น่าน – พบป่าสงวนเมืองน่านถูกโค่นราบเกือบ 200 ไร่ ค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท แต่ยังหาตัวผู้กระทำความผิดไม่เจอ คาดฝีมือนายทุนปักษ์ใต้ จ้างนายหน้าที่ดินเมืองน่านรุกป่าปลูกยางพารา
รายงานข่าวจากจังหวัดน่านแจ้งว่า คณะเจ้าหน้าป้องกันรักษาป่าภายใต้อำนวยการนายทะนงศักดิ์ ธรรมโม ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย ,พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ อยู่รักชาติ หน.หน่วยเฉพาะกิจ สภ.เมืองน่าน พร้อมสายตรวจปราบรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ภาคเหนือ 3 หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้จังหวัดน่าน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.10 หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.9 และหน่วย นน.ที่ 8 นามน อ.เมือง ,ที่27 อ.สองแคว,ที่ 12 อ.เขียงกลาง จนท.ตำรวจ กก.2ปก.ปทส.จ.น่าน จนท.ตำรวจ ร้อย ตชด.324 เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเมืองน่าน นายก. อบต.กำนัน,ผญบ. ต.บ่อ จำนวน 50 คน ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออกตอนใต้ บ้านวังหมอ หมู่ 1 ตำบลบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน
นายทะนงศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้หวังดีทางโทรศัพท์ว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีนายทุนจากต่างพื้นที่ได้ว่าจ้างชาวบ้านบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่าสงวนโซนซี เพื่อยึดถือครอบครอง เพื่อทำการปลูกยางพารา จำนวนหลายร้อยไร่ ตนจึงได้ นำ ฮ. ทำการบินตรวจสอบสภาพป่า เมื่อ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตรวจพบการบุกรุกพื้นที่บริเวณกว้าง ตามพิกัด 47Q 0687722 E 2094953N จริงตามที่ร้องเรียน
โดยมีภาพถ่ายทางอากาศที่ได้ขึ้น ฮ.บินสำรวจ เมื่อ 22 พ.ค. พบว่า มีการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานบุกแผ้วถางป่าโดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 11 ฐานทำไม้ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 69 ฐานมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต จึงได้ทำการตรวจยึดไม้หวงห้ามจำนวน 14 ท่อน คิดเป็นเงิน 5,460 บาท ทำการตรวจยึดพื้นที่ป่าถูกบุกรุกจำนวน 180-1-85 ไร่ คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ 12,315,523,00 บาท พร้อมจัดทำบันทึกการตรวจยึดและเอกสารที่เกี่ยวข้องนำส่งพนักงานสอบสวน หาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป
จากการตรวจสอบพบพื้นที่บุกรุกแผ้วถางและทำการจุดไฟเผาพื้นที่บางส่วน และกองไม้ที่รอการเผาเป็นจุด ๆ ลักษณะเป็นการบุก เป็นลักษณะการบุกรุกใหม่ ในขณะทำการตรวจสอบไม่พบผู้กระทำความผิดเนื่องจากพื้นที่ถูกทำลายจนเตียนโล่งสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ได้ก่อน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบการปลูกสร้างเพิงพักชั่วคราว 4 หลัง ไม้กระเลยหวงห้าม ถูกตัดโค่นล้มลง 14 ท่อน ละยังที่ไม่ได้ถูกตัดอีกเป็นจำนวนมาก จึงได้แจ้งให้ นายก อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ขอให้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้ทราบว่า พื้นที่บริเวณนี้ตั้งแต่บัดนี้ห้ามมิให้ผู้ได้เข้ามาทำไร่ปลูกพืชไร่ใดๆทั้งสิ้น นอกจากเข้ามาเก็บหาของป่า พืชผักได้
นายเชิดชัย วงศ์สายญาติ กำนันตำบลบ่อ กล่าวว่า พื้นที่บุกรุกดังกล่าวไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ เมื่อหลายปีก่อนทราบว่าผู้ครอบครอง คือ นายเกรียงศักดิ์ ไม่ทราบนามสกุล เป็นชาวกรุงเทพมหานคร มาตั้งโกดังรับซื้อผลผลิตทางเกษตร บริเวณใกล้กับพื้นที่ป่าถูกบุก ริมถนนน่าน – ทุ่งช้าง และก็หายตัวไปจากหมู่บ้านไม่ทราบไปอยู่ที่ใด และทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวมี นายะวัธ สุดสงวน ชาวบ้านผาขวาง หมู่ 4 ต.บ่อ อ.เมืองน่าน เป็นผู้ดูแล
ส่วนการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด รู้แต่ว่าเริ่มมีการกระทำการบุกรุก เมื่อประมาณเดือน มี.ค.ที่ผ่านโดยเบื้องต้นน่าจะ เป็นพวกนายทุนที่เดินทางมาจากภาคใต้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ฆ่าชาวสวนยางภาคใต้ จึงทำให้ชาวสวนยางหวาดกลัว ขายสวนยางได้ราคาสูง เดินทางเข้ามาฝังตัวที่จังหวัดน่าน พร้อมกับให้นายหน้าที่เป็นคนน่านออกกว้านซื้อที่มาให้กับนายทุนที่อยู่เบื้องหลังเพื่อทำสวนยาง
จากวิจัยแล้วปรากฏว่าผลผลิตน้ำยางของจังหวัดน่านมีคุณภาพดี เวลากรีดยางมีระยะยาวกว่าภาคใต้ พวกนายทุนจึงเดินทางเข้ามาจังหวัดน่านกว้านซื้อที่ไปแล้วเป็นจำนวนมาก