ชาวแม่สายร่วมลงแรงสกัดน้ำสายเอ่อท่วมตลาดชายแดนไทย-พม่า

เชียงราย - ชาวบ้านชุมชนชายแดนแม่สาย รวมตัวป้องกันน้ำสายเอ่อท่วมซ้ำซาก ร่วมลงแขกทำกระสอบทรายกั้นน้ำตามจุดล่อแหลมตลอดแนว สกัดไว้ก่อน หวั่นทำตลาดชายแดนไทย-พม่าพังยับซ้ำซากเหมือนหลายปีก่อน สร้างความเสียหายทางธุรกิจมหาศาล

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากหลายวันที่ผ่านมาเกิดฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำสายชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย เพิ่มสูงขึ้นและเกือบจะเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และร้านค้าภายในตลาดชายแดนทั้งฝั่ง อ.แม่สาย และตลาดท่าล้อ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วช่วงฤดูฝนในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปี 2551 ที่เกิดน้ำท่วมตลาดสองฝั่งประเทศหลายครั้งในรอบสัปดาห์

ดังนั้น ในฤดูฝนปีนี้จึงทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่ชายแดนทั้งสองฝั่งและเทศบาล ต.แม่สาย ตื่นตัวในการป้องกันเหตุกันอย่างขนานใหญ่ หลังจากก่อนหน้านี้ฝ่ายทหารของทั้งสองประเทศได้ร่วมกับขุดลอกน้ำสายบริเวณบ้านหัวฝายติดกับตลาดสายลมจอยในฝั่งไทยไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้

ล่าสุด วันนี้ (9 ก.ค.) นายสาคร สุริยะโชติ รองนายกเทศมนตรี ต.แม่สาย พร้อมด้วย ร.อ.ดิสชัย พลัดภัยพลาล ผบ.ร้อย มลว.3 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง นำคณะเจ้าหน้าที่เทศบาลและทหารม้า รวมทั้งประชาชนชาวหมู่บ้านเกาะทราย หมู่ 7 บ้านเหมืองแดง หมู่ 1 และหมู่ 2 บ้านไม้ลุงขน หมู่ 10 ต.แม่สาย ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี รวมตัวกันทำกิจกรรมป้องกันบริเวณสำนักสงฆ์วัดเกาะทรายริมฝั่งลำน้ำสาย ด้วยการนำกระสอบบรรจุทรายที่เตรียมไว้ 5,000 กระสอบ ไปปิดกั้นจุดที่มีความเสี่ยงต่อการที่ลำน้ำสายจะเอ่อล้นขึ้นบนฝั่ง โดยดูจากภูมิประเทศและประสบการณ์จากเหตุการณ์น้ำเอ่อล้นเมื่อปีที่ผ่านมาด้วย

นายสาครกล่าวว่า หมู่บ้านริมฝั่งสายถูกน้ำเอ่อท่วมเป็นประจำทุกปี และปีนี้คาดว่าจะเกิดเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมาเพราะฝนตกเร็วและตกนาน ดังนั้นจึงต้องป้องกันแต่เนิ่นๆ โดยดำเนินการที่บริเวณสำนักสงฆ์วัดเกาะทรายก่อน เพราะบริเวณดังกล่าวจะเป็นจุดแรกที่น้ำสายจะเอ่อเข้าท่วม หากสามารถกั้นน้ำในบริเวณนี้ได้ก็จะช่วยลดความรุนแรงของพื้นที่ที่อยู่ใต้น้ำถัดไป โดยเฉพาะจะทำให้น้ำไม่ท่วมเข้าหมู่บ้านเกาะทรายและบ้านไม้ลุงขนที่เป็นตลาดการค้าชายแดนและที่อยู่อาศัยของประชาชนที่หนาแน่นด้วย หากปล่อยให้เกิดน้ำท่วมก็จะสร้างผลกระทบอย่างหนัก