หนองคาย - สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เลือกจังหวัดหนองคาย จัดงาน สคบ.สัญจร 24-26 มิ.ย.นี้ ตั้งเป้าให้ประชาชนในภูมิภาคได้รับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตามกฎหมาย พร้อมสุ่มตรวจสถานประกอบการในจังหวัดเน้นการให้คำแนะนำที่ถูกต้อง ไม่ใช่จับกุมดำเนินคดี
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมปทุมเทวาภิบาล ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน สคบ.สัญจร จังหวัดหนองคาย ซึ่งจังหวัดหนองคาย คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดหนองคาย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 มิ.ย. ที่โรงแรมหนองคายแกรนด์ อ.เมืองหนองคาย
การจัดงาน สคบ.สัญจร นี้มุ่งเน้นเพื่อขยายขอบเขตการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ในส่วนภูมิภาคให้มีผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เป็นการให้ผู้บริโภคในส่วนภูมิภาคได้รับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคที่พึงมีตามกฎหมายอย่างแท้จริง และการจัดตั้งอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคของกลุ่มและของประชาชนผู้บริโภคทั่วไป
รวมถึงส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจมีมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจโดยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการคุ้มครองผู้บริโภค รับผิดชอบต่อสังคม
ในการนี้จะมีการเปิดรับเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภคในจังหวัดหนองคายและรับปรึกษาให้คำแนะนำด้านสิทธิผู้บริโภค ที่สำคัญจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ 3 ชุด ไปตามร้านค้าต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบฉลากสินค้า โฆษณาและการทำสัญญาต่างๆ ในเขตอำเภอเมืองหนองคาย อำเภอท่าบ่อ อำเภอศรีเชียงใหม่ และ อำเภอโพนพิสัย ซึ่งแบ่งประเภทสถานที่ประกอบธุรกิจขายสินค้าที่ควบคุมฉลาก ได้แก่ ร้านทอง, ร้านขายอัญญมณีเครื่องประดับ, ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, เต็นท์รถมือสอง, ร้านค้าสะดวกซื้อ, ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด, ร้านขายยางรถยนต์ทุกยี่ห้อ, ร้านขายแบตเตอรี่รถยนต์
ส่วนสถานที่ประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือบริการที่จัดทำการโฆษณาจะมีการออกตรวจห้างสรรพสินค้า, ร้านค้าสะดวกซื้อ, โครงการบ้านจัดสรรและที่ดินจัดสรร, หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น, ป้ายโฆษณา แผ่นพับการโฆษณา และสถานที่ประกอบธุรกิจที่ควบคุมสัญญา เช่น ร้านขายก๊าซหุงต้ม, อู่ซ่อมรถยนต์, เต็นท์รถมือสอง, ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่อนส่ง และร้านขายรถยนต์รถจักรยานยนต์
ซึ่งการออกตรวจดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะเน้นทำความเข้าใจถึงการปฏิบัติตามกฎหมาย มากกว่าการจับกุมดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการแต่ละราย