บุรีรัมย์ - สองสามีภรรยาชาวบุรีรัมย์บุกร้องสภาทนายความ ให้ช่วยเหลือฟ้องร้องเอาผิดเต็นท์รถมือสอง หลังถูกหลอกซื้อขายรถ ด้านสภาหมอความยืนยันจะให้ความช่วยเหลือ โดยทำหนังสือแจ้งให้เต้นท์รถหน้าเลือดออกมารับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นจะฟ้องร้องเอาผิดตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 มิ.ย.) นายถนอม จันทอง อายุ 60 และนางบุญเลี้ยง จันทอง อายุ 58 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 10 บ้านกะลันทา ต.กระสัง อ.เมือง เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับนายพลกฤต เนาว์ประโคน ประธานสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ หลังได้นำรถยนต์ไปซื้อขายแลกเปลี่ยนที่เต้นท์รถมือสอง “สมบูรณ์ยนตรการ” ที่ อ.สตึก ซึ่งทางเต๊นท์รถดังกล่าวได้ตีราคารถคันดังกล่าวให้ 120,000 บาท พร้อมหักค่างวดที่ยังคงติดค้างไฟแนนซ์ 30,000 บาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เหลือเงิน 81,000 บาท
จากนั้นทางเต็นท์ได้ให้นำรถยนต์มือสองภายในเต็นท์ที่มีสภาพใหม่กว่าคันเดิม ที่นายถนอมเลือกที่จะเช่าซื้อ ไปทดลองใช้เป็นเวลา 3 เดือน หากไม่ถูกใจให้นำกลับมาคืน โดยทางเต๊นท์ให้นายถนอม เซ็นต์สัญญาบางอย่าง จากนั้นได้นำรถไปทดลองขับเพียงวันเดียวเปลี่ยนใจได้นำรถกลับมาคืนให้กับทางร้าน และขอเปลี่ยนรถคันเดิมคืน เพราะเกรงจะส่งค่างวดไม่ไหว เนื่องจากมีราคาแพง
แต่ทางเต็นท์ปฏิเสธไม่ยอมให้เปลี่ยนรถคันเก่าคืน อ้างว่าได้ขายรถคันดังกล่าวไปแล้ว ทางร้านไม่ยอมชดใช้ใดๆ จนรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงได้เข้าร้องเรียนต่อสภาทนายความให้ช่วยเหลือฟ้องร้องเอาผิดกับเต็นท์รถดังกล่าว
ด้าน นายพลกฤต เนาว์ประโคน ประธานสภาทนายความ กล่าวว่า หลังรับเรื่องทางสภาทนายความ จะได้ทำหนังสือแจ้งให้เต็นท์รถมือสอง คืนรถให้กับนายถนอม หากไม่สามารถนำรถมาคืนให้ได้ ก็ให้ชดใช้เป็นเงินตามสภาพของรถ
แต่เต็นท์ “สมบูรณ์ยนตรการ” ไม่ยอมคืนรถหรือชดใช้เงินให้กับนายถนอม ทางสภาทนายความก็จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 มิ.ย.) นายถนอม จันทอง อายุ 60 และนางบุญเลี้ยง จันทอง อายุ 58 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 10 บ้านกะลันทา ต.กระสัง อ.เมือง เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับนายพลกฤต เนาว์ประโคน ประธานสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ หลังได้นำรถยนต์ไปซื้อขายแลกเปลี่ยนที่เต้นท์รถมือสอง “สมบูรณ์ยนตรการ” ที่ อ.สตึก ซึ่งทางเต๊นท์รถดังกล่าวได้ตีราคารถคันดังกล่าวให้ 120,000 บาท พร้อมหักค่างวดที่ยังคงติดค้างไฟแนนซ์ 30,000 บาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เหลือเงิน 81,000 บาท
จากนั้นทางเต็นท์ได้ให้นำรถยนต์มือสองภายในเต็นท์ที่มีสภาพใหม่กว่าคันเดิม ที่นายถนอมเลือกที่จะเช่าซื้อ ไปทดลองใช้เป็นเวลา 3 เดือน หากไม่ถูกใจให้นำกลับมาคืน โดยทางเต๊นท์ให้นายถนอม เซ็นต์สัญญาบางอย่าง จากนั้นได้นำรถไปทดลองขับเพียงวันเดียวเปลี่ยนใจได้นำรถกลับมาคืนให้กับทางร้าน และขอเปลี่ยนรถคันเดิมคืน เพราะเกรงจะส่งค่างวดไม่ไหว เนื่องจากมีราคาแพง
แต่ทางเต็นท์ปฏิเสธไม่ยอมให้เปลี่ยนรถคันเก่าคืน อ้างว่าได้ขายรถคันดังกล่าวไปแล้ว ทางร้านไม่ยอมชดใช้ใดๆ จนรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงได้เข้าร้องเรียนต่อสภาทนายความให้ช่วยเหลือฟ้องร้องเอาผิดกับเต็นท์รถดังกล่าว
ด้าน นายพลกฤต เนาว์ประโคน ประธานสภาทนายความ กล่าวว่า หลังรับเรื่องทางสภาทนายความ จะได้ทำหนังสือแจ้งให้เต็นท์รถมือสอง คืนรถให้กับนายถนอม หากไม่สามารถนำรถมาคืนให้ได้ ก็ให้ชดใช้เป็นเงินตามสภาพของรถ
แต่เต็นท์ “สมบูรณ์ยนตรการ” ไม่ยอมคืนรถหรือชดใช้เงินให้กับนายถนอม ทางสภาทนายความก็จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป