ตรัง - แม่ชาวอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง สุดใจร้าย ทิ้งลูกอายุแค่ประมาณ 5-6 วัน ไว้ท้ายรถกระบะ ก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะนำตัวส่งมาดูแลที่โรงพยาบาล ผู้คนจำนวนมากแห่ไปดูด้วยความสงสาร
วันนี้ (4 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถาน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ว่า ได้นำตัวทารก เพศหญิง ส่งไปให้การดูแลที่โรงพยาบาลห้วยยอด หลังจากที่ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 01.45 น.ของคืนวันที่ 4 มิถุนายน 2552 ได้รับแจ้งชาวบ้านว่า พบทารกคนดังกล่าว นอนอยู่ที่ท้ายรถกระบะ ไม่ทราบยี่ห้อ สี และหมายเลขทะเบียน บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 1 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ในขณะที่ผู้เป็นแม่นั้นไม่มีใครทราบว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน
ต่อมาได้มีการนำตัวทารกคนดังกล่าว ส่งให้กับงานบริการคลอด กลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลห้วยยอด ในสภาพที่ห่อด้วยผ้าขนหนูสีขาว สวมเสื้อเด็กอ่อนสีฟ้า และถุงมือสีส้ม โดยมีก้อนสำลีติดพลาสติกที่หลังมือขวา ส่วนสายสะดือผูกด้วยด้ายสีดำ และมีอายุประมาณ 5-6 วัน ซึ่งจากการตรวจดูอาการพบว่าเด็กมีน้ำหนัก 2,540 กรัม สุขภาพแข็งแรง และมีสัญญาณชีพปกติ อย่างไรก็ตาม หลังข่าวพบทารกแพร่สะพัดออกไป มีพยาบาล เจ้าหน้าที่ ตลอดจนผู้ป่วย ผู้เฝ้าไข้ และประชาชน เดินทางมามุงดูกันเป็นจำนวนมากด้วยความรู้สึกสงสาร
นายแพทย์ ปิยวิทย์ เนกขพัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลห้วยยอด กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ที่มาคลอดที่โรงพยาบาลห้วยยอด ไม่พบทารกที่คลอดแล้วมีลักษณะดังกล่าว นอกจากนี้ สังเกตได้ว่า การผูกสายสะดือทารก ไม่ใช่รูปแบบของทางโรงพยาบาลห้วยยอด โดยสายสะดือของเด็กผูกในลักษณะใช้ด้ายสีดำ ส่วนโรงพยาบาลห้วยยอด จะใช้วิธีใช้ยางมัดสายสะดือ ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลจะนำส่งตัวเด็กไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดตรัง เพื่อให้การช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
วันนี้ (4 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถาน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ว่า ได้นำตัวทารก เพศหญิง ส่งไปให้การดูแลที่โรงพยาบาลห้วยยอด หลังจากที่ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 01.45 น.ของคืนวันที่ 4 มิถุนายน 2552 ได้รับแจ้งชาวบ้านว่า พบทารกคนดังกล่าว นอนอยู่ที่ท้ายรถกระบะ ไม่ทราบยี่ห้อ สี และหมายเลขทะเบียน บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 1 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ในขณะที่ผู้เป็นแม่นั้นไม่มีใครทราบว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน
ต่อมาได้มีการนำตัวทารกคนดังกล่าว ส่งให้กับงานบริการคลอด กลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลห้วยยอด ในสภาพที่ห่อด้วยผ้าขนหนูสีขาว สวมเสื้อเด็กอ่อนสีฟ้า และถุงมือสีส้ม โดยมีก้อนสำลีติดพลาสติกที่หลังมือขวา ส่วนสายสะดือผูกด้วยด้ายสีดำ และมีอายุประมาณ 5-6 วัน ซึ่งจากการตรวจดูอาการพบว่าเด็กมีน้ำหนัก 2,540 กรัม สุขภาพแข็งแรง และมีสัญญาณชีพปกติ อย่างไรก็ตาม หลังข่าวพบทารกแพร่สะพัดออกไป มีพยาบาล เจ้าหน้าที่ ตลอดจนผู้ป่วย ผู้เฝ้าไข้ และประชาชน เดินทางมามุงดูกันเป็นจำนวนมากด้วยความรู้สึกสงสาร
นายแพทย์ ปิยวิทย์ เนกขพัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลห้วยยอด กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ที่มาคลอดที่โรงพยาบาลห้วยยอด ไม่พบทารกที่คลอดแล้วมีลักษณะดังกล่าว นอกจากนี้ สังเกตได้ว่า การผูกสายสะดือทารก ไม่ใช่รูปแบบของทางโรงพยาบาลห้วยยอด โดยสายสะดือของเด็กผูกในลักษณะใช้ด้ายสีดำ ส่วนโรงพยาบาลห้วยยอด จะใช้วิธีใช้ยางมัดสายสะดือ ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลจะนำส่งตัวเด็กไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดตรัง เพื่อให้การช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
