เชียงใหม่- “หลินฮุ่ย” แม่แพนด้า เริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หลังจากเลี้ยงลูกแพนด้า ที่เพิ่งเกิดมาตลอด 5 วัน พยายามยื่นขาออกมานอกกรง เพื่อให้พี่เลี้ยงนวดเกือบตลอดเวลา ขณะเดียวกัน แพนด้าน้อยเริ่มมีขนสีดำบริเวณหูทั้งสองข้างและมีสีเทาจางๆ บริเวณขอบตา ด้านผู้เชี่ยวชาญการเลี้ยงแพนด้าจากจีนระบุว่าเป็นพัฒนาการที่รวดเร็วมาก ปกติลูกแพนด้าจะเริ่มพบขนสีดำเมื่ออายุ 7 วัน ขณะที่นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางชมและให้กำลังใจ"หลินฮุ่ย"และลูกน้อยเป็นระยะๆ
วันนี้ (31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลินฮุ่ยแม่แพนด้าที่เพิ่งให้กำเนิดลูกน้อยได้เพียง 5 วัน เริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หลังจากอุ้มลูกน้อยมาตลอด 5 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีนวดขาและลำตัวของหลินฮุ่ย ซึ่งหลินฮุ่ยดูเหมือนจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้นและพยายามยื่นขาออกมานอกกรง เพื่อให้พี่เลี้ยงนวดเกือบตลอดเวลา
ขณะที่แพนด้าน้อยสามารถกินนมแม่ได้อย่างดีและมีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยเจ้าหน้าที่เริ่มพบขนสีดำบริเวณหูทั้งสองข้างและมีสีเทาจางๆ บริเวณขอบตา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญการเลี้ยงแพนด้าจากจีนบอกว่าเป็นพัฒนาการที่รวดเร็วมาก เพราะตามปกติลูกแพนด้าจะเริ่มพบขนสีดำเมื่ออายุ 7 วัน
ขณะเดียวกัน ยังมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางไปชม และให้กำลังใจหลินฮุ่ยและลูกน้อยเป็นระยะ แม้จะเป็นการชมผ่านภาพโทรทัศน์วงจรปิดก็ตาม
ด้าน พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช อดีตประธานคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเจรจาขอแพนด้าจากจีนเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เดินทางเยี่ยมแพนด้าน้อยพร้อมเปิดเผยว่า การเจรจาขยายเวลาการอยู่เมืองไทยของช่วงช่วงและหลินฮุ่ย ซึ่งจะครบสัญญา 10 ปีไม่น่าจะมีปัญหา แต่การขยายเวลาแพนด้าน้อยออกไปจากกำหนด 2 ปี จำเป็นที่รัฐบาลต้องหารือเป็นพิเศษกับจีน
นอกจากนี้ พล.อ.เลิศรัตน์ และตัวแทนภาคเอกชนยังได้มอบเงิน 2 แสนบาท สมทบกองทุนแพนด้า เพื่อนำไปสนับสนุนการอนุรักษ์แพนด้าในจีนตามข้อตกลง โดยหากไทยได้ลูกแพนด้าต้องจ่ายเงินเข้ากองทุน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐให้กับจีน
