังคาโกดัง โดยใช้บรรใดยาวมาพาดขึ้นทางด้านหลังโกดัง ซึ่งเป็นป่ายูคาลิปตัส และจะเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างมาสอบสวน เพื่อขยายผลถึงขบวนการแก๊งโจรกรรมครั้งนี้มาดำเนินการต่อไป
พ.ต.ท.วรรณดี ศรีสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนร้อยเวรประจำ สภ.คลองลึก รับแจ้งจากนายสำรวย แก้วประสิทธิ์ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 2/4 หมู่ 5 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วว่า เครื่องชุดครัวเรือนสเตนเลสจากัวร์ ตราม้าลาย ตรานกนางนวล และตราเพชร และอีกหลายยี่ห้อ ตั้งแต่ประเภทช้อน จาน ถ้วย หม้อหุงข้าว หม้อแกง ถังน้ำคูลเลอร์ เตา กระทะ และอีกหลายชนิด ได้ถูกแก๊งเข้าโจรกรรมหายไปจากโกดังเก็บสินค้า เลขที่ 38/28 กม.5 ติดถนนสุวรรณศรหมายเลข 5 มุ่งหน้าสู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งซ้าย ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ สูญหายไปมากกว่า 7 แสนบาท หลังช่วงวันหยุดยาวอาสาฬหบูชาวันเข้าพรรษา ที่ผ่านมา จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สาคูจั่นจำรัส สวญ.สภ.คลองลึก และเจ้าหน้าที่รุดเข้าตรวจสอบโกดังเก็บสินค้าเครื่องครัวเรือนสเตนเลสดังกล่าวที่มีความกว้างด้านหน้า 14 เมตร แบ่งเป็น 2 ห้อง มีความยาวขนาด 37 เมตร โดยรอบโกดังถูกก่อสร้างล้อมรอบด้วยคอนกรีนอิฐบ็อกทั้ง 3 ด้าน ส่วนด้านหน้า เป็นประตูเหล็กแบบชักดึง หลังคาโกดังมุงด้วยกระเบื้องลอน พร้อมช่องลมแสงสว่างกระจกใสไว้ 7 ช่อง มีความสูงเท่ากับตึก 2 ชั้นครึง
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นพบช่องลมแสงสว่างหลังคากระเบื้องถูกงัดเป็นช่อง ที่คนร้ายใช้เชือกโหนตัวลงมาจำนวน 2 ช่อง พร้อมตรวจสอบสินค้าเครื่องครัวเรือนสเตนเลสที่เก็บไว้ในโกดังดังกล่าว ถูกโจรกรรมนำสินค้าเครื่องครัวเรือนหายไปเป็นจำนวนมากแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นช้อน จาน ถ้วย หม้อหุงข้าว หม้อแกงตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่สุด หรือเรียนว่า เป็นเถา ถังน้ำคูลเลอร์ เตากระทะหายไปเป็นมูลค่ากว่า 7 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงบันทึกเก็บหลักฐานไว้เพื่อมีผลทางคดีติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งคาคว่ามีคนร้ายจำนวน 3-6 คน
ผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายสำรวย แก้วประสิทธิ์ เป็นเอเยนต์รับเครื่องครัวเรือนสเตนเลสจากวัร์ ตราม้าลาย นกนางนวล และตราเพชร มาจำหน่ายและส่งขายในตลาดการค้าโรงเกลือและส่งเข้าฝั่งประเทศกัมพูชามาหลายสิบปี พร้อมเล่าว่า ในช่วงวันหยุดยาวอาสาฬหบูชาเข้าพรรษาที่ผ่านมา ตนพร้อมครอบครัวออกไปทำบุญและท่องเที่ยวต่างจังหวัด จนกระทั่งมีนัดกับลูกค้า ทีมีความต้องการสั่งสินค้าสเตนเลสเข้าส่งฝั่งกัมพูชาของวันนี้ ตนได้มาเปิดโกดังเพื่อนำสินค้าเครื่องครัวเรือนนำส่งตามลูกค้าสั่ง เมื่อตนได้เปิดประตูเหล็กเข้าไปภายในโกดังก็ต้องตกใจ พบว่า กองสินค้าที่เรียบเรียงไว้ถูกกระจัดกระจายออกเต็มพื้นคอนกรีนโกดัง และยังพบว่า ช่องลมส่องแสงสว่างหลังคาถูกงัดออกเป็นช่องปล่อยทิ้งไว้ 2 ช่อง จึงสอบถามลูกน้องว่า มีใครมาสั่งของนำออกไปหรือเปล่า แต่ได้รับการยืนยันจากลูกน้องว่า ยังไม่มีใครมาสั่งสินค้าและนำออกไปแต่อย่างใด
นายสำรวยกล่าวอีกว่า เคยมีลูกน้องเป็นชาวกัมพูชาพร้อมคนไทยที่อยู่จังหวัดสุรินทร์ มาอยู่ด้วยไม่นาน ที่ตนต้องไล่ออกไปหลายปีแล้วเนื่องจากมีความประพฤติไม่ดี และเป็นคนชอบเมาสุรา แต่ในช่วงนี้ยังไม่ได้มีการรับลูกจ้างเป็นชาวกัมพูชาเข้ามาทำงานรับจ้างแต่อย่างใด จะมีเพียงรับจ้างยามเฝ้าดูแลอยู่เท่านั้น แต่สินค้าเครื่องครัวเรือนสเตนเลสดังกล่าว กลับมาหายไปในช่วงวันเข้าพรรษามากกว่า 7 แสนบาท
เจ้าหน้าที่จึงร่วมรวมหลักฐานผลการตรวจสอบ และโดยรอบโกดัง พบหลักฐานการขึ้นหลังคาโกดัง โดยใช้บรรใดยาวมาพาดขึ้นทางด้านหลังโกดัง ซึ่งเป็นป่ายูคาลิปตัส และจะเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างมาสอบสวน เพื่อขยายผลถึงขบวนการแก๊งโจรกรรมครั้งนี้มาดำเนินการต่อไป
