ศูย์ข่าวศรีราชา -เมืองพัทยา ถกคณะกรรมการชุมชนวอล์กกิ้งสตรีท หาแนวทางแก้ไขปัญหากลุ่มเด็กเร่ร่อนรบเร้านักท่องเที่ยว วอนตำรวจ 3 โรงพักเร่งปราบปรามสร้างภาพความเชื่อมั่นในสายตานานาชาติ
นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชุมชนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ โดยมี นายสุนทร กังศิริกุล ประธานคณะกรรมการชุมชน นำคณะเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง และในการนี้ได้ประสานไปยัง สภ.เมืองพัทยา สถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา และด่านตรวจคนเข้าเมืองพัทยาส่งตัวแทนร่วมประชุมด้วย
ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงประเด็นที่รายการโทรทัศน์ นำเสนอปัญหาเด็กเร่ร่อนและรบเร้าสร้างความรำคาญใจให้นักท่องเที่ยว ภายในโครงการถนนวอล์กกิ้งสตรีท ซึ่งเรื่องดังกล่าวนับได้ว่า เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมาเมืองพัทยาโดนวิกฤตต่างๆ อย่างมากมาย จนได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง ประกอบกับถนนเส้นดังกล่าวถือได้ว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สร้างเม็ดเงิน และนำรายได้เข้าสู่ประเทศปีละหลายล้านบาท
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงควรมีการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะถือได้ว่าเป็นปัญหาที่คาราคาซังมาอย่างยาวนาน ซึ่งเคยมีการปราบปรามแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังเกิดปัญหาขึ้นอยู่เป็นประจำ
ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 โรงพัก พร้อมกำลังเทศกิจของเมืองพัทยาทำการเข้าควบคุมและเร่งดำเนินการกวาดล้างให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป ซึ่งคงมีการดำเนินการเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนอีกครั้งเร็ววันนี้
นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชุมชนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ โดยมี นายสุนทร กังศิริกุล ประธานคณะกรรมการชุมชน นำคณะเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง และในการนี้ได้ประสานไปยัง สภ.เมืองพัทยา สถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา และด่านตรวจคนเข้าเมืองพัทยาส่งตัวแทนร่วมประชุมด้วย
ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงประเด็นที่รายการโทรทัศน์ นำเสนอปัญหาเด็กเร่ร่อนและรบเร้าสร้างความรำคาญใจให้นักท่องเที่ยว ภายในโครงการถนนวอล์กกิ้งสตรีท ซึ่งเรื่องดังกล่าวนับได้ว่า เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมาเมืองพัทยาโดนวิกฤตต่างๆ อย่างมากมาย จนได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง ประกอบกับถนนเส้นดังกล่าวถือได้ว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สร้างเม็ดเงิน และนำรายได้เข้าสู่ประเทศปีละหลายล้านบาท
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงควรมีการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะถือได้ว่าเป็นปัญหาที่คาราคาซังมาอย่างยาวนาน ซึ่งเคยมีการปราบปรามแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังเกิดปัญหาขึ้นอยู่เป็นประจำ
ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 โรงพัก พร้อมกำลังเทศกิจของเมืองพัทยาทำการเข้าควบคุมและเร่งดำเนินการกวาดล้างให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป ซึ่งคงมีการดำเนินการเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนอีกครั้งเร็ววันนี้
