สกลนคร - พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร แถลงข่าวชี้แจงเหตุที่ไม่สามารถรับฝากและเก็บหีบบัตรเลือกตั้ง ส.ส.สกลนคร เขต 3
สืบเนื่องจากวันที่ 13 และ 14 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมาเป็นวันเลือกตั้งล้วงหน้า สส.สกลนคร เขต 3 และทางสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร แจ้งว่าไม่รับฝากเก็บหีบไว้ในสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร จากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้งฯ จึงประชุมด่วน! และในที่ประชุมมีมติให้เก็บรักษาหีบบัตรลงคะแนนไว้ในรถขังผู้ต้องหาโดยใส่กุญแจ ล็อกอย่างหนาแน่น ตั้งอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอนั้นๆ และจัดให้อนุกรรมการในแต่ละอำเภอรับผิดชอบตั้งคณะกรรมการจัดเวณยาม
โดยมีตัวแทนของผู้สมัครของทั้ง 2 ฝ่ายร่วมด้วยฝ่ายละ 2 คน ในกรรมการชุดนั้นๆ โดยแบ่งเป็นวันละ 3 พลัด สลับกันไปจนถึงวันเลือกตั้งปกติ ( 21 มิถุนายน 2552 )
พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร กล่าวชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่สามารถรับฝากหรือเก็บหีบบัตรเลือกตั้งไว้ที่สถานีตำรวจได้ เนื่องจากว่าห้องผู้ต้องหา มีจำไม่เพียงพอที่จะเก็บรักษาหีบบัตร อีกทั้งห้องที่เหลืออยู่ชำรุด เนื่องจากสร้างมานานหลายปีแล้ว บวกกับมีหีบเลือกตั้งเก่าๆที่ฝากเก็บไว้ในห้องขังก่อนหน้านี้เป็นปีอยู่แล้ว
จึงมองว่าไม่เป็นการสมควรที่จะเก็บรักษาหีบบัตรไว้รวมกันกับของเดิม เพราะเกรงว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดถึง
เช่น มีผู้ที่คิดอยากจะเป็นผู้ต้องหามาทำมิดีต่อหีบเลือกตั้งแล้ว จะเป็นการเสียหายอย่างร้ายแรง และอีกประเด็นสำคัญคือ ในคำสั่งแต่งตั้งกรรมการดูแลรักษาหีเลือกตั้งฯ ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2552 นั้น ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และตัวแทนจากพรรคการเมือง 1 คน/พลัด (แบ่งเป็น 3 พลัด) เพียงแค่หนึ่งพรรคการเมืองเท่านั้น มาเป็นกรรมการรักหีบบัตรฯ จึงเสนอให้นำรถกรงขังผู้ต้องหา มาเป็นที่เก็บหีบบัตรฯ
โดยตั้งคณะกรรมการเฝ้าแบ่งเป็น 3 พลัด เหมือนเดิม แต่งต้องมีพรรคการเมืองร่วมเป็นกรรมการร่วมด้วยทั้งสองพรรค พรรค ละ 2 คน เพื่อความยุติธรรมของทั้งสองฝ่าย และโปร่งใสที่สุด คณะกรรมการเลือกตั้งฯ จึงได้มีมัมติที่ประชุมและแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวในวันที่ 13 มิถุนายน 2552
พล.ต.ต.อุดม กล่าวชี้แจงต่อว่า เหตุที่ตำรวจบางนาย ถอนตัวจากการเป็นกรรมการนั้น ไม่ได้เกิดจากความน้อยใจอย่างที่เป็นข่าวแด่อย่างใด แต่เป็นเพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงของภารกิจรักษาความปลอดภัยฯ ถือว่าเป็นภารกิจที่สำคัญเหนือชีวิต จึงมีความจำเป็นที่จะต้องถอนตัวออกจากกรรมการดังกล่าว และยังให้คำมั่นสัญญาว่าตำรวจทุกนาย ยังพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
