ตาก- อุทาหรณ์วัยรุ่นชิงสุกก่อนห่าม แม่วัยรุ่น 19 ปี ทิ้งทารก 3 วันหนีกลับบ้าน กลัวถูกพ่อตี
รายงานข่าวจากจังหวัดตาก แจ้งว่า ร.ต.ต.ชัชชัย บริบูรณ์ รอง สารวัตรป้องกันและปปราบปราม สภ.เมืองตาก จ.ตาก หัวหน้าชุดปฏิบัติการสายตรวจ ได้รับแจ้งเหตุมีวัยรุ่นทิ้งทารกไว้บริเวณห้องเช่าชั่วคราว ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตาก เมื่อ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบว่า มีชาวบ้านอุ้มเด็กทารกเพศชาย เพิ่งคลอดได้ 3 วัน ชื่อน้องเอ็ม รอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ส่วนพ่อของเด็ก ทราบชื่อภายหลังคือ นายบุรินทร์ พิโรฤทธิ์ อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 147 ต.วังเจ้า อ.วังเจ้า จ.ตาก วิ่งร้องไห้ขึ้นลงรถโดยสารตามหาแฟนสาวแต่ไม่พบ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปลอบประโลม พร้อมดูทีวีวงจรปิดของสถานี พบว่า นางสาวอ้อม (นามสมมติ) อายุ 19 ปีเศษ แฟนสาว และเป็นแม่ของน้องเอ็ม ทารกน้อย ได้หนีขึ้นรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ไปแล้ว
นายบุรินทร์ ให้การด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนเองกับนางสาวอ้อย (นามสมมติ) ลักลอบคบหากันตั้งแต่เรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนประจำจังหวัดตาก แฟนสาวมีดีกรี เป็นถึงนักร้องเยาวชนประจำจังหวัด ชนะการประกวดหลายสนาม จนกระทั่งไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ที่เชียงใหม่ ตนเองก็ไปทำงานขายอาหารอยู่กับญาติ ส่วนแฟนสาวก็เรียนหนังสือ โดยมีเป้าหมายต้องการรับปริญญา แต่สุดท้ายแฟนสาวเกิดตั้งครรภ์ โดยที่พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายไม่ทราบ และทั้งสองไม่เคยคิดจะทำแท้งเอาเด็กออก
นางสาวอ้อย (นามสมมติ) เองก็ยังบอกกับตนว่า ทั้งตนและแฟนต่างเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ ส่วนลูกที่อยู่ในท้องก็คือลูกของเราทั้งสองคน ไม่คิดจะฆ่าเด็ก จะต้องเลี้ยงดูให้เขาเติบโต จนกระทั่งครบกำหนดคลอด ที่โรงพยาบาลสันทราย เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2552 และตั้งใจจะนำลูกกลับมาฝากแม่ของตนเลี้ยง และจะกลับไปทำงานหาเงินเลี้ยงน้องเอ็ม ลูกชายและแฟน ส่วนนางสาวอ้อย (นามสมมติ) เองก็จะกลับไปศึกษาต่อ
แต่เมื่อมาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตาก ซึ่งเป็นช่วงกลางคืน ไม่สามารถกลับไปหาแม่ที่ อ.วังเจ้าได้ จึงเช่าห้องพักภายในสถานีขนส่ง เพื่อให้น้องเอ็ม ลูกชายได้นอนหลับพักผ่อน จนกระทั่งเช้า นางสาวอ้อย (นามสมมติ) ให้ตนนอนเฝ้าลูก บอกว่า จะไปซื้อนมที่ร้านค้า นานจนผิดสังเกต โทรเข้ามือถือก็ปิดเครื่องหนี ตามหาจนทั่วสถานีก็ไม่พบ จนทราบว่าได้หนีขึ้นรถโดยสารไปจังหวัดเชียงใหม่แล้ว
นายบุรินทร์ ยังกล่าวอีกว่า อยากให้นางสาวอ้อย (นามสมมติ) กลับมาหาให้นมอย่างน้อยให้น้องเอ็มได้กินนมแม่สัก 1 เดือนก็ยังดี ส่วนการที่แฟนสาวหนีทิ้งลูกชายที่เพิ่งคลอดได้ 3 วันไป มาจากความเครียด กลัวว่าผู้ปกครอง พ่อแม่ซึ่งรับราชการ จะรับไม่ได้ กับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเด็กดี มีความสามารถ จะถูกลงโทษ เนื่องจากตลอดเวลาพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายไม่เคยรู้ปัญหามาก่อน ซึ่งตนเองก็พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง อยากให้น้องเอ็ม ได้รับความอบอุ่นอยู่พร้อมหน้าครอบครัว
ร.ต.ต.ชัชชัย กล่าวว่า ได้ประสานไปยัง ตำรวจทางหลวงและตำรวจ สภ.เถิน สภ.เกาะคา จ.ลำปางและ สภ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ให้ช่วยสกัดรถโดยสารทุกคันที่จะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ และจะเชิญตัวแม่ของเด็กมาเพื่อพูดคุยกัน ไม่ให้กรรมตกอยู่ที่เด็กทารกที่ไม่รู้อะไรเลย และจะเชิญผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายมาช่วยกันหาทางออก ซึ่งหากแม่ของเด็กหนีไม่กลับมา ทิ้งทารกซึ่งเป็นลูก ก็จะมีความผิดตามกฎหมาย และอยากฝากไปยังวัยรุ่นนักเรียนนักศึกษาอย่าชิงสุกก่อนหาม นึกถึงหัวออกพ่อแม่ด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านช่วยกันบริจาคเงินจำนวนกว่า 2,000 บาท เพื่อซื้อนมผงชงให้เด็กประทังหิว ซึ่งน้องเอ็ม หลังที่ได้กินนมชงก็นอนหลับไม่ร้องงอแง โดยชาวบ้านต่างช่วยกันอุ้มด้วยความเอ็นดู บางคนถึงกับน้ำตาไหล ขอเด็กไปเลี้ยง แต่ นายบุรินทร์ ยืนยันว่า จะไม่ให้ใคร จะขอเลี้ยงลูกชายจนเติบโต ให้ได้รับการศึกษาต่อไป