ลำปาง - เปิดเรือนจำกลางลำปาง นำผู้ต้องขังร่วมงานวันต่อต้านยาเสพติด ขณะที่สถานการณ์ยาเสพติดโดยรวมลดลง แต่กระแสยาไอซ์กลับมาแรง ราคาพุ่งสูงกว่า 1 เท่าตัว
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า ที่เรือนจำกลางลำปางในวันนี้ (23 มิ.ย.) ได้มีการจัดกิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติดขึ้น เพื่อหวังให้ผู้ต้องขังตระหนักถึงพิษภัยของยาเสพติด ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำหลังพ้นโทษออกสู่สังคม โดยนายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เป็นประธานเปิดงานพร้อมบรรยายพิเศษ เกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติด เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด ประจำปี 2552 มีนายทศพร วงษ์มงคล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางลำปาง กล่าวรายงาน
กิจกรรมในวันนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้แสดงออกถึงความสามารถในการแสดงและมอบรางวัลให้แก่ผู้ต้องขังที่ชนะเลิศในการประกวดคำขวัญเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด การจัดนิทรรศการ โดยมีผู้ต้องขังในเรือนจำกลางลำปาง จำนวน 1,460 คน เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งกิจกรรมในวันนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ต้องขังได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมและเป็นการผ่อนคลาย รวมถึงเป็นการกระตุ้นให้ผู้ต้องขังซึ่งกว่า 80% ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ได้ตระหนักถึงพิษภัยของยาเสพติด และเมื่อออกสู่สังคมแล้วจะได้ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
นายสามารถกล่าวให้กำลังใจแก่ผู้ต้องขังและขอให้ผู้ต้องขังทุกคนได้จดจำสิ่งที่ตนเองเคยกระทำผิดพลาดไปในอดีต นำมาเป็นบทเรียนเตือนใจตนเองว่าจะไม่กลับไปกระทำผิดแบบเดิมๆอีก เพราะปัจจุบันสังคมภายนอกมีหลายสิ่งหลายอย่างที่คอยจะชักจูงให้ผู้ที่มีจิตใจไม่เข้มแข็งพอหวนกลับไปกระทำผิดซ้ำได้ตลอดเวลา ดังนั้น เมื่อทุกคนอยู่ในเรือนจำซึ่งปลอดจากสิ่งยั่วยุ สิ่งจูงใจต่างๆเหล่านั้นแล้วก็ขอให้ใช้เวลาที่อยู่ในเรือนจำ เป็นเสมือนวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง เมื่อกลับเข้าสู่สังคมแล้วจะได้มีภูมิคุ้มกันและจะได้เป็นคนดีของสังคมไม่กลับเข้ามาอยู่ในเรือนจำอีก
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดจังหวัดลำปางลดลง แต่กระแสยาไอซ์กำลังมาแรง ราคาสูง 1 กรัม 5,000 บาท จากการประชุมโต๊ะข่าวยาเสพติดของจังหวัดลำปาง เพื่อติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ศตส.จ.ลำปาง สถาบันการศึกษา ในเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาโดยให้แต่ละฝ่ายใช้ยุทธ์ศาสตร์5รั้ว เข้าแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน
พบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในจังหวัดลำปางลดลง และไม่อยู่ใน 6 จังหวัดที่มีการปลูกฝิ่นซ้ำซาก ส่วนใหญ่จะมีอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนสิ่งบอกเหตุในด้านรั้วชายแดนในขณะนี้พบว่าราคายาเสพติดสูงขึ้น ค่าลำเลียงก็สูงขึ้น การใช้เส้นทางจะหันมาใช้เส้นทางสายรองมากกว่าสายหลัก เพื่อเลี่ยงด่านตรวจและมักจะใช้ยานพาหนะที่มีราคาสูง ตั้งแต่หนึ่งล้านขึ้นไปและจะใช้เป็นรถเช่าที่มีนักท่องเที่ยวมาด้วยเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ส่วนเส้นทางนำเข้ายาเสพติดตากเดิมจะนำเข้าทางชายแดนทางกองทัพภาค 3 คือ ภาคเหนือ จะลดลง แต่กลับมีการนำเข้าทางกองทัพภาคที่1 และออกทางกองทัพภาคที่ 2 มากขึ้น
ส่วนราคายาเสพติดจะมีราคาเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัว เช่นยาบ้าเดิมจะมีราคาเม็ดละ 100 บาท ปัจจุบันเพิ่มเป็น 150-200 บาท ยาไอซ์ จากเดิมกิโลกรัมละ 1.5 ล้านบาท เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 3 ล้านบาท ยาอีกิโลกรัมละ 600,000 บาท เพิ่มเป็น 800,000 บาท แล้ว ส่วนราคาในการรับจากลำเลียง จากเดิมคิดราคาเป็นมัด แต่ปัจจุบันคิดราคาส่งกันเป็นเม็ด และที่น่าสังเกตคือวิธีการขนส่งผู้ค้ายาเสพติดจะหันกลับมาใช้วิธีเดิมคือการส่งทางพัสดุภัณฑ์ทางไปรษณีย์ เนื่องจากข้อจำกัดของไปรษณีย์คือเครื่องมือในการตรวจจับยาเสพติดยังมีไม่เพียงพอ
ขณะที่มาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบยั่งยืนนั้น ทางจังหวัดลำปางได้วางมาตรการ 5 รั้ว คือ 1.รั้วชายแดน ผู้รับผิดชอบจะเป็นฝ่ายความมั่นคง กอ.รมน. ทหาร ต้องคอยสอดส่องดูแลไม่ให้มีการนำยาเสพติดเล็ดลอดเข้ามาในประเทศได้ 2.รั้วชุมชน ผู้รับผิดชอบ คือฝ่ายปกครอง ต้องรณรงค์ให้หมู่บ้านชุมชน เป็นหูเป็นตาและช่วยสอดส่องไม่ให้คนในหมู่บ้านชุมชนเข้ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหากมีต้องช่วยรักษาและทำให้หมดไป 3.รั้วสังคม ผู้รับผิดชอบคือ ศตส.จ.ลำปาง วัฒนธรรมจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องเข้มงวดสถานประกอบการและสถานบริการต่างๆ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายและต้องออกตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมาย
4.รั้วโรงเรียน ผู้รับผิดชอบ สถานศึกษาทุกแห่ง ต้องคอยดูแลเด็กนักเรียนในสถาบันของตนเอง ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และจัดกิจกรรมที่ให้เด็กเยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 5.รั้วครอบครัว ผู้รับผิดชอบ คือ ศตศ.จว.ลำปาง พัฒนาสังคมฯ ต้องช่วยกันสร้างและรณรงค์ให้คนในครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวถือว่าได้ผลดีอย่างมากเนื่องจากสถิติการกระทำผิดในด้านต่างๆลดลงตามลำดับ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ย้ำให้ทุกฝ่ายดำเนินงานอย่างจริงจังโดยเฉพาะในช่วงเปิดเทอมให้เข้มงวดเรื่องบ้านเช้าหอพักเป็นพิเศษ
