ทึ่งแพนด้าน้อยพัฒนาการเร็ว คาดลืมตาเร็วกว่าปกติ

เชียงใหม่ – แพนด้าน้อยพัฒนาการดีต่อเนื่องน้ำหนัก-ความยาวลำตัวเพิ่ม คาดลืมตาเร็วกว่าปกติ พร้อมปรับแผนให้แม่ลูกใกล้ชิดกันมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า หลินฮุ่ย แพนด้าแม่ลูกอ่อนในสวนสัตว์เชียงใหม่ เริ่มกินต้นไผ่ และหน่อไม้ไผ่ลูกศรที่พี่เลี้ยงไปตัดมาจากอุทยานดอยผาตั้ง และยังคงเป็นไผ่ชนิดเดียวที่หลินฮุ่ยยอมกินอยู่ โดยต้องตัดเป็นท่อนและปลอกเปลือกให้กิน เนื่องจากหลินฮุ่ยเองไม่สามารถกินอาหารได้เต็มที่ เนื่องจากยังคงต้องพะวงที่จะคอยหันมาดูแลแพนด้าน้อยอยู่ตลอดเวลา

นอกจากนี้นายเว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีนและทีมสัตวแพทย์ได้ทำการแยกแพนด้าน้อยออกมาจากแม่หลินฮุ่ย เพื่อทำการตรวจสุขภาพและพัฒนาการของลูกแพนด้า

จากการสังเกตพบว่าแพนด้าน้อยมีความแข็งแรงตัวโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งเสียงดัง และเริ่มชินกับการแยกตัวออกมาจากแม่อยู่ในตู้อบเป็นเวลานานขึ้น

ทางด้านนายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูลทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสุขภาพวันนี้ แพนด้าน้อยมีพัฒนาการที่เร็วกว่าแพนด้าทั่วไปขึ้นอีกขั้น โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากสองวันก่อนถึง 70 กรัม หรือเฉลี่ยวันละ 35 กรัม น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 395 กรัม และความยาวเพิ่มขึ้น 1 เซนติเมตร หรือเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจากช่วง 2 วันก่อน บริเวณท้องของแพนด้าน้อยตึง ทำให้เห็นว่าแพนด้าน้อยได้รับน้ำนมจากแม่ในปริมาณที่มากเพียงพอ

ขณะที่ความยาวจากปลายจมูกถึงปลายหางวัดได้ 20 เซนติเมตร ถือว่าเป็นพัฒนาการที่เร็วกว่าแพนด้าทั่วไป นอกจากนี้ลักษณะภายนอกของแพนด้ามีขนยาวขึ้น ใบหูมีสีดำชัด รอบดวงตา แขน ขา หลัง มีสีดำชัดเจนขึ้นด้วย ขณะที่บริเวณเปลือกตาวันนี้พบว่า มีรอยขีดเป็นเส้นตรง เหมือนพัฒนาการที่จะทำให้แพนด้าน้อยเปิดตา คาดว่าอาจจะใช้เวลาน้อยกว่า 45 วัน แพนด้าน้อยตัวนี้ก็จะลืมตาได้

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ปรับแผนการดูแลพัฒนาการของแพนด้าน้อย โดยจะปล่อยให้แม่หลินฮุ่ยได้มีเวลาเลี้ยงลูกอย่างเต็มที่โดยจะทำการแยกแพนด้าน้อยออกมาตรวจ ทุกๆ 3 วัน แต่ก็จะพยายามให้พี่เลี้ยงคอยดูแลเรื่องอาหารให้แม่หลินฮุ่ย เพราะยังมีอาการพะวงที่จะต้องดูแลลูกน้อยทำให้กินอาหารไม่เต็มที่