ฉะเชิงเทรา-ผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ ลงพื้นที่พบชาวบ้านแปดริ้ว แจงความคืบหน้า แนวทางการหาข้อยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางคล้า ท่ามกลางประชาชนนับพันที่ต่างตั้งตาเฝ้ารอคอยรับฟังคำตอบ สุดท้ายผลการดำเนินการยังย่ำอยู่กับที่ ไม่มีผลความคืบหน้ามากนัก
วันนี้( 21 มิ.ย.52) ที่ศาลาการเปรียญวัดสนามช้าง พื้นที่ ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา นายพันธ์ชัย วัฒนชัย ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสุมิตรา ศรีสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มชาวบ้าน ในเขตพื้นที่ ต.เสม็ดเหนือ เสม็ดใต้ สาวชะโงก และบางสวน จำนวนกว่า 1,000 คน ที่เดินทางมารวมตัวชุมนุมเพื่อรอฟังคำชี้แจงถึงผลความคืบหน้า การดำเนินการตามบันทึกข้อตกลง 6 ข้อ
ที่นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา รองปลัดกระทรวงพลังงาน และนายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ร่วมกันทำไว้กับตัวแทนกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าบางคล้า ระหว่างการชุมนุมปิดถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (8-13 มิ.ย.52) เกี่ยวกับการให้จังหวัดทำหนังสือถึงสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสั่งให้หน่วยงานภาครัฐเจรจากับ บริษัทสยามเอนเนอร์จี จำกัด พิจารณาสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ โดยไม่ใช่ที่ อ.บางคล้า
นายพันธ์ชัย ชี้แจงต่อกลุ่มชาวบ้านว่า ขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ทราบเรื่องเกี่ยวกับปัญหาของชาวบ้านบางคล้า ที่หวั่นเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้คณะกรรมการกำกับพลังงานพิจารณาในเบื้องต้นก่อน เมื่อได้ข้อมูลแล้วจึงจะรายงานต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทราบ
ทั้งนี้ เพื่อนำมาพิจารณาหาคำตอบถึงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า หรือจะมีการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ นำกลับมาบอกให้แก่ชาวบ้านทราบอีกครั้ง ที่ผ่านมาทางสำนักนายกฯ ได้เสนอเรื่องไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการศึกษาหาแนวทาง ที่จะย้ายโรงไฟฟ้าออกไปจากชุมชนเสม็ดเหนือ และเสม็ดใต้แล้ว
ขณะที่ นางสุมิตรา กล่าวถึงการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงของทางจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า จังหวัดได้ทำหนังสือถึงสำนักนายกรัฐมนตรีตามบันทึกข้อตกลงแล้ว และได้ประสานไปยังบริษัท สยามเอนเนอร์จี จำกัด ไม่ให้เข้ามาดำเนินการใดๆ ในพื้นที่จนกว่าจะทราบคำตอบอย่างชัดเจนจากทางรัฐบาลก่อน
ด้าน นายธีระ วานิชถนอม อายุ 50 ปี หนึ่งในแกนนำกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าบางคล้า กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านยังพึงพอใจต่อคำตอบในวันนี้ในระดับหนึ่ง แต่ยังคลุมเครือไม่มั่นใจต่อทางรัฐบาล หรือส่วนราชการ ว่าจะเป็นการมาประวิงเวลาให้ชาวบ้านเสียโอกาสในการต่อสู้ต่อไปหรือไม่
วันนี้( 21 มิ.ย.52) ที่ศาลาการเปรียญวัดสนามช้าง พื้นที่ ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา นายพันธ์ชัย วัฒนชัย ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสุมิตรา ศรีสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มชาวบ้าน ในเขตพื้นที่ ต.เสม็ดเหนือ เสม็ดใต้ สาวชะโงก และบางสวน จำนวนกว่า 1,000 คน ที่เดินทางมารวมตัวชุมนุมเพื่อรอฟังคำชี้แจงถึงผลความคืบหน้า การดำเนินการตามบันทึกข้อตกลง 6 ข้อ
ที่นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา รองปลัดกระทรวงพลังงาน และนายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ร่วมกันทำไว้กับตัวแทนกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าบางคล้า ระหว่างการชุมนุมปิดถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (8-13 มิ.ย.52) เกี่ยวกับการให้จังหวัดทำหนังสือถึงสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสั่งให้หน่วยงานภาครัฐเจรจากับ บริษัทสยามเอนเนอร์จี จำกัด พิจารณาสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ โดยไม่ใช่ที่ อ.บางคล้า
นายพันธ์ชัย ชี้แจงต่อกลุ่มชาวบ้านว่า ขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ทราบเรื่องเกี่ยวกับปัญหาของชาวบ้านบางคล้า ที่หวั่นเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้คณะกรรมการกำกับพลังงานพิจารณาในเบื้องต้นก่อน เมื่อได้ข้อมูลแล้วจึงจะรายงานต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทราบ
ทั้งนี้ เพื่อนำมาพิจารณาหาคำตอบถึงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า หรือจะมีการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ นำกลับมาบอกให้แก่ชาวบ้านทราบอีกครั้ง ที่ผ่านมาทางสำนักนายกฯ ได้เสนอเรื่องไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการศึกษาหาแนวทาง ที่จะย้ายโรงไฟฟ้าออกไปจากชุมชนเสม็ดเหนือ และเสม็ดใต้แล้ว
ขณะที่ นางสุมิตรา กล่าวถึงการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงของทางจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า จังหวัดได้ทำหนังสือถึงสำนักนายกรัฐมนตรีตามบันทึกข้อตกลงแล้ว และได้ประสานไปยังบริษัท สยามเอนเนอร์จี จำกัด ไม่ให้เข้ามาดำเนินการใดๆ ในพื้นที่จนกว่าจะทราบคำตอบอย่างชัดเจนจากทางรัฐบาลก่อน
ด้าน นายธีระ วานิชถนอม อายุ 50 ปี หนึ่งในแกนนำกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าบางคล้า กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านยังพึงพอใจต่อคำตอบในวันนี้ในระดับหนึ่ง แต่ยังคลุมเครือไม่มั่นใจต่อทางรัฐบาล หรือส่วนราชการ ว่าจะเป็นการมาประวิงเวลาให้ชาวบ้านเสียโอกาสในการต่อสู้ต่อไปหรือไม่
