ตราด - หัวหน้าศูนย์พัฒนาป่าชายเลนตราด ชี้แจง หลังถูก ชาวบ้านหมู่ 8 ตำบลวังกระแจะ จังหวัดตราดเรียกร้องขับไล่
ภายหลังที่ชาวบ้านได้เรียกร้องขับไล่ นายธนิต แสงวิสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พัฒนาป่าชายเลนตราด ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความชัดเจนในเรื่องนี้โดยสอบถามไปยังนายธนิต แสงวิสุทธิ์ ว่าข้อเท็จจริงเรื่องการ ่ก่อสร้างสำนักงานศูนย์ฯพัฒนาป่าชายเลน จ.ตราด มีความเป็นมาอย่างไรและมีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ อย่างไรนั้น
นายธนิต แสงวิสุทธิ์ ได้ชี้แจงว่า ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 1 ได้มีการดำเนินการก่อสร้างตามนโยบายของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อใช้สำหรับการประชาสัมพันธ์และ สร้างความเข้าใจรวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนและถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ประชาชน และชุมชน ซึ่งจะร่วม มือกับหน่วยงานในท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรภาคเอกชน ในการดำเนินการที่ผ่านมาได้ ดำเนินโครงการต่างๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์ 4 ประการ
คือ การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย และความร่วมมือ กับชุมชนในท้องถิ่น รวมทั้งภาคี เพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรป่าชายเลน เพื่อนำไปสู่การจัดการที่ยั่งยืน ขณะเดียวกัน จะติดตามประเมินผลการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อประโยชน์ในการเรียนรู้ การวางแผน การจัดการ และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าชายเลนในท้องถิ่น รวมทั้งวิจัย ประยุกต์ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่ออนุรักษ์และจัดการการใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าชายเลน ซึ่งทางศูนย์ ได้มีการ ดำเนินการมาโดยตลอด ตั้งแต่มีการดำเนินการก่อตั้ง
“ผมเดินทางมารับตำแหน่งตามคำสั่งของ นายสำราญ รักชาติ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 380/2551 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 แต่ศูนย์ฯ แห่งนี้ขออนุญาตก่อสร้างเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2548 และได้มีการขออนุญาตจากกรมป่าไม้ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเนื้อที่ 16 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา ซึ่งได้รับการอนุญาตมาแล้ว โดยใช้แบบรายงานการตรวจสภาพป่าตามแบบ ปส.18 (แผนที่ แสดงขอบเขตพื้นที่โครงการและแผนที่ระบุพิกัดที่ได้รับจากระบบ GPS ) ดังนั้น ผมจึงไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบมา ตั้งแต่ต้น ตามที่ผู้ร้องเรียนกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ผมในฐานะที่เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ พร้อมที่จะร่วมกันแก้ปัญหา กับพี่น้องประชาชนชาวเนินตาแมวและชาวบ้านด่านเก่าเต็มที่”
นายธนิต กล่าวว่า ในส่วนของโครงการปลูกป่าที่ชาวบ้าน ระบุว่า ทำทับซ้อนที่ดินทำกินของชาวบ้านนั้น ก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของทางศูนย์ เนื่องจากศูนย์จะมีความรับผิดชอบด้านการส่งเสริมการถ่ายทอด เทคโนโลยีสู่ประชาชนและโรงเรียน ขณะเดียวกันก็มีหน้าที่ศึกษา สำรวจรวบรวมองค์ความรู้ วิถีชีวิตภูมิปัญญา ท้องถิ่น รวมทั้งความหลากหลายทางชีวภาพทางทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง การดำเนินการปลูกป่า หรืองานอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ล้วนแล้วเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น ซึ่งเรื่องนี้ชาวบ้านอาจจะมีความ สับสนในบทบาทและหน้าที่
ภายหลังที่ชาวบ้านได้เรียกร้องขับไล่ นายธนิต แสงวิสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พัฒนาป่าชายเลนตราด ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความชัดเจนในเรื่องนี้โดยสอบถามไปยังนายธนิต แสงวิสุทธิ์ ว่าข้อเท็จจริงเรื่องการ ่ก่อสร้างสำนักงานศูนย์ฯพัฒนาป่าชายเลน จ.ตราด มีความเป็นมาอย่างไรและมีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ อย่างไรนั้น
นายธนิต แสงวิสุทธิ์ ได้ชี้แจงว่า ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 1 ได้มีการดำเนินการก่อสร้างตามนโยบายของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อใช้สำหรับการประชาสัมพันธ์และ สร้างความเข้าใจรวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนและถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ประชาชน และชุมชน ซึ่งจะร่วม มือกับหน่วยงานในท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรภาคเอกชน ในการดำเนินการที่ผ่านมาได้ ดำเนินโครงการต่างๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์ 4 ประการ
คือ การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย และความร่วมมือ กับชุมชนในท้องถิ่น รวมทั้งภาคี เพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรป่าชายเลน เพื่อนำไปสู่การจัดการที่ยั่งยืน ขณะเดียวกัน จะติดตามประเมินผลการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อประโยชน์ในการเรียนรู้ การวางแผน การจัดการ และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าชายเลนในท้องถิ่น รวมทั้งวิจัย ประยุกต์ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่ออนุรักษ์และจัดการการใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าชายเลน ซึ่งทางศูนย์ ได้มีการ ดำเนินการมาโดยตลอด ตั้งแต่มีการดำเนินการก่อตั้ง
“ผมเดินทางมารับตำแหน่งตามคำสั่งของ นายสำราญ รักชาติ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 380/2551 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 แต่ศูนย์ฯ แห่งนี้ขออนุญาตก่อสร้างเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2548 และได้มีการขออนุญาตจากกรมป่าไม้ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเนื้อที่ 16 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา ซึ่งได้รับการอนุญาตมาแล้ว โดยใช้แบบรายงานการตรวจสภาพป่าตามแบบ ปส.18 (แผนที่ แสดงขอบเขตพื้นที่โครงการและแผนที่ระบุพิกัดที่ได้รับจากระบบ GPS ) ดังนั้น ผมจึงไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบมา ตั้งแต่ต้น ตามที่ผู้ร้องเรียนกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ผมในฐานะที่เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ พร้อมที่จะร่วมกันแก้ปัญหา กับพี่น้องประชาชนชาวเนินตาแมวและชาวบ้านด่านเก่าเต็มที่”
นายธนิต กล่าวว่า ในส่วนของโครงการปลูกป่าที่ชาวบ้าน ระบุว่า ทำทับซ้อนที่ดินทำกินของชาวบ้านนั้น ก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของทางศูนย์ เนื่องจากศูนย์จะมีความรับผิดชอบด้านการส่งเสริมการถ่ายทอด เทคโนโลยีสู่ประชาชนและโรงเรียน ขณะเดียวกันก็มีหน้าที่ศึกษา สำรวจรวบรวมองค์ความรู้ วิถีชีวิตภูมิปัญญา ท้องถิ่น รวมทั้งความหลากหลายทางชีวภาพทางทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง การดำเนินการปลูกป่า หรืองานอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ล้วนแล้วเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น ซึ่งเรื่องนี้ชาวบ้านอาจจะมีความ สับสนในบทบาทและหน้าที่
