อุตรดิตถ์ - ป่าไม้ภาคเหนือโชว์ฟอร์ม ขยายผลขบวนการค้าไม้เถื่อน พบแหล่งตัดไม้สักขนาดใหญ่ ในเขตป่าสงวนน้ำปาด อุตรดิตถ์ จนท.ป่าไม้นำกำลังขึ้นพิสูจน์ถึงยอดภู-ต้นน้ำปาด พบซากปีกไม้และตอไม้สักอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปีเพียบ แต่ไม่สามารถนำลงมา ต้องรอช้างชักลาก
รายงานข่าวจากจังหวัดอุตรดิตถ์แจ้งว่านายสักรินทร์ ปัญญาใจ หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฏหมายว่าด้วยการป่าไม้ภาคเหนือ(เชียงใหม่-เหนือบน), นายนันทพงษ์ คำปิน สายตรวจป่าไม้ภาคเหนือ(พิษณุโลก-เหนือล่าง) , นายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าหน่วยเคลื่อนที่เร็ว(นคร)ป้องกันและรักษาป่า(ภาคเหนือ)ที่ 1, ได้รับคำสั่งจากรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและอธิบดีกรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 31 พ.ค.52 ที่ผ่านมา ให้ขยายผลการจับกุมขบวนการค้าไม้เถื่อนที่ถูกจับเมื่อ 27 พ.ค.52 บริเวณถนนพิษณุโลก-ลานกระบือ บรรทุกไม้สักแปรรูปท่อนเหลี่ยม 91 ท่อน (12.21ลูกบาศ์กเมตร) เต็มรถบรรทุกทะเบียน กพ.81-7856 ระหว่างไปส่งขายปลายทางที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้สืบทราบว่า ไม้สักแปรรูปดังกล่าวว่า ถูกตัดและชักลากออกจากท้องที่อำเภอน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ จึงได้สนธิกำลังกว่า 15 นายพร้อมอาวุธครบมือ เดินเท้าขึ้นไป 3 กิโลเมตรบนยอดภูเขาซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำปาด ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติน้ำปาด อยู่บริเวณหลังอ่างเก็บน้ำ ใกล้เคียงกับพื้นที่หมู่ 1 บ้านท่าโพธิ์ ต.เด่นเหล็ก อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ แต่ไม่พบกลุ่มขบวนการตัดไม้ ตรวจสอบพบเพียง ท่อนไม้สักท่อนยังไม่ได้แปรรูปจำนวนมาก ตัดทิ้งกองไว้ข้างทาง ทั้งนี้สภาพถนนของกลุ่มพ่อค้าไม้ทำทางไว้ เหมาะสำหรับรถดัดแปลงเพื่อการเกษตรวิ่งชักไม้สักออกจากพื้นที่เท่านั้น รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อทั่วไปไม่สามารถเข้าไปถึง
ที่เกิดเหตุบนยอดภูเขายังพบห้างพักชั่วคราวของคนงาน มีเพิงพักและประกอบอาหาร มีข้าวและน้ำไว้อยู่กินระหว่างทำงาน พร้อมอุปกรณ์แปรรูปไม้สัก ท่ามกลางปีกไม้หรือเศษไม้สักที่เหลือจากกรแปรรูปไม้ครั้งนี้จำนวนมาก และยังมีท่อนไม้สักที่ล้มแล้ว แต่ไม่ได้แปรรูปขนาดใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้นับจำนวนตอไม้สักที่ถูกตัดไปแล้ว 40 ตอ ขนาดเฉลี่ย 3 คนโอบ สภาพป่าโดยทั่วไปยังสมบูรณ์ ยังมีต้นไม้สักขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ยอดภูเขาอีกจำนวนมาก ล้วนมีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปีเนื่องจากอยู่ในป่าทึบ อยู่ไม่ห่างจากเทือกเขาวนอุทยานสักใหญ่ จ.อุตรดิตถ์มากนัก
การตรวจสอบในพื้นที่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำการยึดไม้แปรรูปจำนวน 13 แผ่น ไม้สักท่อน 27 ท่อนยังไม่ได้แปรรูป โดยให้เจ้าของพื้นที่คือ หน่วยป้องกันและรักษาป่า อต. ที่ 7(บ้านม่วง) นำช้างชักลากไม้ของกลางลงมาจากยอดภูเขาต่อไป